ตำรวจไซเบอร์ขยายผลเว็บพนัnรายใหญ่ เงินหมุนกว่า 2,400 ล้านต่อปี ล่าเหนือจรดใต้ รวบเพิ่มอีก 4 ราย ยึดทรัพย์เพิ่มกว่า 215 ล้าน !! ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปปง.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส./ผอ.ศตคม.ตร. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว วันพฤหัสบดีที่ 24 เม.ย.68 เวลา 11.30 น. ณ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดยพล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตร์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 และ พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ขยายผลเว็บพนัnรายใหญ่ เงินหมุนกว่า 2,400 ล้านต่อปี ล่าเหนือจรดใต้ รวบเพิ่มอีก 4 ราย ยึดทรัพย์เพิ่มกว่า 215 ล้าน สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ได้สืบสวนพบเว็บไซต์การพนันlnออนไลน์รายใหญ่ เครือข่าย OK2D ซึ่งเปิดบริการให้ลูกค้าเข้าเล่นการพนัnหลากหลายรูปแบบ อาทิ หว_ยออนไลน์ สล็อต พนัn ฟุตบอล ยิงปลา บาคาร่า เป็นต้นซึ่งมีสมาชิกผู้เล่นกว่า 400,000 ราย ตรวจสอบเส้นทางการเงินพบยอดเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาทต่อเดือน หรือรวมแล้วประมาณกว่า 2,400 ล้านบาทต่อปี ต่อมา เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.67 ตำรวจไซเบอร์ได้เข้าตรวจค้น ในพื้นที่ อ.แม่สาย และ อ.เมืองเชียง ราย จ.เชียงราย จำนวน 4 จุด สามารถจับกุมเจ้าหน้าที่การตลาดของเว็บไซต์พนัnออนไลน์ OK2D รวม 8 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์PC คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และของกลางอื่นๆ รวม 218 รายการ มูลค่ากว่า 500,000 บาท จากการสืบสวนขยายผลในครั้งนั้น เมื่อวันที่ 5 ม.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นอีก 4 จุด ในพื้นที่ อ.แม่สาย และ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย อีกครั้ง สามารถจับกุม น.ส.รัชนก อายุ 23 ปี แอดมินดูแลเว็บไซต์และผู้ทำการตลาด พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ รวม 11 รายการ จากการตรวจสอบข้อมูลในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ตรวจยึดมาได้ทั้ง 2 ครั้ง พบพยานหลักฐานสำคัญ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องเพิ่มเติมได้อีก จำนวน 3 ราย และสามารถขออนุมัติศาลออกหมายค้นพื้นที่เป้าหมายได้จำนวน 2 จุด กระทั่งล่าสุด เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 23 เม.ย.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก. สอท.2 และ บก.สอท.4 ร่วมกับชุดปฏิบัติการสืบสวนตรวจพิสูจน์วิเคราะห์พยานหลักฐานข้อมูลอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ได้ระดมกำลังเพื่อเข้าตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 2 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.1 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต ตามหมายค้นศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 103/2568 ลง 22 เม.ย.68 สามารถตรวจยึดเงินสด จำนวน 5,705,750 บาท, โทรศัพท์มือถือ, ทองคำแท่งและทองรูปพรรณ, พระเครื่อง, นาฬิกาหรู, เครื่องคอมพิวเตอร์, สมุดบัญชีธนาคาร และของกลางอื่นๆ รวมจำนวน 52 รายการ มูลค่ารวมกว่า 111.7 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ได้แก่ ตู้เซฟ จำนวน 2 รายการ รถยนต์ จำนวน 3 คัน บ้านและฉโนดที่ดินกว่า 10 ไร่ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท จุดที่ 2 บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.6 ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ตามหมายค้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ ค115/2568 ลง 22 เม.ย.68 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 4 ราย ได้แก่ นายอภิชาต อายุ 35 ปี, น.ส.กาญจน์ศิริ อายุ 28 ปี, น.ส.รัชนี อายุ 37 ปี, และ น.ส.ศิเรียม อายุ 35 ปี ในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัn ในการเล่นซึ่งไม่ได้รับอนุญาต จากเจ้าพนักงาน , สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระ ทำความผิดฐานฟอกเงิน ได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันกระทำความผิดฐานฟอกเงิน” พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 7 เครื่อง และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 1 เครื่อง รวมมูลค่าของกลางกว่า 250,000 บาท รวมตรวจค้นทั้ง 2 จุด สามารถตรวจยึดและอายัดทรัพย์ สินที่คาดว่าได้มาจากการกระทำผิด รวมมูลค่า กว่า 215 ล้านบาท ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนี และตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
