นนทบุรี วงจรปิด หนุ่มช่างยนต์ถูกรถตู้หัวร้อนชกต่อย เหตุขับรถเบียดกัน อ้างบันดาลโทสะ

นนทบุรี วงจรปิด หนุ่มช่างยนต์ถูกรถตู้หัวร้อนชกต่อย เหตุขับรถเบียดกัน อ้างบันดาลโทสะ

จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 6 โพสต์คลิปวงจรปิดพร้อมระบุข้อความว่า “หัวร้อนอะไรขนาดนั้น…ทั้งปากเกร็ดรู้จักกูหมด…ถถถ…มีปัญหาเฉี่ยวชนเจ้าหน้าที่สามารถจัดการไกล่เกลี่ยได้ทำไมต้องใช้ความรุนแรง เหตุเกิด วันที่ 5/5/2568 สถานที่บริเวณ ถนนติวานนท์ – ปากเกร็ด มุ่งหน้าถนนซ่อมสร้าง เกิดเหตุการ์น้องชายผมกำลังขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากที่ทำงาน (ศูนย์บริการฮอนด้า ปากเกร็ด เมืองทอง) แล้วได้มีการเฉี่ยวชนกับคู่กรณีเป็นรถตู้ หลังจากนั้นคนขับรถได้ลงถือเหล็กยาว (แป็ปเหล็ก) เหมือนลักษณะจะฟาด แต่ได้ต่อยและตบน้องผม และมีการพูดว่า ทั้งปากเกร็ดรู้จักทั้งหมด“

ล่าสุด วันที่ 8 พ.ค. 68 ที่สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญนายสุภกิณห์ แจ่มนิยม อายุ 29 ปี ช่างซ่อมรถยนต์ศูนย์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านติวานนท์ (ผู้เสียหาย) ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจยย. ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ 115 สีเทา หมายเลขทะเบียน 6 ขพ 4888 กทม. และนายวิชัย บุญมา อายุ 48 ปี ขับรถตู้รับ-ส่งพนักงานโรงงานย่านปทุมธานี (คู่กรณี) ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฮร 2379 กทม. มาพบเพื่อสอบสวนหาสาเหตุจากการขับรถเฉี่ยวชนกันบริเวณถ.ติวานนท์ (ขาออก) มุ่งหน้าปทุมธานี และเป็นเหตุให้มีการทำร้ายร่างกายกัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา

นายสุภกิณห์ แจ่มนิยม อายุ 29 ปี ช่างซ่อมรถยนต์ศูนย์ชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านติวานนท์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนกำลังจะขับรถออกจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้าน เส้นถ.ติวานนท์ เห็นคู่กรณีขับมาห่างประมาณ 300 เมตร จึงชะลอเพื่อให้เขาไปก่อน และจะเบี่ยงขวา ทำให้รถไปเบียดกันนิดนึงตรงช่วงกระจก ตนจึงชะลอรถเพื่อลงไปเจรจากับคู่กรณี ตอนแรกคุยกันดี และคู่กรณีเรียกตนเดินไปดูร่องรอยการเฉี่ยวชน ตนจึงถามกลับว่า “นี่ใช่แผลเก่าหรือเปล่า” ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้พูดจาไม่ดี และได้ยกมือไหว้ขอโทษคู่กรณีตลอด ไม่ได้ง้างหมวกกันน็อกเพื่อจะฟาดด้วย ตนทำงานสุจริตหาเช้ากินค่ำ มีครอบครัว มีลูก ไม่ได้ต้องการมีปัญหากับใคร ซึ่งคู่กรณีได้ตบตน 1 ครั้ง และต่อยตนอีก 1 ครั้ง ไม่ได้เอาเหล็กฟาดเพียงแต่ง้างมือใส่ตน จากนั้นมีรปภ.เดินมาห้าม จึงแยกย้ายกันไปและตนได้เดินทางมาแจ้งความที่สภ.ปากเกร็ด ตนมองว่าเรื่องนี้หากต่างฝ่ายต่างโทรเรียกประกันมาก็ไม่มีอะไร ไม่ควรต้องทำร้ายร่างกายกัน ตนก็ไม่ได้คิดสู้อะไร อยากให้ใจเย็นลงกว่านี้เพราะไม่มีใครอยากให้เกิด

นายวิชัย บุญมา อายุ 48 ปี ขับรถรับ-ส่งพนักงานโรงงานย่านปทุมธานี กล่าวว่า ตนยอมรับในส่วนที่ตนทำร้ายคู่กรณี แต่เขาก็ควรยอมรับว่าพูดจายียวนกวนประสาทตนจริงไหม คู่กรณีไม่ได้ทำร้ายร่างกายตนเพียงแต่ง้างเหมือนจะสู้ ตนเลยต้องป้องกันตัว จริงๆไม่มีอะไรแต่เหตุเกิดจากการยั่วโมโห และตนเป็นผู้ถูกกระทำ ตนขับรถมาไม่ได้ไวยอมรับที่ทำร้ายร่างกายคู่กรณีแต่ไม่ได้ใช้เหล็กตี เป็นเหล็กธรรมดาที่เอาไว้งัดยาง ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตนหลุดเพราะว่าคู่กรณีลงจากรถมาถอดหมวกและพูดใส่ตนว่ารอยที่รถเป็น “แผลเก่า” ซึ่งตนได้ยินแล้วรู้สึกโมโห จึงเกิดบันดาลโทสะ ตนยอมรับผิดและยินดีที่จะขอโทษคู่กรณี ส่วนที่คู่กรณีกล่าวอ้างว่าตนพูดว่า “ทั้งปากเกร็ดรู้จักทั้งหมด” ยืนยันว่าไม่ได้พูดแบบนั้นเพียงแต่เห็นคู่กรณียกโทรศัพท์โทรหาใครไม่รู้ ตนจึงถามว่า “เอ็งจะโทรหาใครตนก็คือคนปากเกร็ดเหมือนกัน“

ต่อมา นายวิชัย (คนขับรถตู้) ได้เดินเข้ามาตบไหล่และกล่าวขอโทษนายสุภกิณห์ (คนขับขี่รถจยย.) ยอมรับว่าตนเองใจร้อน แต่ทางด้านนายสุภกิณห์ ได้พยายามเดินหนี และพูดสั้นๆว่า ตนรู้สึกว่าคู่กรณีควรใจเย็นมากกว่านี้และไม่ควรมาทำร้ายร่างกายตน ด้านนายวิชัยเองก็ได้บอกว่า ส่วนที่ตนผิดก็คือผิด ที่เหลือก็แล้วแต่ทางคู่กรณีตัดสินใจ