นนทบุรี ต่อข่าว เหยื่อแฉยับ! จนท.อาวุโส สปสช. ปลอมไลน์–บัตรประชาชน-สลีปโอนเงิน ยืมเงินทั่วหน่วยงาน ยันเอาผิดไม่ยอมความ
จากกรณีของนายมนตรี อายุ 43 ปี นักบริหารงานหลักประกันสุขภาพ สปสช. ได้ร้องเรียนว่า ถูกเจ้าหน้าที่อาวุโสภายในหน่วยงานเดียวกันแอบนำสำเนาบัตรประชาชนและบัตรเจ้าหน้าที่ไปปลอมเอกสารเพื่อยื่นกู้เงินจำนวน 20,000 บาท โดยมีการปลอมลายมือเขียนและแชตข้อความเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เจ้าหนี้ ซึ่งทำงานอยู่ในหน่วยงานรัฐเดียวกัน หลงเชื่อว่าเป็นการยืมเงินจริง โดยมีผู้เสียหายจากการถูกปลอมเอกสารในลักษณะเดียวกันแล้วเกือบ 10 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกันกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่ถูกพาดพิงในทุกกรณีคือ น.ส.แตงโม เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายสื่อสารของ สปสช. ที่ปัจจุบันยังคงปฏิบัติงานอยู่ตามปกติ
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.68 นายชัย (นามสมมุติ) อายุ 59 ปี ผู้ช่วยบรรณาธิการ สังกัดสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อ ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ “ดร.แก้ว” ประธานที่ปรึกษาอัยการจังหวัดนนทบุรี และประธานกิตติมศักดิ์ กต.ตร.จังหวัดนนทบุรี ผ่านช่องทางเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” หลังพบว่า น.ส.แตงโม เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายสื่อสารของ สปสช. ได้สร้างโปรไฟล์ไลน์ปลอมของนายชัยขึ้นมา พร้อมพูดคุยแสดงความเดือดร้อนเรื่องเงิน ก่อนจะนำสำเนาบัตรประชาชนและลายเซ็นของนายชัยไปใช้ปลอมเอกสารขอกู้เงินจำนวน 35,000 บาท กับเจ้าหนี้คือนางสาวต่าย ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานภายในหน่วยงานเดียวกัน รวมถึงมีการปลอมสลิปโอนเงินเพื่อใช้ประกอบเอกสารการยืมเงินอีกด้วย
นายชัย ระบุว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา ตนได้รับข้อความทางไลน์จากเจ้าของเงินคือน.ส.ต่าย ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานว่า ได้ทำเรื่องกู้ยืมเงินจำนวน 35,000 บาท ให้น.ส.แตงโมหรือไม่ ตนตกใจมากเพราะไม่เคยยืมเงินใคร จนกระทั่งน.ส.ต่ายได้ส่งภาพแชตมาหา ซึ่งเป็นข้อความที่ดูเหมือนตนพูดคุยกับน.ส.แตงโม โดยกล่าวถึงความเดือดร้อนว่าไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมให้ลูกแฝด หลังจากเห็นภาพและข้อความดังกล่าว จึงทราบได้ทันทีว่าถูกปลอมไลน์ขึ้นมาเพื่อขอกู้ยืมเงิน
เท่านั้นไม่พอ ยังมีการปลอมแปลงสำเนาบัตรประชาชนของตน โดยมีการตัดต่อรูปภาพที่ไม่ตรงกับบัตรประชาชนฉบับจริงมาใส่แทน ส่วนที่อยู่ก็ถูกปลอมเป็นที่อยู่ของภรรยา และวันออกบัตรกับวันหมดอายุก็ถูกเปลี่ยนแปลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดที่ถูกต้อง ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล และเลขประจำตัวประชาชน
สำหรับข้อความในเอกสารสัญญาขอยืมเงินจำนวน 35,000 บาท มีการระบุรายละเอียดการผ่อนชำระหนี้ไว้อย่างเป็นระบบว่า “ยินดีชำระดอกเบี้ยเดือนละ 7,000 บาท โดยแบ่งจ่าย 2 งวดต่อเดือน งวดละ 3,500 บาท ทุกวันที่ 5 และ 20 ของเดือน จนกว่าจะชำระเงินต้นครบถ้วน” และด้านท้ายมีลายเซ็นที่ถูกปลอมขึ้นมา ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยที่ตนไม่ทราบมาก่อน ทั้งนี้ยังมีการปลอมสลีปธนาคารแห่งหนึ่งว่าโอนเงินจำนวน 35,000 บาท เข้าบัญชีตนแล้ว โดยนำชื่อและนามสกุลตนปลอมสลีป ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เคยได้รับเงิน หรือมีเงินเข้าบัญชีธนาคารจำนวน 35,000 บาท และเคยถูกน.ส.แตงโม ทักมายืมเงินหลายครั้งตั้งแต่หลักหมื่น จนถึงหลักพัน
ตนมองว่าการกระทำลักษณะนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และสร้างความหวาดกลัวเรื่องความปลอดภัยให้กับครอบครัว เนื่องจากสำเนาบัตรประชาชนของตนอาจถูกนำไปใช้กู้เงินนอกระบบกับรายอื่นอีก ตนยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับผู้อื่นอีก โดยเฉพาะกับบุคคลที่มีตำแหน่งหน้าที่และเข้าถึงข้อมูลบัตรประชาชนของผู้อื่นได้ เรื่องนี้ตนได้พูดคุยกับน.ส.ต่าย จนเข้าใจตรงกันแล้วว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด และจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
นายทอง (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานที่เคยถูกน.ส.แตงโมยืมเงิน เปิดเผยว่า ช่วงโควิดปี 2563 ตนเคยถูกน.ส.แตงโมทักมายืมเงินจำนวน 50,000 บาท ทั้งที่รู้จักกันไม่ถึงปี และในช่วงนั้นสำนักงานให้ทำงานแบบ Work from home ตนก็รู้สึกแปลก ๆ จึงไม่ได้ให้ยืม แต่ล่าสุด เพื่อนร่วมงานหลายคนเริ่มออกมาร้องเรียนพฤติกรรมของเขา ตนมองว่าอยากให้ น.ส.แตงโม หยุดพฤติกรรมเช่นนี้ และเลิกอ้างพ่อแม่ป่วยเพื่อขอยืมเงินจากผู้อื่น แม้แต่แม่บ้านซึ่งมีรายได้น้อยก็ยังโดน และไม่เคยได้เงินคืน ทั้งนี้ตนเคยค้ำประกันสวัสดิการให้เขาด้วย แม้ความเสียหายจะไม่เท่าผู้ร้องเรียนรายล่าสุด แต่ตนเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง จึงอยากให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว และหาเงินคืนให้ผู้เสียหาย
ดร.ปรเมศร์ หรือ “ดร.แก้ว” เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว และได้ตรวจสอบพยานหลักฐานที่ผู้ร้องเรียนส่งมา พบว่ามีการปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชน ปลอมสลิปโอนเงินของธนาคารแห่งหนึ่ง และมีการเขียนสัญญากู้ยืมเงินโดยปลอมลายเซ็นผู้เสียหาย ผู้เสียหายยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยตนจะพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป