ตำรวจภาค1จับมือภาค9และกองปราบฯ ไล่ล่าโจรชิงทอง 138 บาทที่หาด้วยใหญ่ จ.สงขลาใช้เวลาไม่ถึง24 ช.ม. รวบตัวคาสายใต้ใหม่ วันที่10 เม.ย.68 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1 เขตจตุจักร กทม.พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1,พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9พล.ต.ต.นราเดช รอง ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9, กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1, ฝ่ายสืบสวน ภ.จว.นนทบุรี, ฝ่ายสืบสวน ภ.จว.สงขลา, ฝ่ายสืบสวน กก.6 บก.ป., ฝ่ายสืบสวน สภ.ปากเกร็ด และ ฝ่ายสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ร่วมแถลงการจับกุมผู้นายอาหวู่พะ สินเกา หรือนายอนุชา แซ่โหยว หรือนายลี บุน ลง อายุ 62 ปี สัญชาติมาเลเซีย ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 เม.ย.2568 เวลาประมาณ 11.52 น. มีคนร้ายจำนวน 1 คน เข้าไปก่อเหตุชิงทรัพย์ ที่ห้างทองไทยอุดม 2 โดยคนร้ายแต่งกายใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้า-น้ำเงินเข้ม กางเกงขายาวสีเทา สวมหมวกแก๊ปสีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบสีขาว-ฟ้า-ชมพู เข้าไปภายในร้าน แล้วพูดว่า “อย่าส่งเสียงดัง” พร้อมกับเปิดชายเสื้อแสดงให้เห็นอาวุธปืน จากนั้นจึงได้ทำการเข้าไปชิงเอาสร้อยคอทองคำและสร้อยข้อมือทองคำที่อยู่ภายในร้านไป จำนวน 69 เส้น น้ำหนัก รวม 138 บาท มูลค่าประมาณ 6.9 ล้านบาท แล้วได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมาวันรุ่งขึ้น (9 เม.ย.2568) เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่าคนร้ายหลบหนีมายังพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงได้บูรณาการการทำงานจนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาพร้อมด้วยทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ถูกชิงทรัพย์ไปได้บริเวณสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ดำเนินคดีตามกฎหมาย พล.ต.อ.ธนายุตม์ ได้กล่าวว่า”ผู้ต้องหาคดีเป็นคน2 สัญชาติ คือไทยและมาเลเชีย ก่อเหตุอาชญากรรมทั้งฝั่งไทยและมาเลเชีย ตั้งแต่อายุ 16 ทั้งปล้มทรัพย์และฆ่าคนตาย เคยถูกจับกุมมาหลายข้อหา และทราบว่ามีการเปลี่ยนชื่อสกุลหลายครั้ว กำลังให้ทางฝ่ายปกครองตรวจสอบว่าบัตรประชาชนเป็นของจริงหรือปลอมและถ้าจริงก็ต้องสืบสวนต่อไปว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องหรือไม่”