ปัตตานี – “สิรภพ ดวงสอดศรี” ผช.รมต.แรงงานลั่นเหตุุบึ้ม 2 จุดตลาดโต้รุ่งกลางเมืองปัตตานีสร้างความรุนแรง ขอต้านทุกรูปแบบ เชื่อความสงบสุขเกิดได้ต้องใช้เหตุผล เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ทุกคนต้องปลอดภัย
จากกรณีที่มีคนร้ายลอบวางระเบิดในถังขยะ 2 จุด บริเวณตลาดโต้รุ่ง เทศบาลเมืองปัตตานี ส่งผลทำให้ทรัพย์สินต่างๆทั้งของพี่น้องประชาชนและทางราชการได้รับความเสียหาย โดยมีรถจักรยานยนต์ของผู้มาจับจ่ายซื้อสินค้า-อาหารในตลาดพังเสียหายอีก 2 คัน
อย่างไรก็ตาม เหตุระเบิดครั้งนี้ ไม่มีประชาชนเสียชีวิตโดยเหตุร้ายดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2568 ที่ผ่าน ได้มาสร้างความตื่นตกใจหวาดผวาให้กับพี่น้องประชาชนชาวปัตตานีพ่อค้าแม่ขายและนักท่องเที่ยวที่มาเดินตลาดในขณะนั้นจำนวนมาก
นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เหตุการณ์ลอบวางระเบิดตลาดโต้รุ่ง กลางเมืองปัตตานี เป็นการสร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชนที่ออกมาจับจ่ายซื้อข้าวปลาอาหาร ในฐานะที่ตนเองมีพื้นเพเกิดและเรียนอยู่ที่ จ.ปัตตานี รู้สึกเสียใจและสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่กล่มผู้ก่อเหตุเลือกใช้สถานที่ย่านชุมชนตลาดนัดของเหล่าบรรดาประชาชนทั่วไปที่นิยมออกมาจับจ่ายหาซื้ออาหารมื้อค่ำกับคนในครอบครัวและเพื่อนฝูงพี่น้อง
“ภาพเหตุการณ์นี้สร้างความหวาดกลัวและสะเทือนใจให้พี่น้องประชาชนชาวปัตตานีและนักท่องเที่ยว ผมขอแสดงความเสียใจและส่งความห่วงใยอย่างสุดซึ้งต่อผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว การปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายเจ้าหน้าที่ทางราชการ ทั้ง ทหาร ตำรวจ แพทย์ พยาบาล และ ฝ่ายปกครอง ตลอดจนกำลังภาคประชาชน ขอให้มีกำลังใจที่เข้มแข็งและขอส่งกำลังใจให้แก่ทุกท่าน จงผ่านพ้นช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปได้ด้วยดี และขอแสดงความชื่นชมต่อเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เร่งเข้าช่วยเหลือ ดูแลความปลอดภัย และฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที”
นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผช.รมต.แรงงาน กล่าวอีกว่าพร้อมกันนี้ ผมขอแสดงเจตนารมย์อย่างแน่วแน่ว่า ไม่ขอสนับสนุนความรุนแรงในทุกรูปแบบ เพราะเชื่อมั่นว่าความสงบสุขจะเกิดขึ้นได้นั้น ต้องผ่านการใช้เหตุและผล ความร่วมมือและการเคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ แม้จะมีความคิดเห็น ความเชื่อ หรืออัตลักษณ์ที่แตกต่างกันเพียงใด เราทุกคนต่างมีสิทธิ์ที่จะอยู่อย่างปลอดภัยและมีศักดิ์ศรีในสังคมแห่งสันติภาพ ผมขอร่วมเป็นหนึ่งในเสียงของประชาชนไทยที่หวังให้จังหวัดปัตตานีและพี่น้องในพื้นที่ชายแดนใต้ ได้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขในเร็ววัน” นายสิรภพ กล่าว
ทางด้าน นายณัฐพงศ์ อุปถัมชาติ ลูกชายแม่ค้าขายเป็ด-ไก่พะโล้ ในตลาดโต้รุ่งเทศบาลเมืองปัตตานี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ปกติแม่จะมาขายของอยู่ตรงจุดเกิดเหตุระเบิด แต่วันนี้ไม่รู้มีสิ่งดลใจอะไรจึงเข็นรถมาขายฝั่งตรงข้ามที่เกิดระเบิด ห่างประมาณ 10 กว่าเมตร
“ผมมองว่าการก่อเหตุระเบิดในพื้นที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้ เพราะมองว่าอาจมีทั้งเรื่องผลประโยชน์และการเมืองที่ผสมผสานยังไม่ลงตัวของกลุ่มขบวนการก่อการร้าย แต่กระนั้นก็ไม่ควรกระทำการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ ความรุนแรงในลักษณะไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน และมองว่าเหมือนเป็นเพียงเกมที่ไม่สนใจว่าประชาชนจะได้รับผลกระทบอย่างไร อีกทั้งยิ่งสร้างปัญหาปากท้องเพราะการค้าขายทำงานหาเลี้ยงชีพยังต้องอยู่อย่างหวาดกลัวและยิ่งรู้สึกเกลียดชังกับการกระทำของผู้ไม่หวังดี”
นายณัฐพงศ์ กล่าวอีกว่าครอบครัวของตนเอง ตลอดร่วม 30 ปีที่ผ่านมาทำการค้าขายตามตลาด ชุมชน ต่างๆ ได้เผชิญอยู่ในเหตุการณ์ระเบิดของกลุ่มก่อความไม่สงบแบบทุกวินาทีห้วงของเวลาก่อนและขณะเกิดเหตุแบบเฉียดฉิวแทบเอาชีวิตไม่รอดมาแล้วนับไม่ถ้วนเกินกว่า 20 เหตุการณ์ แม้จะใช้วิธีการย้ายบ้านและที่ค้าขายไปตามตลาดนัดชุมชนต่างๆ ของเมืองเพราะคิดว่าอันตรายและความเสี่ยงจะน้อยลง แต่กลับยังคงเจอสถานการณ์ยิ่งอันตรายแบบเดิมซ้ำๆ จนเหมือนจะชินชา เพราะคิดเพียงว่าชีวิตประชาชนคนธรรมดาอย่างเราก็ยังจะต้องเดินก้าวเพื่อปากท้องต่อไป จนปัจจุบันพวกเราได้กลายเป็นกลุ่มผู้ป่วยภาวะ PTAD คือผลกระทบจากเหตุการณ์ร้ายแรงอย่างที่ได้คาดคิดอย่างไม่ทันตั้งตัว