นายกฯอิ๊ง แถลง 3 หน่วยงานราชการบูรณาการจับ”ยาไอซ์”2.3 ก.ก. มูลค่า 239 ล้านบาท วันที่23มิ.ย.68 เมื่อเวลา16.00 น. ที่กระทรวงยุติธรรม เขตหลักสี่ กทม. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานแถลงข่าวผลการสกัดกั้นจับกุมการลำเลียงยาเสพติดเพื่อเตรียมส่งออกไปยังประเทศที่สาม โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ,นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ, พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ, ผู้แทนกองทัพเรือ และผู้แทนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร่วมแถลงการจับกุมฯ โดยการปฏิบัติการดังกล่าว สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กองคดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ได้รับแจ้งข่าวสารจากแหล่งข่าวว่า กลุ่มบุคคลผู้รับจ้างเดินเรือยนต์ท่องเที่ยวประเภท 90 ตันกรอส มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดผิดกฎหมายจากบริเวณปากน้ำประแส ต.ปากน้ำกระแส อ.แกลง จ.ระยอง ไปยังพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยเพื่อลำเลียงส่งต่อไปยังประเทศที่สาม ดีเอสไอ จึงสนธิกำลังกับกองทัพเรือและสำนักงานป.ป.ส. บุกทลายเครือข่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ยึดของกลางเป็นยาไอซ์ จำนวน 2,399 กิโลกรัม มูลค่าในประเทศกว่า 239 ล้านบาท ซุกเรือเตรียมส่งออก มูลค่าในต่างประเทศกว่า 2,000 ล้านบาท โดยนายกฯ กล่าวว่า”วันนี้ได้มาร่วมงานจับยาเสพติดคือยาไอซ์ ที่จับได้เกือบ 2.4 ตัน ซึ่งมีการจับที่นำผ่านมาทางเรือ และเห็นแล้วว่าเป็นความร่วมมือแบบบูรณาการของทุกภาคส่วนจริงๆ ตั้งแต่มีการให้ข้อมูลมา จนถึงเบาะแส ตรวจจับ ซึ่งอันนี้เป็นรูปแบบของการมาทางน้ำ จะเห็นว่ายาเสพติดล็อตใหญ่ๆแบบนี้ เริ่มทยอยจับได้มากขึ้นเยอะ ซึ่งเป็นความพยายาม ความอดทนของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน และตอนนี้คนที่ขนส่งยาเสพติดกำลังถูกดำเนินคดีอยู่ และกำลังสืบต่อไปว่าใครที่เป็นตัวการใหญ่ที่เป็นเจ้าของยาเสพติดล็อตนี้ ซึ่งตอนนี้ดีเอสไอได้ข้อมูลมาแล้วว่าเป็นใคร ยังไงเมื่อได้ข้อมูลที่สมบูรณ์แล้วจะแถลงอีกครั้งและถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีมากๆที่จับยาได้ล็อตใหญ่ขนาดนี้ แปลว่าเบาะแสและการทำงานบูรณาการของทุกภาคส่วนส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ให้เห็นจริงๆ จึงขอให้ประชาชนสบายใจว่าเรื่องของยาเสพติดรัฐบาลจริงจังกับเรื่องนี้ และทุกภาคส่วนก็พร้อมที่จะทำงานกับรัฐบาลในการทำให้นโยบายสำเร็จ เพราะว่าถ้าศักยภาพของคนยังถูกปนด้วยยาเสพติดในเยาวชน การพัฒนาประเทศก็เป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น อันนี้เขารับมาที่ประเทศเราแล้ว พอขายไปต่ออีกประเทศหนึ่งราคาก็จะบวกเพิ่มขึ้นไปอีก เป็นธุรกิจที่นำต่อไปทั่วโลก และส่งผลเสียต่อคนทั่วโลก ซึ่งเรามีทีมคนไทยทุกภาคส่วนที่แข็งแรงก็ทำให้ยาเสพติดมันหยุดที่ตรงนี้ ที่ประเทศเรา ต้องขอชื่นชมทุกๆท่าน อาจจะคิดว่าจับได้หนึ่งล็อต แต่จริงๆแล้วถ้าล็อตนี้จับไม่ได้มันเข้าไปสู่ประเทศชาติเสียหายอย่างมาก และไปต่อประเทศอื่นด้วย อันนี้เป็นด่านที่สามารถช่วยประเทศชาติไว้อย่างยิ่งใหญ่ ต้องขอชื่นชมและขอขอบคุณทุกภาคส่วนอีกครั้ง”