DSI ปัดส่งจนท.ข่มขู่พยานคดีฮั้วเลือก สว.อำนาจเจริญ
โฆษกดีเอสไอ ระบุไม่มีการข่มขู่พยานคดีฮั้ว สว. พร้อมชี้แจงเจ้าหน้าที่ได้รับมอบหมายสอบปากคำอดีตผู้สมัคร สว. จังหวัดอำนาจเจริญ ยืนยันเจ้าหน้าที่แสดงตัวชัดเจน
จากกรณี นายณรงค์ เทพเสนา ผวจ.อำนาจเจริญ ทำหนังสือลับ ด่วนที่สุดที่ อจ 0018.2/3 ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เรื่อง รายงานเหตุกลุ่มบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ขอสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 2 ราย ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ได้แต่งเครื่องแบบ ไม่ได้แสดงบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเครื่องหมายใดๆ ที่แสดงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยได้เข้าไปในบ้านของอดีตผู้สมัคร สว. และถอดปลั๊กไฟของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้มีการบันทึกภาพและเสียงและพฤติการณ์การกระทำความผิดของกลุ่มบุคคลดังกล่าว พร้อมทั้งได้บังคับให้อดีตผู้สมัคร สว. รับสารภาพว่าได้กระทำความผิดในการฮั้วการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เมื่อวันที่ 5 พ.ค.68
วันนี้ (6 พ.ค.) เวลา 12.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยกรณีดังกล่าว ว่า พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว พบว่าทั้ง 3 รายเป็นเจ้าหน้าที่ของดีเอสไอจริง ซึ่งลงไปปฎิบัติหน้าที่ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย โดยเป็นการไปสอบสวนคดีพิเศษในเรื่องของคดีอั้งยี่กรณีการคัดเลือก สว. และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ได้บอกว่านัดหมายสอบปากคำกับตัวพยานเพื่อขยายผลในคดี และได้มีการแสดงตนตามกฏหมาย และทำการซักถามพยาน ยืนยันว่าไม่ได้มีการข่มขู่หรือมีประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้มีการบันทึกภาพขณะปฎิบัติภารกิจ และในส่วนประเด็นที่ใส่ชุดนอกนั้น การปฏิบัติหน้าที่ภาคสนามของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่ได้แต่งเครื่องแบบในทุกกรณี แต่หากเป็นกรณีในการตรวจค้นหรือการจับกุมถึงจะมีการใส่เครื่องแบบ ซึ่งการสอบปากคำในวันเกิดเหตุนั้น ทางตัวพยานไม่ได้สมัครใจให้ข้อมูล จึงไม่ได้บันทึกถ้อยคำไว้
เมื่อถามว่าทางดีเอสไอจะต้องเรียกพยานทั้ง 2 รายเข้ามาให้ข้อมูลหรือไม่ พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ส่วนตรงนี้จะเป็นกระบวนการต่อไป เนื่องจากตัวพยานให้การพาดพิงถึง จึงต้องมีการสอบสวนต่อ และจะต้องไปดูรายงานข้อเท็จจริงว่ามีข้อคลาดเคลื่อนตรงไหน อย่างไร ส่วนพยานที่กล่าวอ้างว่าถูกข่มขู่จะนำพยานหลักฐานอะไรมาแสดงคัดค้านยืนยันก็เป็นสิทธิของพยาน
เมื่อถามว่าในการสอบปากคำคดีฮั้ว สว. ทั่วประเทศนั้น เหตุใดถึงมีเพียงแค่ จ.อำนาจเจริญ ที่มีปัญหาระหว่างหน่วยงานกันเองหรือไม่ พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ยังมองว่าไม่ใช่ปัญหาแต่อาจจะเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน หลังจากนี้จะต้องประสานการปฎิบัติการให้มากขึ้น
ต่อข้อถามว่าปกติแล้วในเรื่องกระบวนเช่นนี้ทางผู้ว่าฯ จังหวัด สามารถทำรายงานตรงถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยได้เลยหรือไม่ พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ส่วนนี้เป็นเรื่องกระบวนการภายในของกระทรวงมหาดไทยตนเองตอบแทนไม่ได้ ส่วนจะมองว่าเป็นการสกัดการทำงานของดีเอสไอหรือดิสเครดิตหรือไม่ ตนไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น มองว่าเป็นการรายงานตามหน้าที่ แต่ข้อเท็จจริงอาจจะคลาดเคลื่อนกันอยู่บ้าง
ส่วนเมื่อถามว่าระดับรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมและรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย จะสามารถพูดคุยเรื่องนี้กันอย่างตรงไปตรงมาได้หรือไม่ เนื่องจากเป็นการร่วมกันสืบสวนสอบสวนคดีฮั้ว แต่ภาพที่ออกมากลับเหมือนขัดกันตลอดเวลานั้น พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบแทนได้ แต่ในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำหน้าที่ตามกฎหมาย คิดว่าต้องมีการสื่อสารและอธิบายความกันมากกว่า ซึ่งการสอบสวนปากคำพยานของดีเอสไอเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นไปตามอำนาจหน้าที่