ตามรวบเพิ่มอดีตทหารเกณฑ์หนีคดีร่วมกับพวก 6 คนรุมโทรมหญิงอายุเพียง 16 ปีในค่ายทหารปี 2558
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรชาติ ธีรชาติธำรง ผบก.ปพ., พ.ต.อ.สุรพันธ์ มั่นคงดี, พ.ต.อ.วรศักดิ์ บัณฑิต, พ.ต.อ.ศราณุ โสมทัต รอง ผบก.ปพ., พ.ต.อ.ไผท คูสันเทียะ ผกก.1 บก.ปพ, พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ ปัญญากาญจน์, พ.ต.ท.เอกพงษ์ ผูกพันธ์ รอง ผกก.1 บก.ปพ., พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ เคหะทุ่ม
รอง ผกก.1 บก.ปพ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.จตุพร ติกแก้ว สว.กก.1 บก.ปพ., ด.ต.พงศ์ศักด์ สุนทรวีรพันธุ์, ส.ต.ท.อลงกรณ์ กาวี, ส.ต.ท.คงณัฐ บุญเสงี่ยม, ส.ต.ท.ทักษ์ดนัย พรมรัตน์, ส.ต.ท.ณัฐพงษ์ แสงถลุงเหล็ก,
ส.ต.ต.เจษฎา จิตต์บรมย์ ผบ.หมู่ กก.1 บก.ปพ.
ร่วมกันจับกุม นายศราวุฒิฯ หรือนพดลฯ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลมณฑลทหารบก
ที่ 12 ที่ 138/2559 ลงวันที่ 27 กันยายน 2559 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองไปเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วย, ร่วมกันพาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีเพื่อการอนาจาร, ร่วมกันโทรมหญิง, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายเสรีภาพ ชื่อเสียง, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย”
สถานที่จับกุม บริเวณทุ่งนาแห่งหนึ่ง ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
สืบเนื่องจากกรณีคดีกลุ่มทหารเกณฑ์รุมโทรมหญิงสาวภายในโรงนอนทหารเกณฑ์แห่งหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี เหตุเมื่อปี พ.ศ.2558 โดยมีผู้ก่อเหตุทั้งหมด 6 ราย และล่าสุดสามารถจับกุมผู้ต้องหารายที่ 3 ได้แล้วในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่โรงนอนทหารเกณฑ์ ภายในค่ายแห่งหนึ่ง จังหวัดปราจีนบุรี ผู้เสียหาย คือ นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี
ได้เดินทางไปที่ค่ายทหารดังกล่าวในวันที่ 16 กันยายน 2558 เวลาประมาณ 19.00 น. เพื่อพบกับทหารเกณฑ์ที่คบหากันในฐานะแฟน เมื่อนางสาวเอ ไปถึงที่เกิดเหตุ ทหารเกณฑ์คนดังกล่าวได้พาเธอขึ้นไปบนโรงนอน และข่มขืนกระทำชำเรา ก่อนจะมีทหารเกณฑ์ชายอีกประมาณ 5 คน เข้ามาที่เกิดเหตุและก่อเหตุเช่นเดียวกัน ล่วงเข้าเช้ามืด ของวันที่ 17 กันยายน 2558 นางสาวเอ (นามสมมติ) จึงได้กลับไปที่บ้านพัก และเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ผู้เป็นอาทราบ ก่อนที่อาจะพา นางสาวเอ (นามสสมติ) ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานพร้อมขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง6 รายไว้ และสามารถจับกุมได้แล้ว2 ราย
ล่าสุด ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ ได้ตามแกะรอย ผู้ต้องหาอย่างต่อเนื่อง หลังทราบว่าหลบหนีไปพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร จนกระทั่งพบแหล่งกบดานและสามารถบุกจับกุมตัวผู้ต้องหา (ซึ่งเป็นรายที่3 ในคดีนี้) ขณะกำลังหลบหนีอยู่บริเวณทุ่งนาแห่งหนึ่ง ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร จากนั้นได้ควบคุมตัว ส่งไปยังพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”
