นนทบุรี วงจรปิด ป้าวัย 60 ถูกเพื่อนบ้านฟาดฉมวกแทงหัวเย็บ 7 เข็ม! อ้างหมาเห่าดัง – แท้จริงปมทวงหนี้หมื่นสะสม 2 ปี เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 29 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายบุญลือ ลามอ อายุ 60 ปี ช่างก่อสร้าง และนางสาวอารีย์ สูงเนิน อายุ 60 ปี สองสามีภรรยา ว่าถูกเพื่อนบ้านหัวร้อน ใช้ฉมวกแทงปลาฟาดศีรษะฝ่ายหญิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องเย็บถึง 7 เข็ม และมือซ้ายบวมและบอบช้ำสาเหตุเพียงอ้างว่าหมาตนเห่าเสียงดัง แต่กลับกลายเป็นว่าสามีที่เข้าไปช่วย กลับถูกตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายแทน เหตุเกิด บ้านพักในหมู่บ้านยิ่งรวย ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 25 พ.ค.68 เวลาประมาณ 18.54 น. ขณะนางสาวอารีย์ยืนอยู่หน้าบ้าน ได้มีเพื่อนบ้านชื่อ นายสาธร หรือ นายเล็ก อายุประมาณ 62 ปี เดินถือไม้กวาดออกมาโดยไม่พูดจา แล้วเข้าทำร้ายทันทีโดยใช้ไม้กวาดฟาดใส่ร่างนางสาวอารีย์หลายครั้ง ฝ่ายสามีเห็นเหตุการณ์จึงรีบคว้ามีดยาวจากในบ้านออกมาช่วยภรรยา และใช้อาวุธมีดเหวี่ยงเพื่อป้องกันตัวและภรรยา ซึ่งในจังหวะชุลมุนนั้นอาจจะโดนแขนของคู่กรณี จากนั้นนายเล็กไม่ยอมหยุด ยังเดินกลับเข้าบ้านไปหยิบ ฉมวกแทงปลา ออกมาทำร้ายต่อ ตรงเข้ามาแทงศีรษะของนางสาวอารีย์อย่างแรง จนล้มฟุบลงไปกับพื้น ฝ่ายสามีจึงต้องเข้าไปช่วยต่อสู้กันอีกครั้ง และได้รับบาดเจ็บที่หลังเป็นแผลฉกรรจ์ หลังเกิดเหตุ หลานสาวของผู้เสียหายได้โทรแจ้งตำรวจให้มาระงับเหตุ และช่วยนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล นางสาวอารีย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยไป ทวงหนี้จำนวน 10,000 บาท จากครอบครัวนายเล็ก ซึ่งภรรยานายเล็กติดเงินตนอยู่ 4,000 บาท และลูกชายติดอีก 6,000 บาท มานานกว่า 2 ปี โดยเพิ่งทยอยใช้คืนเพียง 3,000 บาทในปีนี้ ตนจึงสงสัยว่าเหตุทำร้ายร่างกายในครั้งนี้อาจมีสาเหตุจากเรื่องเงิน อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ นายเล็กได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อบางช่องว่า เหตุที่ทำร้ายเพื่อนบ้านนั้น มาจากเรื่องสุนัขของตน 2 ตัวที่เห่าดังรบกวน และเคยแจ้งเรื่องนี้กับเทศบาลนครปากเกร็ดแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบก็ไม่พบปัญหาใด เพราะตนล่ามโซ่สุนัขไว้ตลอด โดยเขาบอกว่าเพราะหมาเห่า แต่ตนเลี้ยงในบ้าน ล่ามโซ่ไว้ ไม่เคยปล่อยเลย และเทศบาลก็เคยมาตรวจแล้วก็ไม่มีปัญหา แต่จู่ๆ เขากลับพุ่งมาทำร้ายโดยไม่พูดอะไรสักคำ ตอนนี้เรายังงงว่าแท้จริงเกิดจากอะไร ขณะนี้ตนยังรู้สึกไม่เป็นธรรม เพราะสามีที่เข้าไปช่วยเหลือกลับถูกตำรวจดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย จนต้องนำ สร้อยคอทองคำหนัก 4 บาทไปขาย เพื่อนำเงิน 30,000 บาทไปประกันตัวสามีออกมา ส่วนทางคดีของคู่กรณี ยังไม่ทราบความคืบหน้าจากตำรวจแต่อย่างใด ทั้งนี้ฝ่ายตรงข้ามได้ ข่มขู่ว่าจะเรียกค่าเสียหาย 400,000 บาท และจะ แจ้งข้อหาพยายามฆ่า กับสามีตนอีกด้วย ทำให้ทั้งคู่รู้สึกกังวล เพราะเป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่มีความรู้ทางกฎหมาย และไม่มีเงินมากมาย ตอนนี้ตัวก็เจ็บ ศีรษะเย็บ 7 เข็ม มือซ้ายบวม นายบุญลือ กล่าวว่า วันเกิดเหตุได้ยินเสียงภรรยาตะโกนขอความช่วยเหลือหน้าบ้าน จึงรีบออกไปดู เห็นภรรยาถูกใช้ไม้กวาดตีหลายครั้ง ตนจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านคว้ามีดยาวมาช่วยป้องกัน เขายังถามตนว่า มึงจะเอาอีกตัวเหรอ แล้วก็เข้าไปหยิบฉมวกมาตีเราซ้ำ ตนถูกฟันเข้าที่หลัง ล้มลงกับพื้นเลย มองว่าเหตุการณ์นี้มันเกินไปจริงๆ โดยเฉพาะการลงมือกับผู้หญิงอายุขนาดนี้ ส่วนทางด้าน ร.ต.อ.จรยุทธ บุญทอง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการอย่างเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยเบื้องต้นได้เชิญตัวนายบุญลือ มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐานทำร้ายร่างกาย พร้อมวางหลักทรัพย์จำนวน 30,000 บาทเพื่อประกันตัวออกไป ส่วนคู่กรณี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดหมายให้เข้ามาสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหาเช่นกันในวันนี้ แต่ทางคู่กรณีได้ขอเลื่อนนัดออกไป โดยได้แจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทางตำรวจยืนยันว่าทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัด และไม่มีการเข้าข้างฝ่ายใดทั้งสิ้น ร.ต.อ.จรยุทธ บุญทอง รองสว.(สอบสวน)สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยว่า คดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เบื้องต้นได้ทำการเชิญตัวนายบุญลือ มารับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย โดยรำหลักทรัพย์จำนวน 30,000 บาท ประกันตัวออกไป ส่วนคู่กรณีวันนี้ทางตำรวจได้เชิญตัวนัดมาสอบปากคำเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา แต่ทางคู่กรณีได้ขอเลื่อนนัดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางตำรวจยืนยันจะดำเนินการตามขั้รตอนกฏหมาย ไม่มีการเข้าข้างฝ่ายใด แต่อย่างใด








