บก.ปคม.ร่วมสืบภาค 8 รวบ 2 ตีนแมวลักโทรศัพท์ตามห้าง
ความเสียหายเกือบ 2 ล้านบาท
19 ส.ค.65 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้
การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา, พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม., พ.ต.อ.จิรเดช พระสว่าง, พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม.,
พ.ต.ท.ภคพล สุชล, พ.ต.ท.ปรัชญา บุญยืน รอง ผกก.5 บก.ปคม.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.5 บก.ปคม. นำโดย พ.ต.ท.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.5 บก.ปคม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม.
ร่วมกันจับกุม
1.นายเอกชัย หรือกล้วย (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพร
ที่ 152/2565 ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ”
2.นายกฤษณะ หรือตู่ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพร
ที่ 153/2565 ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ”
สถานที่จับกุม โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งใน ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี จว.กาญจนบุรี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. ได้รับการประสานจาก บก.สส. ภ.8 ว่าเมื่อวันที่
15 ส.ค. 65 เวลาประมาณ 08.00 น. ได้มีชายไทย จำนวน 2 คน ร่วมกันลักทรัพย์ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จว.ชุมพร จากการตรวจสอบกับห้างดังกล่าวทำให้ทราบว่าร้านโทรศัพท์ถูกลักโทรศัพท์มือถือจำนวน 18 เครื่อง มูลค่ารวมเกือบ 2 แสนบาท โดยพบว่าผู้ต้องหาได้เข้ามาดูลาดเลาความเคลื่อนไหวเพื่อเลือกร้านก่อนที่จะก่อเหตุ 1 วัน โดยทำทีมารับประทานอาหารภายในห้าง
ในวันที่เกิดเหตุผู้ต้องหาได้อาศัยช่วงเวลาตอนเช้าซึ่งภายในห้างซึ่งยังไม่ค่อยมีพนักงาน และร้านโทรศัพท์
ยังปิดอยู่ มุดเข้าไปในร้านแล้วใช้อุปกรณ์งัดเอาโทรศัพท์มือถือจากในตู้เก็บ จากนั้นผู้ต้องหาจึงได้หลบหนีไป
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ทราบว่า ผู้ต้องหาคือนายเอกชัยฯ และ นายกฤษณะฯ ซึ่งบุคคลดังกล่าวมีประวัติถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการลักทรัพย์มานับ 10 คดี และยังมีหมายจับคดีลักทรัพย์อีกหลายคดี มูลค่าทรัพย์สินรวมเกือบ 2 ล้านบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนีมาอยู่ที่ โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งใน ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี จว.กาญจนบุรี จึงได้เข้าทำการควบคุมตัวผู้ต้องได้ทั้งสองคน พร้อมของกลางเป็นเงินสดประมาณ 1 แสนบาท แล้วทำการสืบสวนขยายผล บันทึกคำรับสารภาพ ประสานกับร้อยเวร
สภ.เมืองชุมพร ขอศาลอนุมัติออกหมายจับและดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้ต้องหา รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าได้ลักโทรศัพท์มือถือจำนวน 18 เครื่องที่สรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จว.ชุมพร แล้วนำไปขายต่อที่ห้างแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
ตำรวจสอบสวนกลางขอเตือนภัย เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สินของท่าน ร้านค้าต่าง ๆ ควรเก็บสิ่งของหรือสินค้าที่มีมูลค่าสูงไว้ในที่ลับตาและมิดชิดมากที่สุด เช่น ตู้ ลิ้นชัก หรือตู้นิรภัย เพื่อให้ยากต่อการ
เข้าไปลักทรัพย์ของคนร้าย