ปทุมธานี ตำรวจจับแล้ว แม่แท้ๆ ร่วมกับป้าพาลูกสาว 13 ปีค้ากาม เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 19 พ.ค.68 ที่มูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี คลองเจ็ด ต.ลำผักกูด อ.ธัญบถุรี จ.ปทุมธานี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวันที่ 30 เม.ย.68 พ่ออายุ 35 ปี อาชีพขับรถรับจ้างและแม่เลี้ยง ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ลูกสาวอายุ 13 ปี ถูกแม่แท้ๆ และป้าพาไปขายบริการกับชายวัย 50 ปีที่โรงแรมม่านรูดถึง 2 ครั้งในช่วงที่ลูกสาวอายุ 11 ปี เพื่อหาเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพและจ่ายหนี้นอกระบบรายวัน ลูกสาวถูกข่มขู่ห้ามบอกใครจนทนไม่ไหวเพิ่งเล่าให้ฟังเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมาก่อนเข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับแม่แท้ๆไว้ได้เบื้องต้นให้การรับสารภาพ โดยการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก นายเอ(นามสมมุติ) พ่อแท้ๆของเด็กได้เข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ พร้อมเปิดเผยว่า ตนกับอดีตภรรยาอยู่กินกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 13 ปี คนเล็กอายุ 8 ปี พ่อแม่ได้แยกทางกันหลายปีแล้วตั้งแต่ลูกยังเล็ก โดยอดีตภรรยาไม่ยอมให้ลูกทั้งสองมาอยู่กับตน เวลาตนจะไปเยี่ยมลูกแต่ละครั้งก็ยากเย็นกีดกันไม่ยอมให้เจอ นานๆ ครั้งถึงจะได้เจอลูกในช่วงเทศกาล กระทั่งวันที่ 26 เม.ย. 68 ลูกสาวคนโตได้ติดต่อมาหาแม่เลี้ยง และบอกว่าไม่อยากอยู่กับแม่และยายแล้ว เพราะถูกใช้งานหนัก ทุบตี ด่าทอต่อหน้าคนอื่นทำให้รู้สึกอายและเก็บกด พ่อจึงขับรถจากจ.ภูเก็ตมารับลูกที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยนัดให้ลูกออกมาเจอข้างนอก จากนั้นพาลูกไปลงบันทึกประจำวันที่สภ.หัวหิน และแจ้งแม่ว่าจะพาลูกไปอยู่ที่ภูเก็ต แต่แม่ไม่ยอมและขอพูดคุยกับลูกทางโทรศัพท์ ลูกสาวได้พูดต่อว่าแม่ เรื่องที่พาไปให้ผู้ชายดูตัว และพาไปขายบริการตอนอายุ 11 ปีกับชายวัย 50 ปี 3 ครั้ง แม่จึงยอมให้ลูกไปกับพ่อ เพราะพ่อกับแม่เลี้ยงบอกว่า ถ้าไม่ให้จะฟ้องกลับ ก่อนจะพากันเดินทางกลับภูเก็ตและโทรแจ้งมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอดำเนินคดีกับแม่แท้ๆ ลูกสาวเล่าให้พ่อและแม่เลี้ยงฟังว่า ครั้งแรกเดือน ส.ค.66 แม่และป้าเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์พาไปให้ชายวัย 50 ปีที่เป็นลูกค้าดูตัวและพาไปส่งที่โรงแรม หลังถูกกระทำเด็กกลับมาบ้านอวัยวะเพศมีเลือดออกและปวดแสบมาก แม่ก็บอกว่าไม่เป็นไร คงเป็นเลือดประจำเดือน ต่อมาเดือนต.ค.66 ห่างจากครั้งแรกประมาณ 2 เดือน ป้าก็ได้พาไปเด็กส่งขายบริการให้กับชายอายุ 50 ปี คนเดิม ที่โรงแรมม่านรูดที่เดิม แต่เด็กขัดขืนไม่ยอมชายคนดังกล่าวจึงได้พากลับมาส่งที่สวนสาธารณะซึ่งแม่คนเป็นมารอรับกลับบ้าน โดยชายคนดังกล่าวได้บอกกับแม่ว่า ต่อไปไม่ต้องพามาแล้วนะ แม่จึงได้ด่าทอลูกสาวด้วยถ้อยคำหยาบคาย นอกจากนี้ลูกสาวคนโตยังบอกอีกว่า แม่ติดยาบ้า เมื่อเดือนที่แล้วยังขี่รถจักรยานยนต์พาหนูไปบ้านเพื่อนเพื่อเอายาบ้ามาเสพ โดยให้ลูกสาวเดินไปรับยาบ้าจากเพื่อนเพราะแม่กลัวถูกจับ และแม่ยังมีหนี้สินที่ต้องจ่ายรายวันอีกด้วย พ่อต้องการจะเอาเรื่องกับอดีตภรรยาซึ่งเป็นแม่แท้ๆ ที่ค้าประเวณีลูกตัวเองให้ถึงที่สุด และเป็นห่วงสวัสดิภาพของลูกสาวคนเล็ก 8 ขวบที่ยังต้องอยู่กับแม่และยาย จึงตัดสินใจร้องทุกข์ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย หลังรับเรื่องวันที่ 30 เม.ย.68 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน ให้พ่อและแม่เลี้ยงพาลูกสาวเข้าแจ้งความ ด้านพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวเด็กหญิงไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลทันที และนัดทีมสหวิชาชีพสอบปากคำเด็กหญิงในช่วงบ่ายวันเดียวกัน และหลังจากนั้นพ่อกับแม่เลี้ยงและลูกได้เดินทางมาอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ จนถึงวันนี้ ล่าสุดวันที่ 19 พ.ค.68 นางปวีณา ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน ว่าพนักงานสอบสวนสภ.หัวหิน ได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับแม่และป้าที่เป็นธุระจัดหาพาลูกสาวตัวเองไปขายบริการแล้ว ในข้อหา ค้ามนุษย์, เป็นธุระจัดหา, ค้าบริการเด็กหญิง, กระทำต่อผู้สืบสันดาน และเช้าวันนี้ ชุดสืบสวน สภ.หัวหินได้ทำการจับกุมตัวแม่แท้ๆ ได้แล้ว โดยได้ควบคุมตัวมาตรวจหาสารเสพติด พบว่าปัสสาวะมีสีม่วง จึงแจ้งข้อหา เสพยาบ้า เพิ่มอีก 1 ข้อหา จากการสอบสวนแม่แท้ๆ ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับป้าค้าบริการลูกสาว โดยครั้งแรก พาลูกสาวไปให้ผู้ชายดูตัวที่สวนสาธารณะได้เงิน 1,500 บาท ครั้งที่ 2 พาลูกสาวไปส่งที่โรงแรมม่านรูกได้เงิน 2,000 บาท ครั้งที่ 3 พาลูกสาวไปส่งที่โรงแรมม่านรูดได้เงิน 5,000 บาท แต่ถูกป้าเอาเงินไปหมด หลังจากนั้นผู้ชายที่ซื้อบริการบอกว่าไม่ต้องพาลูกสาวไปแล้วเพราะครั้งที่ 3 ลูกสาวได้ต่อสู้ขัดขืนจนหมดอารมณ์ ทั้งนี้จะควบคุมตัวไปฝากขังวันที่ 20 พ.ค.นี้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่สภ.หัวหิน อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวป้า ที่ร่วมเป็นธุระจัดหา และขยายผลจับกุมผู้ซื้อบริการเด็กหญิงมาดำเนินคดี นางปวีณา กล่าวขอบคุณ พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.หัวหิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.หัวหิน ที่ทำงานอย่างรวดเร็ว ในส่วนของลูกสาวคนเล็ก 8 ขวบ นางปวีณา จะได้ประสาน นางสุพัตรา ไพฑูรย์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และน.ส.วารุณี ดอกจันทร์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรับเด็กมาอยู่ในความดูแลของพ่อ และจะประสาน ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่องการย้ายโรงเรียนเด็กมาเรียนในพื้นที่บ้านพ่อจ.ภูเก็ต พร้อมทั้งประสาน นางสมพิศ ศรีคำแหง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านพ่อเพื่อช่วยเหลือเยียวยาสภาพจิตใจเด็กทั้งสองคน โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ต่อไป