รวบพ่อเลี้ยงหื่น ขืนใจเด็กหญิงวัย 12 ปี พ่อแท้ๆ สุดช้ำ รีบเข้าแจ้งความ
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้การอำนวยของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์, พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก.,
พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส, พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์,
พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, พ.ต.อ.จตุรภัทร์ ภิรมย์แก้ว,
พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ปิยะสมบูรณ์ รอง ผบก.ปคม., ว่าที่ พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ ผกก.1 บก.ปคม.,
พ.ต.ท.นิติ ด่านไพบูลย์, พ.ต.ท.ชัยชนะ สุริยวงค์, พ.ต.ท.เอกรณการ นาคนิยม รอง ผกก.1 บก.ปคม.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.สุรศักดิ์ หญีตบึ้ง สว.กก.1 บก.ปคม., ร.ต.อ.ธนากร แก่นอินทร์ รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม.
ร่วมกันจับกุม นายจักรกฤษณ์ฯ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.651/2568 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”
สถานที่จับกุม ริมถนนภายในซอยหมู่บ้านในพื้นที่ ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
สืบเนื่องจากช่วงประมาณเดือนมีนาคม 2568 ด.ญ.บี (นามสมมุติ) เด็กหญิงผู้เสียหาย
ซึ่งมีอายุเพียง 12 ปี อยู่ในช่วงปิดภาคเรียน ได้เดินทางมาพักอาศัยกับนายจักรกฤษณ์ฯ ผู้ต้องหา
ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของ ด.ญ.บี ที่ห้องเช่าของนายจักรกฤษณ์ฯ แถวลาดกระบัง กรุงเทพฯ ในช่วงระหว่างที่มารดาของ ด.ญ.บี คบหากับนายจักรกฤษณ์ฯ ด.ญ.บี มีความสนิทกับนายจักรกฤษณ์ฯ จึงได้มาขอพักอาศัย
เป็นเวลาจำนวน 10 วัน ในระหว่างที่พักอาศัยกับนายจักรกฤษณ์ฯ ด.ญ.บี มีอาการป่วย และได้นอนพักรักษาตัวอยู่ภายในห้องพักของ นายจักรกฤษณ์ฯ ซึ่งเป็นห้องที่เกิดเหตุ
โดยเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568
เวลาประมาณ 05.00 น. ขณะที่ ด.ญ.บี ผู้เสียหายนอนป่วยอยู่ภายในห้อง นายจักรกฤษณ์ฯ ได้เข้ามาทำทีเช็ดตัว ด.ญ.บี เพื่อบรรเทาอาการไข้ จากนั้น ได้อาศัยโอกาสช่วงเวลาดังกล่าวข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.บี
แต่ ด.ญ.บี ขัดขืนและผลักตัวของผู้ต้องหาออก ต่อมาในวันเดียวกัน ด.ญ.บี ได้โทรไปแจ้งเรื่องกับมารดา
ซึ่งทำงานอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่ได้คำตอบว่า “อย่าไปยุ่งกับเขา” จากนั้น ด.ญ.บี จึงได้โทรไปแจ้งบิดา
ให้ทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากที่บิดาทราบเรื่องจึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.จรเข้น้อย
ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา โดยพนักงานสอบสวน สน.จรเข้น้อย ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา กระทั่งศาลออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้ไว้
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนของ กก.1 บก.ปคม. ได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุม
นายจักรกฤษณ์ฯ โดยได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาทำงานอยู่บริเวณย่านตำบลวัดชลอ
อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี จึงได้วางแผนและเดินทางไปเฝ้ารอสังเกตการณ์ กระทั่งได้พบ นายจักรกฤษณ์ฯ
เดินอยู่บริเวณริมถนนภายในซอยหมู่บ้านในพื้นที่ ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตนเข้าจับกุม และได้แสดงหมายจับให้ นายจักรกฤษณ์ฯ ดูและอ่านให้ฟัง โดย นายจักรกฤษณ์ฯ รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริง และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งให้ นายจักรกฤษณ์ฯ ทราบว่าจะต้องถูกจับกุมในข้อหาดังกล่าว
ข้างต้น พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ เมื่อเข้าใจรายละเอียดแห่งการจับกุมตลอดสิทธิดังกล่าวดีแล้ว
จึงได้ควบคุมตัวนายจักรกฤษณ์ฯ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.จรเข้น้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การอ้างว่า ในวันและเวลาเกิดเหตุตนได้เข้าไปเช็ดตัวให้ผู้เสียหายซึ่งป่วยอยู่ แต่ระหว่างที่กำลังเช็ดตัวนั้น ได้เผลอถูกของสงวนของผู้เสียหาย
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด