รวบลูกสมุน เครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ ชาวไนจีเรีย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้ การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม, พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว รอง ผบก.บก.ป., พ.ต.อ.อนุสรณ์ ทองไสย ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย, พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์, พ.ต.ท.วชิระ ศุภพิสิฐกุล, พ.ต.ท.กิตติภูมิ ศรีแผ้ว รอง ผกก.6 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.มนตรี สงคง สว.กก.6 บก.ป., ร.ต.อ.วินัย ชูฟอง, ร.ต.ท.ธัญพิสิษฐ์ ศรีมาลานนท์ รอง สว.กก.6 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าพนักงานตำรวจ ชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 2 ราย 1.น.ส.จุฑาทิพย์ฯ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ตที่ จ.143/2568 ลง 13 ก.พ.2568 โดยกล่าวหาว่า “สมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดเพราะเหตุสมคบกัน และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย” สถานที่จับกุม หน้าบ้านหลังหนึ่ง ถ.ตรัง-พัทลุง ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง 2.นายศักดิ์ณรงค์ฯ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 66/2568 ลง 28 ม.ค.2568 โดยกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า อันเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” สถานที่จับกุม หน้าบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 8 ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง จ.ตรัง สืบเนืองจากเมื่อเดือน ต.ค.2567 น.ส.จุฑาทิพย์ฯ ร่วมกันกับนายศักดิ์ณรงค์ฯ ไปรับจ้าง ขนยาเสพติด (เฮโรอีน) จากกรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาชนลาว นำส่งไปยังประเทศที่สาม ฮ่องกง อินเดีย ตามคำสั่งการของนายมาร์คฯ สัญชาติไนจีเรีย โดยมี น.ส.อรรยาฯ (ซึ่งถูกจับกุมไปก่อนแล้ว) ซึ่งมีการว่าจ้าง และติดต่อว่าจ้างกันทาง แอปพลิเคชัน whatsapp โดยมีนายมาร์คฯ เป็นหัวหน้าขบวนการ มีน.ส.อรรยาฯ ผู้ประสานงานกับ น.ส.จุฑาทิพย์ฯ และ นายศักดิ์ณรงค์ฯ โดยเมื่อช่วงเดือน ต.ค.2568 น.ส.อรรยาฯ ได้ติดต่อ ว่าจ้างให้ น.ส.จุฑาทิพย์ฯ ไปขนยาเสพติด (เฮโรอีน) จากเวียงจันทร์ สาธารณรัฐประชาชนลาว แล้วนำส่งไปที่ประเทศฮ่องกง และนัดส่งมอบกันที่ จ.ภูเก็ต แลกค่าจ้าง ครั้งละ 100,000 บาท โดยทำมาแล้วหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุด น.ส.อรรยาฯ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม น.ส.จุฑาทิพย์ฯ และนายศักดิ์ณรงค์ฯ ไหวตัวทัน และหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผล จนทราบว่าน.ส.จุฑาทิพย์ฯ และนายศักดิ์ณรงค์ฯ ได้ติดต่อกับนายมาร์คฯ โดยตรง เพื่อของานรับขนยาเสพติด (เฮโรอีน) อีกโดยเข้าไปขนยาเสพติด (เฮโรอีน)มาพักไว้ในห้องพักที่โรงแรม จึงเข้าทำการตรวจสอบ พบยาเสพติด (เฮโรอีน) จำนวน 7 กิโลกรัม มูลละค่า ประมาณ 7 ล้านกว่าบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลจังหวัดภูเก็ต ออกหมายประกาศจับ น.ส.จุฑาทิพย์ฯ และ นายศักดิ์ณรงค์ฯ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย กระทั่งเจ้าพนักงานตำรวจ กก.6 บก.ป. สืบสวนจนทราบว่า น.ส.จุฑาทิพย์ฯ และนายศักดิ์ณรงค์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีดังกล่าวข้างต้น ได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ จ.ตรัง จึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับการสั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. วางแผนเข้าจับกุม จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ และนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง จ.ภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น น.ส.จุฑาทิพย์ฯ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และนายศักดิ์ณรงค์ฯภาคเสธ