กวาดล้างจับกุม กลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับ เปิดบัญชีม้า 12 ราย และผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอื่นๆ รวม 49 ราย หมายจับจำนวน 56 หมาย ที่มาหลบซ่อนตัวในพื้นที่ จ.ชลบุรี
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รองผบก.ป.ปรก.บก.ทล., พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รอง ผบก.ทล.,
พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.3 บก.ทล., พ.ต.ท.ตุลยวัต เมืองทอง, พ.ต.ท.สมบูรณ์ เอื้อสมานไมตรี รอง ผกก.3 บก.ทล., พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สวญ.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล., พ.ต.ต.บดี ดวนพล
สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.ภิเชศ นาเมืองรักษ์ รอง สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. และ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม จำนวน 12 ราย รวม 16 หมายจับ ดังนี้
1.นางสาวณัฐธิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี
2.นายเอกพจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี
3.นางสาวจิตรานุช (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี
4.นางสาววรัญญา (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี
5.นางสาวกมลทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี
6.นางสาวสุดา (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี
7.นางสาวนาตยา (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี
8.นางสาววนิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี
9.นายวสัน (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี
10.นายนัฐพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี
11.นายชฎายุทธ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี
12.นางสาววรลัญช์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน
1. ป.อาญา มาตรา 343 วรรค2 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชนโดยทุกจริตแสดงตนเป็นคนอื่นฯ โทษ
จำคุก 6 เดือน ถึง 7 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000-140,000 บาท ยอมความไม่ได้”
2.พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท”
3.พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2566 มาตรา 9 “ผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้ มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์ สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท”
สืบเนื่องจากห้วงระดมกวาดล้างอาชญากรรม เป้าหมายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนและบุคคลตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. ได้จับกุมผู้ต้องหา
จำนวน 12 ราย รวม 16 หมายจับ
จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว ได้มีพฤติการณ์รับจ้างเปิดบัญชีม้าให้กับกลุ่มคอลเซนเตอร์ฝั่งประเทศกัมพูชาและถูกนำบัญชีเหล่านี้ไปใช้ในการหลอกลวงประชาชนทั่วทั้งประเทศ พบว่ามีผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตามพื้นที่ต่างๆ จนกลุ่มผู้ต้องหานั้น
ได้หลบหนีจากภูมิลำเนาเดิม
โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะมาหลบซ่อนและประกอบอาชีพรับจ้างในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้สืบสวนหาข่าว และเข้าทำการจับกุม ในช่วงระดมฯ ที่ผ่านมา และยังมีหมายจับตามคดีอื่นๆ อีก รวมทั้งหมด 56 หมายจับ ผู้ต้องหา 49 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมดได้รับสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่า
ได้รับจ้างเปิดบัญชีม้าให้กับขบวนการคอลเซนเตอร์จริง บางรายได้ข้ามไปทำงานที่ฝั่งประเทศกัมพูชากับกลุ่มคอลเซนเตอร์
แต่เมื่อบัญชีถูกอายัด จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ทำการข้ามกลับมายังฝั่งประเทศไทย
และมีพฤติการณ์หลบหนีคดีตามที่ได้แจ้งมาข้างต้น