สกลนคร วอนช่วย ดญ. 2 ขวบ ป่ายโควิดขึ้นสมอง มีอาการชักต้องใช้อ๊อกซิเย่นตลอด พบเด็กหญิงวัย 2 ขวบเศษ ป่วยเป็นโควิดถึงขั้นช็อคเกิดอาหารชักวันละ 20-30 ครั้ง แม่จ้องดูแลใกล้ชิด แถมตาบอดแขนขาอ่อนแรง ต้องใช้อ๊อกซิเย่นช่วยตลอด เดือดร้อนหนักวอนผู้ใจบุญช่วย วันที่ 9 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวพร้อมด้วย นายนิธิกร รัตแสนศรี (แบงค์) ชุดเฉพาะกิจสมาคมกู้ภัยคำหอม ลงพื้นที่ไป บ.ใหม่หนองมะเกลือ ต.ดงชน อ.เมือง จ.สกลนคร ภายหลัง ก่อนหน้านี้ 4 มิ.ย.68 มีหญิงสาวรายหนึ่ง ชื่อ น.ส.อรนุช หล่าชาญ หรือ อ๋อมแอ๋ม อายุ 25 ปี แม่เลี้ยงเดี่ยว เขียนกระดาษด้วยลายมือ ขอความอนุเคราะห์มายัง นายนิธิกร เพื่อนำรถพยาบาลรับน้องน้ำพิง ผู้ป่วยติดเตียงวัย 2 ขวบกว่า ซึ่ง ป่วยพิการทางสมอง ไป รพ.สกลนคร ตามนัดเพื่อผ่าตัดขยายท่อหายใจทุก 3 เดือน ซึ่งระหว่างเดินทางไปนั้นน้องน้ำพิงต้องใช้ออกซิเจนอยู่ตลอดเวลาเพื่อเข้ารับการรักษา และพากลับบ้านพัก เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.68 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นายนิธิกร กล่าวว่า เมื่อตนพากลับถึงบ้านพักเครื่องผลิตออกซิเจนไฟฟ้าที่ช่วยน้องน้ำพิงขัดข้อง จึงจำเป็นต้องมีเครื่องผลิตออกซิเจนอยู่ 24 ชม. เพราะน้องน้ำพิงขาดออกซิเจนไม่ได้ จนตนได้รวบรวมทรัพย์ส่วนหนึ่งจากผู้ใจบุญคนรู้จักในโซเซียล กว่า 6 พันบาท นำไปซื้อถังออกซิเจน ซึ่งทางคุณอ้น คุณส้ม หจก.สกลนครออกซิเจน ลดราคาให้เพื่อเหลือไปซื้อแพมเพิสให้น้องน้ำพิง และยังให้ยืมถังออกซิเจนไปสำรองอีก 1 ถัง รวม เป็น 2 ถัง และให้ไปเติมออกซิเจนฟรีตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้ น้าแก้ว กู้ภัยที่รู้จักกันเคยช่วยเหลือเบื้องต้นด้วยการนำรถพยาบาลพาแม่น้องน้ำพิงไปรับยากันชัก จ.อุดธานี มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งสามารถลดภาระลงได้อย่างมาก ก่อนตนมารับช่วงต่อ ผู้สื่อข่าวตรวจสอบแล้วพบว่า แม่ของน้องน้ำพิง มีอาชีพจากการช่วยแม่ของเขาทำงานเย็บผ้าอยู่ที่บ้าน ซึ่งก็มีรายได้ไม่มากนัก แม่ของน้องน้ำพิง กล่าวว่า ย้อนไปเกือบ 3 ปีก่อน น้องน้ำพิงผ่าคลอดออกมาปกติทุกอย่าง แต่ตอนนั้นโควิด-19 ยังรุนแรง พอติดแล้วอาการเร็วมากพาไปรักษาตัว ที่ รพ.โคกศรีสุพรรณ ไม่ดีขึ้นจึงส่งต่อไปที่ รพ.สกลนคร ปรากฎว่าเอาไม่ทันเชื้อขึ้นสมองจนเป็นผู้ป่วยติดเตียง พิการทางสมอง หรือเวสซินโดรม มีอาการชัก 8-9 ครั้งต่อวัน ต้องทานยากันชักไปตลอดและ ต้องเดินทางไปรับประทานยากันชัก ที่ จ.อุดรธานี ทุก 3 เดือน และอาการที่เกิดขึ้นทำให้น้องไม่มีพัฒนาการ ตาบอด แขนขยับได้แต่ข้างขวา ตอบสนองเฉพาะเวลาที่เจ็บจะร้องไห้ หลังรักษาอาการป่วยแพทย์บอกน้องอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี แต่ตอนนี้ตนเองรวมถึงคนในครอบครัวสู้เพื่อเขา แม้จะรักษาไม่หาย แต่ก็ต้องดูแลเขาถึงที่สุดเท่าที่จะต่อลมหายใจให้เขาได้ ตนเองนั้นพยายามหาเงินดูแลเขาอย่างสุดความสามารถ แต่บางครั้งก็ขัดสน เพราะมีค่าใช้จ่ายในการดูแล เช่น แพมเพิร์ส อาหารนมผง 6 ออนซ์ ให้ ทุก 6 ชั่วโมง และที่สำคัญ ตอนนี้เครื่องผลิตออกซิเจนไฟฟ้า ราคา 25,000 บาทที่เคยใช้อยู่ ก็ขัดข้องติดๆดับหรือไฟดับโชคดีผู้ใจบุญช่วยเหลือ ยังมีถังออกซิเจนสำรอง ถามว่าเคยท้อไหมที่เป็นแบบนี้เคยท้อแบบดิ่งสุดๆ กะว่าจะจบชีวิตไปด้วยกันแต่ไม่เป็นไรในเมื่อเขาสู้อยู่กับเราตั้งแต่ป่วยจนตอนนี้ก็ 2 ปีแล้ว ในฐานนะเป็นแม่ก็จะขอสู้ต่อไปให้เขาอยู่ได้นานที่สุด ผู้สื่อข่าวสังเกตุว่า น้องน้ำพิงหต้าตาน่ารัก และแม่ของน้ำพิงนั้นมีการใส่ใส่ดูแลน้องเป็นอย่างดีตามแพทย์แนะนำ ทั้งความสะอาดภายในที่น้องน้ำพิงนอนรักษาตัวอยู่ รวมถึงอาการรวนของเครื่องผลิตออกซิเจนจะซ่อมแซมแต่ยังขาดทุนทรัพย์ จึงอยากเป็นสะพานบุญต่อลมหายใจให้น้องน้ำพิง ในการขอรับการช่วยเหลือเครื่องผลิตออกซิเจน มาสำรองอีก 1 เครื่อง เตียงผู้ป่วยเด็ก 1 เตียง เนื่องจากที่นอนต่ำติดพื้น เกรงในเรื่องสัตว์เลื้อยคลาน ผู้ที่สนใจสอบถามเพื่อช่วยเหลือน้องน้ำพิง ได้ที่ โทร.098-530-0084 หรือ บช.กรุงไทย 858-0-48332-8 น.ส.อรนุช หล่าชาญ แม่น้องน้ำพิง. //////////////////////// วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร 0819541528
