ปทุมธานี สาวอุ้มท้อง8เดือนร้องสื่ิอถูกหลอกโกงเงินค่าเช่าบ้าน เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงกำลังตั้งครรภ์ 8 เดือนใกล้คลอดถูกโกงค่าเช่าบ้าน จึงเดินทางไปหาผู้เสียหายดัวกล่าว พบนางสาว พลอยไพรินทร์ แสงปลั่ง อายุ 25 ปี (พี่สาว) เล่าว่า ตนเองหาเช่าบ้านอยู่และก็เจอคนที่ให้เช่าบ้านผ่านทางเฟสบุ๊คชื่อWarissara Sakulpat ซึ่งตนเองก็สนใจ และได้ติดต่อขอดูบ้านเช่าเขาเมื่อวันที่ 20 เม.ย.68 ประมาณบ่ายโมงซึ่งเขาก็ได้เปิดบ้านไว้เรียบร้อยแล้วและก็มีคนจำนวนหนึ่งไปดูเหมือนกันซึ่งเมื่อตกลงกันเสร็จ ซึ่งเจ้าของบ้านก็พูดว่า ตนต้องวางมัดจำก่อนก็จะให้สิทธิ์คนนั้นก่อนซึ่งตนเองก็บอกว่าโอเค เพราะตนเองไปถึงคนแรก และเขาก็รีบให้ตนเองวางเงินเลยซึ่งตนเองอยากจะหาบ้านให้น้องสาวอยู่ด้วยเพราะน้องสาวกำลังท้องอยู่ ซึ่งตนเองก็ปรึกษากับน้องเพราะบ้านก็เลี้ยงลูกได้และก็ได้วางเงินลงไปเสร็จ ต่อมาทางเจ้าของบ้านได้แจ้งว่าไม่มีมิเตอร์ไฟฟ้า และตนเองก็ถามว่าไม่มีมิเตอร์ไฟเหรอค่ะแล้วพี่จะติดให้หนูเมื่อไหร่ และทางเจ้าของบ้านแจ้งว่าให้แจ้งล่วงหน้าก่อน 2 วันแล้วเขาจะติดมิเตอร์ไฟให้ และเมื่อวันที่ 22 เมษายน ทางด้านน้องสาวซึ่งกำลังท้องอยู่ได้ทักไปหาเจ้าของบ้านว่า พี่ค่ะหนูขออนุญาตติดมิเตอร์ไฟวันที่ 28 เมษายน 2568 ได้ไหมค่ะเพราะหนูต้องเข้าไปทำสะอาดและย้ายของชิ้นใหญ่ๆ เข้าบ้าน และจะเข้าพักอาศัยวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 และทางเจ้าของบ้านก็รับปากว่าจะจัดการให้ทุกอย่าง จนวันที่ 27 เมษายน ทางเจ้าของบ้านก็ทักมาว่าแจ้งการไฟฟ้าให้แล้วและกำลังจะมาติดมิเตอร์ไฟให้ ซึ่งตนเองก็โอเค จนวันที่ 29 เมษายน ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุเขาไม่ได้ติดต่อการไฟฟ้าให้ไปติดตั้งมิเตอร์ไฟแต่อย่างใด ซึ่งตนเองก็รู้สึกไม่โอเคแล้ว และตนเองก็ติดต่อการไฟฟ้าแล้วซึ่งการไฟฟ้าก็บอกว่าไม่มีไครมาติดต่อเลย และน้องสาวก็ทักไปบอกกับทางเจ้าของบ้านว่า พี่ค่ะถ้าพี่ไม่สะดวกให้หนูเช่า หนูก็ขอเงินมัดจำคืนเพราะจะได้เอาไปเช่าที่อื่นเหมือนกัน เพราะหนูก็กำลังจะคลอดลูกแล้วซึ่งเงินมัดจำนั้นจำนวน 21,000 บาท และเช่าเดือนล่ะ 7,000 บาท และเขาก็บอกว่าเรื่องให้ไปคุยกับทนายความของเขาและทนายก็โทรมาว่าคุณต้องการยกเลิกสัญญาใช่ไหม ซึ่งตนเองไม่ได้ยกเลิกสัญญาเพียงแต่อยากได้คำตอบจากเจ้าของบ้านว่าจะให้เข้าอยู่ได้เมื่อไหร่ และติดมิเตอร์ไฟได้เมื่อไหร่ซึ่งเขาก็ให้คำตอบไม่ได้และให้ไปคุยกันที่สถานีตำรวจ ตนเองก็บอกว่าได้และวันที่ 29 เมษายน ตอนเย็นตนเองก็ทักไปหาเขาอีกว่าพวกหนูต้องการเช่าอยู่จริงๆน่ะถ้าไม่พร้อมวันที่ 1 พฤษภาคม ก็ได้มาติดมิเตอร์ไฟวันที่ 1 ก็ได้และเขาก็บอกว่าไม่ให้เช่าแล้วถ้าอยากเช่าต้องวางเงินใหม่ทำสัญญาใหม่จำนวเงิน21,000 บาทวางใหม่อีกรอบหนึ่ง ซึ่งตนก็บอกเขาไปว่าไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอกค่ะ ซึ่งน้องก็เตรียมตัวจะคลอดพี่เห็นใจพวกหนูเถอะเขาก็บอกว่าไม่ และเขาก็บอกว่าถ้าเขาไปในบ้านจะแจ้งข้อหาบุกรุกซึ่งตนเองก็รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดและเช็คไปว่าไฟฟ้าไม่ใช้ชื่อเขา จากนั้นก็ไปกรมที่ดินเพื่อตรวจสอบว่า บ้านเลขที่นี้เป็นของนางสาวนี้ไหมปรากฏว่าไม่ใช่เพราะชื่อเจ้าของบ้านเป็นของผู้ชายซึ่งตนเองก็ยังติดต่อเจ้าของบ้านตัวจริงไม่ได้เช่นกัน จึงรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.คลองหลวง ซึ่งวันที่ 26 เมษายน 2568 ซึ่งตนเองเป็นคนถือสัญญาเช่าเขายังเอาบ้านหลังนี้ไปหลอกคนอื่นให้เช่าอีก ซึ่งเขาไม่น่าทำแบบนี้ซึ่งตนเองไม่อยากกล่าวหาเขา ซึ่งเมื่อไปดูบ้านทางพี่ผู้หญิงก็ไปกับแฟนเขา ตนเองก็ถามพี่ผู้ชายว่าบ้านหลังนี้เป็นของใคร ซึ่งทางพี่ผู้ชายก็บอกว่าเป็นของแฟนผมเองครับจากนั้นก็ได้เซ็นกำกับที่บัตรประชาชนว่าเป็นเจ้าของบ้าน ด้านนางสาวสุกัญญา นิโรจน์ อายุ 22 ปี (น้องสาวท้อง8 เดือน) บอกว่าขณะนี้เงินจำนวนหนึ่งก็อยู่กับเขาทั้งหมดเลยและตอนนี้เดือนร้อนเรื่องที่พักด้วยแต่ก็ยังมีป้าเจ้าของบ้านที่อยู่ปัจจุบันยังใจดีให้อยู่ต่อไปเพราะเขาเอ็นดูซึ่งเดือนหน้าก็คลอดลูกแล้วและไม่อยากให้เขาอย่าไปทำกับใครอีกเพราะทุกคนก็เดือดร้อนแต่ไม่มีไครออกมาพูด