ตำรวจทางหลวงปฏิบัติการ Fast74 เร็ว แรง Stop Stick Takedown
รวบหนุ่ม เสพยา แหกด่าน พบประวัติคดีเพียบ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน
เม่นแย้ม รอง ผบก.ทล. , พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ปฏิบัติราชการ บก.ทล., พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.7 บก.ทล. พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว,พ.ต.ท.ธนาคาร จันทร์กระจ่าง รอง ผกก.7 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ปิยะพร เรียนสุทธิ์ สว.ส.ทล.4 กก.7 บก.ทล., ร.ต.อ.จักรพงษ์
นวลปาน รอง สว. ส.ทล.๔ กก.๗ บก.ทล., ร.ต.ท.วิระศักดิ์ ดีทอง, ร.ต.ท.ฌานธร แสงวิรุณธร, ร.ต.ต.ศิริชัย
ซังเพชรแก้ว รอง สว.(ป.) ส.ทล.4 กก.7 บก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.4 กก.7 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม นายศุภชัยฯ อายุ 35 ปี
โดยกล่าวหาว่า
1.พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะฯ โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามควรแก่พฤติการณ์
2.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
3.พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำ หรือได้กระทำการตามหน้าที่
4.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่นและทำให้ทรัพย์สินของราชการได้รับความเสียหาย
5.ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย
6.เมาของเมาอย่างอื่นขณะขับรถ (เมทแอมเฟตามีน)
7.ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1 .อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ Sig Sauer รุ่น P320 สีดำ
2.เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 9 นัด
3.ซองบรรจุกระสุน จำนวน 1 ซอง
4. ซองพกในหนังสีดำ จำนวน 1 ซอง
5. กระเป๋าเป้ลายพราง จำนวน 1 ใบ
6. รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมค สีขาว-ดำ ติ
7.แผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 2 แผ่น
8.แผ่นป้ายการเสียภาษี รถยนต์
9.หนังสือแจ้งผลการตรวจหาสารเสพติดชนิดเมทแอมเฟตามีน จาก รพ.มหาราช อ.เมือง
สถานที่จับกุม ทางหลวงหมายเลข.4103 กม. 1-2 (ฝั่งขาออก) ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง,เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราชและเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้บูรณาการร่วมตั้งจุดตรวจปราบปรามอาชญากรรม บริเวณทางหลวงหมายเลข 4103 กม. 1-2 (ฝั่งขาออก) ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ตั้งจุดตรวจป้องกันปราบปรามอาชญากรรม พบรถยนต์กระบะ Isuzu d-max ฝากระโปรงดำแต่งซิ่ง ขับมาถึงพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจ ซึ่งขณะนั้น ในบริเวณจุดตรวจเลนขวาสุด มีรถรอเข้าจุดตรวจจำนวนมาก
รถกระบะคันดังกล่าวจึงได้เร่งเครื่องยนต์เพื่อที่จะหลบหนี
โดยเร่งเครื่องยนต์เข้ามาในช่องทางเดินรถช่องทางซ้ายสุด โดยที่มีอุปกรณ์กีดขวางกรวยยางและกระบองไฟวางอยู่ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนอยู่ในบริเวณนั้นหลายนายรถคันดังกล่าวได้ขับพุ่งเข้าในช่องทางด้านซ้ายด้วยความเร็ว เพื่อที่จะหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในบริเวณนั้นได้กระโดดหลบ
โดยได้ขับเข้าชนกับกรวยยาง และกระบองไฟ ซึ่งเป็นของทางราชการได้รับความเสียหาย และ เศษกระบองไฟ และถ่านไฟฉาย ได้กระเด็นถูกจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อยตำรวจตรีศิริชัยฯ ซึ่งพยายามสกัดรถ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่หลบ อาจจะต้องถูกรถชน ขณะนั้นเมื่อ รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับหลบหนี มีพันตำรวจโทปิยะพรฯ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นหัวหน้าจุดตรวจ พร้อมด้วยพลขับและเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้ขับรถไล่ติดตาม และ เปิดไฟและเสียงไซเรนไล่ติดตามไป
โดยที่รถคันดังกล่าวได้ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางอำเภอท่าศาลาได้เลี้ยวซ้ายแยกบางปู และขับรถด้วยความเร็วสูงซึ่งในขณะนั้นมีการจราจรหนาแน่นคับคั่งมาก มีรถสัญจรใช้เส้นทางจำนวนมาก เมื่อนายศุภชัยฯ ได้ขับรถมาถึงแยกหน้าทับ ซึ่งมีสัญญาณไฟจราจรสีแดง จึงได้ขับเลี้ยวซ้ายเข้าไป เมื่อขับไปแล้วก็ไปเจอทาง สี่แยกบ้านกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่อำเภอท่าศาลาตำบลโพธิ์ทอง ถึงได้ขับเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง
จนกระทั่งขับมาถึงแยกสนามบิน จึงได้เร่งเครื่องยนต์หลบหนีต่อ โดยได้เลี้ยวซ้ายตรงมาทางบริเวณที่มีการตั้งจุดตรวจ อีกครั้ง เมื่อขับมาใกล้ถึงจุดตรวจแล้วขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและจุดตรวจ ได้ปิดกั้นการจราจร และได้เตรียมการใช้อุปกรณ์หยุดรถ Stop Stick เมื่อขับไปเข้าถึงในจุดตรวจรถคันดังกล่าว ได้พยายามขับพุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่ง ยืนสกัดรถ ในช่องทางเดินรถด้านซ้าย และรถคันดังกล่าว ได้เหยียบอุปกรณ์หยุดรถ Stop Stick ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางเอาไว้ แต่คนขับก็ยังพยายามเร่งเครื่องหลบหนีต่อ และได้เลี้ยวกลับรถอีกครั้ง มุ่งหน้าไปทางสนามบิน
จนกระทั่ง รถขับไปต่อไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ติดตาม ซึ่งเป็นระยะทางที่ไล่ติดตามประมาณ 20 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ส่งสัญญาณเสียงบังคับให้ ผู้ต้องหาลงจากรถ เมื่อผู้ต้องหาลงจากรถ ทราบชื่อภายหลัง นายศุภชัยฯ เป็นคนขับรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสวมเครื่องพันธนาการ และได้ทำการตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมายภายในรถ ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืน พกสั้นกึ่งอัตโนมัติยี่ห้อ Sig Sauer ใส่ไว้ในกระเป๋าเป้ลายพรางทหารวางไว้ที่บนเบาะหลังคนขับ โดยเครื่องกระสุนปืนและซองบรรจุกระสุนอยู่ในตัวปืน หลังจากนั้น ได้นำผู้ต้องหา พร้อมของกลางรถยนต์ มาที่สถานีตำรวจทางหลวง นครศรีธรรมราช เพื่อตรวจสอบสิ่งของผิดกฎหมายภายในรถอีกครั้ง
จากการตรวจสอบไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายภายในรถเพิ่มเติม จึงได้ทำการตรวจสอบทะเบียนรถคันดังกล่าว ปรากฏว่า หมายเลขตัวถังรถ ไม่ตรงกับป้ายทะเบียนรถ และตรวจสอบป้ายทะเบียน และเครื่องหมายการเสียภาษี มีลักษณะ ทำปลอมขึ้นมา สอบถามนายศุภชัยฯ ได้ให้การว่า รถคันดังกล่าวตนได้ซื้อมาจาก นางสาวเมย์ ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ซื้อมาในราคา 200,000 บาท เมื่อปี พ.ศ 2567 จากพื้นที่ตำบลนาโพธิ์อำเภอทุ่งสงจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยที่ตนรู้ว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถหลุดจำนำและนำมาขายต่อให้ตน ส่วนอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบนั้น ตนได้ซื้ออาวุธปืนดังกล่าวมาจากนายเด่น ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล จาก อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อประมาณ ปี 2567 ในราคา 25,000 บาท โดยที่ตนทราบว่าอาวุธปืนดังกล่าวที่ตนซื้อมานั้นเป็นอาวุธปืนที่รับจำนำมาและนำมาขายต่อให้ตน
และนายศุภชัยฯ ยังให้การต่ออีกว่า ตนได้เสพยาบ้า มาก่อนที่จะถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวอย่างปัสสาวะ นำส่งตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ ผลปรากฏว่า ผลการตรวจเป็น Positive จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรของนายศุภกรพบว่ามีเคยก่อคดีมาแล้ว ถึง 7 ครั้ง ทั้งยาเสพติด,อาวุธปืน,ชีวิตและร่างกาย จึงควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เตือนภัย การขับรถพุ่งชนแพงกั้นในเขตปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ ซึ่งย่อมเล็งเห็นผล อาจเกิดอันตรายต่อชีวิตเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ แม้ไม่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บก็เป็นความผิด พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่หรือเพราะเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำการตามหน้าที่
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด