นนทบุรี วงจรปิด ตร.รวบทันควันโจรหนุ่มวัย23ปี ขโมยภาพเหมือนหลวงปู่เอี่ยมในวิหาร ก่อนนำภาพไปทิ้งไว้ข้างกำแพงวัดเผยกลับใจกลัวบาป
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 68 ที่ สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.การุณย์ ลิมปิโรจนฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ต.ดิลก ลาดศิลา สว.สส.สภ.ปากเกร็ด พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายนพพล มิลัง อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 40/214 ม.8 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จับกุมตัวได้ที่ วัดเกาะพญาเจ่ง ม.1 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เวลา 16.50 น. พร้อมด้วยของกลางที่ได้จากการกระทำความผิด จำนวน 2 รายการ
1. ภาพเหมือนหลวงปู่เอี่ยมพร้อมกรอบ 1 รูป
2. ภาพเหมือนหลวงพ่อมิ่งมงคลพร้อมกรอบ 1 รูป
พร้อมด้วยของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ จำนวน 4 รายการ 1. เสื้อแขนยาวยี่ห้ออดิดาสสีน้ำเงิน 1 ตัว
2. กางเกงขายาวลายพราง 1 ตัว 3. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีแดง หมายเลขทะเบียน 5 ขอ 965 กทม. 4. หมวกกันน็อคแบบครึ่งใบสีน้ำเงิน 1 ใบ เนื่องจาก วันที่ 27 เมษายน 2568 เวลา 15.14 น ที่ผ่านมา นายนพพลฯ ขี่รภจยย. หมายเลขทะเบียน 5 ขอ 965 กทม จอดไว้และเดินลงไปขโมย รูปเหมือนหลวงปู่เอี่ยม และรูปเหมือนหลวงพ่อพระพุทธมิ่งมงคลไป พฤติกรรมคือ นายนพพลฯ ได้นำ ของกลางรายการที่ 1 – 2 ไปเก็บซ่อนไว้บริเวณริมกำแพงหน้าวัด แต่นายนพพลฯรู้สึกไม่ดีจึงตัดสินใจไม่เอาของไป ทางนายนพพลฯ รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาคือ “ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
จากการสอบถาม นายนพพล กล่าวว่า ที่ตนตัดสินใจเพราะจะนำรูปภาพไปขายและจะนำเงินมาใช้จ่ายและซื้อของกิน แต่ตอนตนเอาภาพออกมาแล้วและนำไปวางไว้ที่ข้างกำแพง ตนจึงคิดว่าที่ทำไปไม่ดี ความรู้สึกแปลกๆจึงตัดสินใจไม่เอาไป ที่ตนไปหยิบของในวัดมาเป็นภาพ 2 ภาพ แต่ตนคิดได้จึงไม่นำไป ตนไม่ได้ทำงานจึงคิดตัดสินใจทำ ตนจึงอยากขอโทษทางวัดและหลวงพ่อ แต่หลวงพ่อยังโกธรอยู่ ตนต้องขอโทษที่กระทำไปแบบนั้นตนรู้สึกไม่ดีและรู้สึกผิดจึงตัดสินใจวางภาพไว้ คิดว่าหลวงพ่อจะรู้แล้วว่าตนเอาภาพไปวางไว้ ตนสำนึกผิดจริงๆ
หลวงพี่ กมล เฟื่องอักษร เล่าว่า เหตุเกิดประมาณ11.41 น. พบคนร้ายเข้ามาขโมยรูปภาพ 2 รูปในวิหาร หลวงพี่จึงไล่กล้องวงจรปิดดู พบว่าคนร้ายเดินสำรวจภายในวัด ทำทีเข้ามาไหว้พระ ยกมือไหว้เสร็จแล้วเขาเดินย้อนกลับมาประมาณ 2-3 รอบ และเดินมาหยิบรูปในวิหารไป มีพระอาจารย์เดินออกมาพอดี และตะโกนเรียกเขาแต่เขาไม่จอดรถ เขาขี่รถจยย.ออกไปพร้อมรูปภาพ แต่เหมือนเขาคิดได้ จึงนำภาพไปวางคืนไว้ที่ข้างกำแพงวัด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับคนร้ายได้ทันที ซึ่งหลวงพี่ไม่ทราบว่าเขาคิดยังไงถึงนำภาพมาคืน อาจจะวางไว้ก่อนแล้วขับเข้ามาเอาตอนกลางคืน ซึ่งหลวงพี่ไม่เคยเห็นหน้าคนร้ายมาก่อน ส่วนภาพที่นำมาติดไว้เพราะญาติโยมชอบเข้ามากราบไหว้บูชา