หน่วยปราบปรามยาเสพติดท่าเรือ “SITF” ขยายผลเคสส่งไอซ์ไปไต้หวัน บุกจับบริษัทขนส่งพบไอซ์ 76 กก.อำพรางเจ้าหน้าที่ เตรียมส่งออก
วันที่ 15 สิงหาคม 2565 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พ.ต.อ. อดิศ เจริญสวัสดิ์ รอง ผบก.ปส.3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด บช.ปส. นายถวัลย์ รอดกิตต์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร พ.อ. มารุต เปล่งขำ ผู้อำนวยการกอง 12 ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) และ Mr. Cody Tung (โคดี้ ต่ง) เลขานุการฝ่ายกฎหมาย กระทรวงยุติธรรมไต้หวัน (Ministry of Justice Investigation Bureau, MJIB) ภายใต้โครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ท่าเรือ (Seaport Interdiction Task Force : SITF) บุกจับกุมนักค้ายาเสพติด 2 ราย พร้อมไอซ์ 76 กิโลกรัม โดยการจับกุมวันนี้เป็นการขยายผลจากเคสการจับกุม ไอซ์ 945 กิโลกรัม ที่ท่าเรือกรุงเทพ (ท่าเรือคลองเตย) เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564
นายวิชัย ไชยมงคล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 ที่ผ่าน มีการจับกุมยาเสพติดประเภท 1 ไอซ์ จำนวน 945 กิโลกรัม ซุกซ่อนในแผ่นซิลิโคน เตรียมส่งไปยังไต้หวัน ที่ท่าเรือกรุงเทพ
โดยหลังจากการจับกุม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้โครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ท่าเรือ หรือ “SITF” ได้ออกหมายจับกุมผู้เกี่ยวข้องและสืบสวนขยายผลจนทราบผู้อยู่เบื้องหลังการเตรียมขนส่งไอซ์ จำนวน 945 กก. ดังกล่าว ต่อมาพบว่ากลุ่มผู้ต้องหารายหนึ่งซึ่งมีบทบาทในการเปิดบริษัทนำเข้า – ส่งออกสินค้า โดยใช้อำพรางในการจัดส่งซิลิโคนที่ซุกซ่อนยาเสพติดไปไต้หวัน จึงได้เข้าจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าว จำนวน 2 ราย ได้เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2565 ที่โกดังเก็บสินค้า จังหวัดปทุมธานี พร้อมไอซ์ 500 กรัม
จากการจับกุม ไอซ์ 500 กรัม ที่โกดังเก็บสินค้า หน่วยปราบปรามยาเสพติด SITF ได้ขยายผลตรวจค้นบ้านเช่าผู้ต้องหาที่ ตำบลประชาธิปัตย์ จังหวัดปทุมธานี และพบไอซ์อีก 75.5 กิโลกรัม ตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท พร้อมยึดหลักฐานการทำธุรกรรมเพื่อสอบสวนรายได้ที่มาจากยาเสพติดเพื่อเตรียมยึดทรัพย์ตามมูลค่าและเตรียมขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องต่อไป
นายวิชัย ไชยมงคล กล่าวอีกว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือทั้งในด้านการข่าวและการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสกัดกั้นยาเสพติดลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังปลายทางประเทศที่สาม และขยายผลจากจับกุมทุกเคส เพื่อยึดทรัพย์ และสืบสวนเพื่อจับกุมผู้อยู่เบื้องหลัง เป็นการตัดวงจรและทำลายองค์กรการค้ายาเสพติดระดับชาติ
