นานาทรรศนะแรงงานกัมพูชาขอทำงานในประเทศไทยทำมาหากินเลี้ยงชีพในประเทศไทยดีกว่า
เมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ 24 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี จากที่สถานการณ์ไย – กัมพูชา พร้อมผู้นำประเทศกัมพูชาประชาสัมพันธ์ให้ชาวกัมพูชากลับไปทำงานบ้านเกิดเมืองนอน นั้น
อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เป็นเขตพื้นที่ต่อจาก จ.สระแก้วที่ติดพรมแดนกัมพูชา มีเขตนิคมอุตสาหกรรม อาทิ สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ กบินทร์บุรี นิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี นิคมอุตสาหกรรมบ่อทอง 33 มีแรงงานต่างด้าวทั้งพม่า ,จีน แรงงานกัมพูชา (เขมร) ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย จำนวนมาก ตลอดรวมถึงตามร้านค้า ตามไร่นา เรือกสวนการเกษตร
แต่แรงงานกัมพูชาส่วนใหญ่ที่พบจะใช้แรงงานจำพวกอยู่ในการเกษตร หรือผู้ใช้แรงงานตามไร่ในสวนของเถ้าแก่ แรงงานเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมาทำงานเป็นครอบครัว เมื่อกัมพูชาประกาศจะรับแรงงานกลับประเทศ ทั้งภาคโรงงานอุตสาหกรรม ฟาร์ม บริษัท และ ไซต์งานก่อสร้างในประเทศไทยผู้ใช้แรงงานกลุ่มที่ใช้แรงงานรับจ้างทำงานในไร่ในสวนส่วนใหญ่ พบว่ารายงานกลุ่มนี้เข้ามาทำงานในพื้นที่ 10-20ปีบางรายใช้แรงงานในไทย29 ปีกระทั่งลูกโตเป็นหนุ่มเป็นสาว มีรายได้เฉลี่ยวันละ 400 บาท/วัน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนานาทรรศนะกับนายกรต อายุ 50 ปี และนายแดน อายุ 44 ปี ทั้งสองเป็นแรงงานชาวกัมพูชา เข้ามารับจ้างเป็นคนงานเฝ้าสวนปาล์ม9ปีของเถ้าแก่ในพื้นที่ ต.เขาไม้แก้ว กล่าวว่า มาทำงานในประเทศไทยรู้สึกและสัมผัสได้ว่า เถ้าแก่และคนไทยเป็นคนใจดีจ่ายค่าแรงตามค่าจ้างและดูแลลูกจ้างอย่างดีเสมอมา ไม่ขอกลับประเทศกัมพูชาเพราะถ้ากลับเข้าประเทศไม่รู้ว่าจะอยู่อย่างไร
ด้านนายเหยิน ยุนโพลง อายุ 55 ปี กล่าวว่า ตนเองกับภรรยาเข้ามาทำงานอยู่ในประเทศไทยมากกว่า 29ปี โดยรับจ้างทำงานอยู่กับเถ้าแก่ในพื้นที่ ต.ย่านรี รับจ้างทำงานตัดไม้ยูคาลิปตัสกับเถ้าแก่มีรายได้ที่มั่นคง เถ้าแก่ใจดีและรักตนเองและครอบครัวเหมือนญาติ เถ้าแก่และคนไทยเป็นคนใจดี รับจ้างทำงานอยู่กับเถ้าแก่ได้วันละ 400 บาท /วัน มีรายได้พ่อเลี้ยงครอบครัว มีความสุขมากกว่าในกัมพูชา ไม่ขอกลับเข้าประเทศกัมพูชาหากกลับไปไม่มีงานทำ อยู่แบบอดๆอยากๆป่วยก็ตายฟรีขอทำมาหากินเลี้ยงชีพในประเทศไทยดีกว่า
มานิตย์ สนับบุญ -ข่าว /ทองสุข สิงห์พิมพ์ – ภาพ/ ปราจีนบุรี