อดีต ผอ.ร้องเพลงสะท้อนการเมือง “เล่ห์เหลี่ยมคุณลุง”ย้อนความรู้ถึงประวัติความสัมพันธ์กัมพูชากับไทยในอดีตนับจากเคยเป็นประเทศราชของไทยจนล่าสุดมีคลิปหลุดในการเจรจาทางโทรศัพท์เจรจาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฮุนเซนประธานวุฒิสภา กัมพูชา สู่สาธารณชน ซึ่งมีผลกระทบต่ออธิปไตย ดินแดน ผลประโยชน์ของประเทศไทยและกองทัพไทย และ ขอให้กำลังใจแม่ทัพภาค 2 ผ่านบทเพลงพร้อมแสดงทรรศนะ “อุ๊งอิ๊งค์”นายกรัฐมนตรีต้องแสดงสปริตทางการเมืองเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการลาออก จะดูสง่างามที่สุด
เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ 22 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานาก จ.ปราจีนบุรีพบโพสต์ในYouTube โดยผู้ใช้ชื่อ ผอ.กัน ประจันตคาม Kanpichet Maliket ( นายกันพิเชษฐ์ มลิเกตุ ) ได้โพสต์เพลงที่แต่งเอง – ร้องเอง ชื่อเพลง “เล่ห์เหลี่ยมคุณลุง” ( https://youtu.be/QatLAK_WQpI?si=9DjS-EnZ05iu3A5w ) โดยเนื้อหาเพลงกล่าวสรุปความ …
กล่าวย้อนถึงประวัติความเป็นมาสัมพันธ์กันของกัมพูชากับไทยในอดีต นับจากกัมพูชาเคยเป็นประเทศราชของไทย แต่ภายหลังยุคล่าอานิคม จากยุโรปไทยได้ยกดินแดนให้ฝรั่งเศส และภายหลังกัมพูชาได้รับเอกราชคืนจากฝรั่งเศสแล้ว ได้แบ่งแนวเขตแดนโดยใช้สันปันน้ำเป็นแนวเขต และ ได้กระทบกระทั่งแนวเขตทับซ้อนกันเรื่อยมา ก่อนหน้าเคยมีกรณีพิพาทแนวเขตแดนทับซ้อนไทยได้เสียปราสาทเขาพระวิหารให้กัมพูชาทั้งที่เป็นของไทยเราหลังจากมีการนำเรื่องสู่ขึ้นศาลโลก
จนล่าสุดเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางกัมพูชาได้พยายามรุกล้ำอธิปไยที่จะอ้างสิทธิว่าปราสาทตาเมือนธมเป็นของกัมพูชาจนถึงมีการปะทะกันระหว่างทหาร ที่ช่องบก ต่อมา และจนกระทั่งมีคลิปการเจรจาทางโทรศัพท์เจรจาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภา กัมพูชา หลุดผ่านสู่สาธารณชน ซึ่งมีผลกระทบต่ออธิปไตย ดินแดน ผลประโยชน์ของประเทศไทย และ กองทัพไทย และ ขอให้กำลังใจแม่ทัพภาค 2 พร้อมเสนอทรรศนะนายกอิ้งค์ต้องแสดงสปริตทางการเมืองเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ยอมรับผิดในการกระทำของตัวเอง ด้วยการลาออก จะดูสง่างามที่สุด
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พบกับนายกันพิเชษฐ์ มลิเกตุ อายุ 62 ปี นักแต่งเพลงชาว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี อดีตผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่บ้านพักพร้อมกับขอให้ร้องเพลงดังกล่าวสด ๆ ให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ และ สะท้อนสู่สังคมอีกแนวทางหนึ่ง
นายกันพิเชษฐ์ เปิดเผยว่า ที่มาของเพลงเล่ห์เหลี่ยมคุณลุงนี่ จะขอย้อนลำดับเหตุการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาในอดีต เมื่อครั้งอังกฤษฝรั่งเศสเป็นประเทศนักล่าอาณานิคม ประเทศรอบบ้านของไทย ต่างเป็นเมืองขึ้นทั้งหมดยกเว้นไทย ทั้งประจันตคีรีเขตร พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ ก็เคยเป็นของไทยมาก่อน แต่เมื่อหมดยุคการล่าอาณานิคมแทนที่ฝรั่งเศสจะคืนทั้งสี่เมืองให้กับเจ้าของเดิมคือไทย กลับไปยกให้กัมพูชา แถมปี 2505 กรณีเขาพระวิหารก็เช่นเดียวกันศาลโลกยังมาตัดสินให้ไทยแพ้แก่กัมพูชาอีกเพราอะไรคนที่ศึกษาประวัติศาสตร์คงเข้าใจดี เขาพระวิหารจึงตกไปเป็นของกัมพูชา นี่คือความเจ็บปวดในอดีตที่พวกเราได้รับและทราบกันดี
ในเพลงนี้จึงได้เขียนลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาไม่กี่วันนี่เองตั้งแต่มวลชนกัมพูชาขึ้นมาทำกิจกรรมบนปราสาทตาเมือนธม จนมีการพูดจาตอบโต้กันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาจนเป็นข่าวโด่งดัง ฮีโร่ในครั้งนั้นก็คือสิบเอกชัยบุญ นวลจันทร์
ลำดับต่อมาก็มาเกิดเหตุการณ์ที่บริเวณช่องบกจังหวัดอุบลราชธานี ทหารกัมพูชารุกคืบเข้ามาด้วยวิธีการต่างๆมาแขวนแปลนอนบ้าง ปลูกกระท่อมเล็กๆบ้าง ที่สำคัญมาขุดคูเล็ตเป็นแนวยาวในพื้นทับซ้อนทหารไทยได้มีการเจรจาให้ถอยออกไป ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นการยั่วยุในทุกรูปแบบทั้งสิ้น จนนำไปสู่การปะทะกันในที่สุดทหารกัมพูชาเสียชีวิตไป1นาย นี่คือที่มาเหตุการณ์ทั้งหมดที่กัมพูชาต้องการที่จะเอาผืนแผ่นดินของไทยทั้ง 4 พื้นที่พิพาทนี้ คือช่องบก ปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาเมือนธม ไปเป็นของกัมพูชาโดยการนำเอา 4 พื้นที่พิพาทดังกล่าวขึ้นฟ้องศาลโลกตามที่ตัวเองเคยชนะคดีมากรณีปราสาทเขาพระวิหาร โดยเอาเหตุการณ์การปะทะกันเป็นข้ออ้างทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต
ต้องเข้าใจนะว่าประเทศไทยเป็นประเทศใหญ่มีพื้นที่ประมาณ 5 แสนกว่าตารางกิโลเมตรประชากรเกือบ 70 ล้านคน กัมพูชาเป็นประเทศเล็กมีพื้นที่เพียงประมาณ 1.8 แสนกว่าตารางกิโลเมตร ประชากรประมาณ 17 ล้านคน ทั้งพื้นที่และประชากรของไทยมากกว่าถึงสามสี่เท่าตัว ถ้าไทยจะเกเรรังแกนั้น กัมพูชาคงไม่เหลือซากหรอกจริงไหม แต่นี่เรียกว่าได้คืบ จะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา
ส่วนเล่ห์เหลี่ยมคุณลุง ที่ตนเอามาเป็นชื่อเพลงนั้น มองว่าการที่นายกรัฐมนตรีโทรศัพท์ส่วนตัวไปเจารจาคุยลับกับฮุนเซ็นนั้น ถือว่าเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พูดง่ายๆก็คืออ่อนประสบการณ์ โดยไม่คิดถึงผลกระทบที่จะตามมาในภายหลัง เพราะศึกภายในประเทศไทยมีความขัดแย้งทางความคิดหลายกลุ่มหลายฝ่าย มีมากมายอยู่แล้ว
อีกอย่างเล่ห์เหลี่ยมฮุนเซ็นก็ไม่ใช่ธรรมดาผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ มีหรือจะไม่หาวีธีการตลบหลัง ด้วยการบันทึกเสียงเอาไว้ใช้ในยามจำเป็น นึกภาพตามดูนะครับพี่กับน้อง ไทยเราเปรียบเสมือนพี่ กัมพูชาเปรียบเสมือนน้อง พี่กับน้องมักไม่ค่อยถูกกันไม่ค่อยลงรอย แต่คนเป็นพี่พ่อแม่จะคอยสอนเสมอว่าเขาคือน้องนะอย่าได้ถือสาน้องให้อภัยน้องนะ แต่น้องนี่จะคอยแย่งเอาของเล่นทุกอย่างจากพี่ พี่ไม่ให้ก็อาจจะไปฟ้องพ่อแม่ หรือไม่ก็ถือวิสาสะขโมยเอา หากเจอพี่ที่ใจดีอาจจะยกของเล่นให้ ไม่ต่างอะไรกับไทยและกัมพูชา ประเทศเล็กๆ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องเอาด้วยคาถา นายกรัฐจึงพลาดด้วยคำพูดที่ว่าแม่ทัพภาค2เป็นคนฝ่ายตรงข้าม เพียงเพราะคิดว่าเป็นการเจรจาส่วนตัวคงไม่มีใครรู้
เมื่อการเจรจาถูกเปิดเผยทำให้ตัวเองเสียรางวัดเสียหน้า แม้จะพูดขอโทษไปแล้วแต่ความรู้สึกของคนมันได้เสียไปแล้ว ยิ่งคนพูดเป็นถึงนายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลสาธารณะ และคนที่ถูกพูดพาดพิงเป็นถึงแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งเป็นที่รักของประชาชนไปเสียแล้วนายกรัฐมนตรียิ่งลำบาก หรือจะพูดง่ายนายกอาจจะหวังดีต่อประเทศชาติ แต่คู่สนทนาประสงค์ร้ายต่อเราไม่จริงใจ ดังภาษิตที่ว่า ใจของคนยากแท้หยั่ง จึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
ที่ถามว่านายกรัฐมนตรีควรทำอย่างไร ลาออก ยุบสภา หรือปฏิวัติ ความเห็นส่วนของตนคิดว่า ปฏิวัตินั้นทหารคงไม่ทำตัดออกไปได้เลย ยุบสภาคิดว่าสภาไม่มีความผิดอะไรไม่มีความจำเป็นที่จะไปยุบสภา เพราะการยุบสภา ครั้งหนึ่ง ต้องใช้งบประมาณอีกจำนวนมาก
ทางที่ดีที่สุดเมื่อนายกรัฐมนตรีกระทำการเจรจาเฉพาะตัว ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างหากนายกรัฐมนตรีมีคุณธรรมจริยธรรมทางการเมืองสูง อายุก็ยังน้อยเป็นคนรุ่นใหม่ต้องแสดงสปริตทางการเมืองเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และให้เป็นบรรทัดฐานกับนักการเมืองรุ่นต่อไป ผิดแล้วยอมรับผิดในการกระทำของตัวเอง ด้วยการลาออกจากนายกรัฐมนตรี จะดูสง่างามที่สุดครับ
มานิตย์ สนับบุญ / ปราจีนบุรี