นนทบุรี วงจรปิด อดีตลูกจ้างร้านอาหารสุดแสบ ติดยาเสพติด ย่องเข้ามาขโมยของกว่า 10 ครั้ง หนีลอยนวล
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความไว้ว่า “ฝากด้วยนะคะ ใครเจอบุคคลในภาพนี้รบกวนแจ้งเบาะแสให้หน่อยค่ะที่เบอร์ 064-085-5429 (น้องฟีม) เมื่อวันที่ 25/3/68 เวลา 8 โมงเช้า เหตุเกิดที่ร้านอาหารบ้านคุณเอง ผู้ชายคนนี้ชื่อเล่น ชื่อแอร์ ได้เข้ามาขโมยทรัพย์สินของพนักงาน เป็นเงินและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆหลายรายการ เป็นบุคคลอันตราย เข้ามาหลายครั้งแล้ว ตอนแรกเราไม่เอาเรื่องเพราะสงสาร แต่วันนี้นิสัยคนคงแก้ไม่ได้แล้วถ้าปล่อยผ่านอีกคงเป็นภัยอันตรายต่อสังคมที่เขาเหน็ดเหนื่อยทำงาน ตอนนี้ทางร้านได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้ใดพบเห็นรบกวนติดต่อมาทางร้าน ผู้ที่ให้ที่พักพิงจะมีความผิดไปด้วย เพราะอยู่ในขบวนการทางกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว“
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 68 ที่ร้านอาหารบ้านคุณเอง ซ.เลี่ยงเมือง-นนทบุรี ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี พบนายพลกฤษณ์ เพชร์คล้าย น้องชายเจ้าของร้านอาหาร และ น.ส.ลลิตา ไชยสงคราม พนักงานร้าน ที่ถูกคนร้ายเป็นชายเข้ามาลักทรัพย์ของภายในร้าน ได้เงินสดไปจำนวน 700 บาท นาฬิกาไม่ทราบยี่ห้อ (ของลูกค้าฝากไว้) 1 เรือน ราคา 3,000 บาท และของใช้บางส่วน ขโมยหนีไป ซึ่งตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุเคยเป็นพนักงานเก่าที่ร้านอาหารดังกล่าวฯ และเคยมีคดีทำร้ายร่างกายคนภายในร้าน จึงหนีหายออกไปนาน ก่อนจะกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง หลังจากเกิดเหตุผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้ที่สภ. เมืองนนทบุรี เหตุเกิดวันที่ 25 มี.ค. 68 เวลาประมาณ 08.34 น.
จากการสอบถาม น.ส.ลลิตา เล่าว่า เหตุเกิดตอนเช้าวันที่ 25 มี.ค. 68 เหตุเกิดประมาณช่วงเช้า เป็นช่วงเวลาที่พนักงานนอนหลับ ดูจากกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายเดินเข้ามาอย่างใจเย็น เพราะว่าคนร้ายเคยเข้ามาก่อเหตุหลายครั้งแล้ว ซึ่งคนร้ายได้เดินเข้ามาบริเวณหน้าร้าน เข้ามาถึงตู้ล็อกเกอร์ที่เก็บของของพนักงาน ซึ่งล็อกเกอร์บางอันก็ไม่ได้ใส่กุญแจล็อคเอาไว้ เดินเข้ามาค้นทุกตู้และได้เงินสดไป พร้อมกับนาฬิกา และสิ่งของเครื่องใช้เล็กน้อย จากที่ดูกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายเคยทำงานที่นี่มาก่อน และเป็นแฟนกับคนภายในร้าน จะรู้พื้นที่ภายในร้านทั้งหมด รู้ว่าต้องเก็บของตรงไหน และใครจะเก็บของมีค่าไว้ตรงไหนบ้าง เพราะเขาเข้ามาก่อเหตุอยู่ในร้านนานกว่าครึ่งชั่วโมง และเข้ามาหลายครั้งแล้ว ตนจึงอยากฝากถึงเขาว่าตนอยากได้ของคืน เพราะนาฬิกาเป็นของลูกค้า และไม่อยากให้ไปทำแบบนี้กับใครอีก ตอนนี้ตนมีความหวาดระแวงเพราะกลัวคนร้ายจะเข้ามาก่อเหตุซ้ำเพราะเป็นช่วงเวลาที่พนักงานในร้านนอนหลับพักผ่อน
ด้านนายพลกฤษณ์ กล่าวว่า คนร้ายเคยเข้ามาขโมยของหลายครั้งแล้ว ของที่ร้านจะหายอยู่ตลอดเวลา เป็นของใช้ ของกิน และของมีค่า แต่ครั้งล่าสุดของที่หายเป็นของลูกค้าตนจึงจะต้องเอาเรื่อง ซึ่งจากที่ดูกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายเคยเป็นพนักงานเก่าที่นี่เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ซึ่งเขายังวนเวียนอยู่ที่บริเวณใกล้เคียงร้าน ถ้าไม่มีเงินก็จะวนเข้ามาขโมยของ เพราะไปสืบมาปรากฏว่าเขาติดยาเสพติดด้วย ไม่กี่วันนี้ มีคนเจอตัวเขาวนเวียนอยู่บริเวณเมืองนนท์ ตนจึงอยากประชาสัมพันธ์ว่าถ้าใครเจอตัวเขาให้โทรมาที่เบอร์ตน หรือติดต่อเพจทางร้านได้ทันที จะได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมตัวไปดำเนินคดีต่อ ตอนนี้ทางร้านต้องระมัดระวังเพิ่มเติมแต่ประตูทางเข้าเป็นรั้วต่ำ จึงยากที่จะป้องกันเพิ่มเติม เพราะเป็นร้านอาหารจะทำรั้วรอบขอบชิดเยอะมากไม่ได้
