นนทบุรี วงจรปิด แม่ร้องสื่อ ลูกวัย 17 ปี แขนเกือบขาด ถูกกลุ่มวัยรุ่นกว่า10คน ไล่ฟัน ปาระเบิด ยิง3นัด ในวันเกิดตัวเอง เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส. ปภัสสร บุญจ่าย อายุ 32 ปี ว่าลูกชายชื่อน้องพี อายุ 17 ปี และเพื่อนชื่อโม่ อายุ 16 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 คน ขี่รถจยย.ไล่ยิง ไล่ฟัน จนลูกชายและเพื่อนลูกชายเสียหลักรถล้ม ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งน้องพีฯ ได้รับบาดเจ็บถูกมีดฟันบริเวณหัวไหล่ด้านขวาเกือบขาด และมีแผลถลอกตามบริเวณใบหน้า และขาทั้งสองข้าง ส่วนน้องโม่ฯ ถูกมีดฟันบริเวณหัวเข่าด้านซ้ายเกือบขาด และมีแผลบริเวณใบหน้า จมูก ปาก แขนด้านซ้าย เหตุเกิดบริเวณเกาะกลางถนนหน้าห้างบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ใต้สถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู ถ.แจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังจากเกิดเหตุ น.ส. ปภัสสรฯ ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด จากการสอบถาม น้องพี เล่าว่า วันเกิดเหตุวันที่ 24 มี.ค.68 เวลา 02.30 น. ตนได้ไปจัดงานวันเกิดที่บ้านเพื่อนในซอยวัดกู้(วัดบางพูดนอก) หลังจากกินเลี้ยงเสร็จ ตนขี่รถจยย.กำลังไปส่งโม่ที่บ้าน และมีเพื่อนที่กลับพร้อมกัน 6 คน ขี่รถจยย.ไปคนละคัน หลังจากนั้น ได้ขี่รถจยย.ออกจากซอยวัดบางพูดนอก ออกมาประมาณ 900 เมตร มาเจอกลุ่มวัยรุ่นที่บริเวณหน้าเซเว่นซอยต้นมะพร้าว ตนจึงขับรถออกมาปกติ แต่เกือบถึงทางออกจากซอยวัดกู้เข้าถนนใหญ่ ซึ่งโม่เห็นว่ากลุ่มวัยรุ่นได้ควักอาวุธปืนออกมา และยิงตนกับโม่บริเวณหน้าไปรษณีย์ปากเกร็ด ตนกับโม่จึงรีบขี่รถจยย.หนี มุ่งหน้าไปที่ห้าแยกปากเกร็ด ส่วนเพื่อนที่เหลือได้แยกแตกออกไปในจังหวะที่กำลังหนี เหลือตนกับโม่ที่มาคันเดียวกัน แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ขี่ตามตนมาติดๆ ขี่ตามจนไปถึงหน้าโรงงานดังกล่าว หลังจากนั้น ตนเสียหลักรถล้มทำให้ถูกกลุ่มวัยรุ่นลงมาใช้มีดฟันตนกับโม่ ซึ่งตนไม่ทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นเป็นใคร และไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ไม่รู้จักไม่เคยมีปัญหาด้วย ซึ่งก่อนเขาจะลงมาฟัน กลุ่มเขามีอาวุธปืน ระเบิด และมีด แต่ตนกับโม่ไม่มีอาวุธแม้แต่ชิ้นเดียว ทำให้ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุตนได้สอบถามเพื่อนในกลุ่มทั้งหมดแล้วปรากฏว่าไม่มีใครรู้จักกลุ่มผู้ก่อเหตุ และเพื่อนของตนไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน เพราะก่อนเค้าจะลงมือทำร้ายร่างกายตนกับโม่ เขาไม่พูดอะไรเลย ไม่บอกว่าสาเหตุที่ทำเพราะอะไร ทำให้ตนไม่ทราบว่าเขาเป็นใคร ซึ่งบาดแผลของตนยังดีที่ตนใส่หมวกกันน็อคตอนเกิดเหตุ แต่เจ็บหนักสุดคือบริเวณหัวไหล่ เย็บประมาณ 20 เข็ม และเจ็บบริเวณตามลำตัว ส่วนโม่ โดนฟันที่หัวเข่าและแผลถลอกตามตัว ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องกับใครจริงๆ และไม่รู้จักกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมด 10 คน ส่วนทางด้าน น.ส. ปภัสสร แม่ของน้องพี กล่าวว่า เหตุเกิดตอนประมาณ 02.30 น. รุ่นพี่ที่อยู่กับลูกชายของตนโทรมาบอกว่าน้องพี่โดนฟัน ให้มาดูน้องพีที่โรงพยาบาล หลังจากที่ตนทราบเรื่องตนได้วิ่งมาที่เกิดเหตุพบว่าน้องพีนอนบาดเจ็บอยู่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเพื่อนของน้องพี่ที่เกิดเหตุด้วย ตนจึงสอบถามสาเหตุว่าเรื่องเป็นมายังไงปรากฏว่าน้องพีไปกินวันเกิดที่บ้านเพื่อน ก่อนเกิดเหตุน้องพีกำลังออกมาส่งโม่กลับบ้าน เพราะเช้าต้องไปทำงานรีบกลับบ้าน ซึ่งปกติแล้วน้องพีอยู่บ้านตลอดไม่ค่อยออกไปไหนเพราะบ้านอยู่ในเกาะเกร็ด จะออกเฉพาะตอนเรียนและทำงาน ไปไหนน้องพีบอกและรายงานตลอด ทั้งเรื่องไปหาเพื่อน เรื่องสังสรรค์ เขาจะบอกตนตลอด ถ้าน้องพีกลับไม่ไหวตนจะให้เขานอนบ้านเพื่อน ในเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ครั้งแรกของน้องพีเพราะน้องพีไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน ซึ่งตนไม่ทราบว่าเพื่อนของน้องพีไปมีปัญหากับใครมาหรือเปล่า เพราะน้องพีกับเพื่อนไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอด ดเวลา นานๆทีจะมารวมตัวสังสรรค์กัน ตอนนี้ตนรู้สึกตกใจมากที่น้องพีมาโดนทำร้ายร่างกายในวันเกิดของตนเอง เพราะเป็นลูกชายคนเดียวของตน ทำให้ตนพูดไม่ออก เพราะน้องเป็นหนัก เอ็นเกือบขาด จะต้องใช้เวลารักษาตัวเองอีกนาน ค่ารักษาหายแล้วแขนจะจะกลับมาใช้ปกติแบบเดิมได้หรือเปล่า และน้องต้องจาดรายได้เพราะทำงานอยู่ อาจจะต้องรักษาตัวประมาณ1-2เดือน ตนจะต้องดูแล ตนพยายามทักหาน้องพีตลอดเวลาไปข้างนอก จะโทรหากันตลอด ยืนยันว่าน้องพีไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขับรถหนีเข้าไปในเมืองทอง และมุ่งหน้าไปปทุมข้ามสะพานนวลฉวีไป และก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อเหตุขับรถมาจากทางสะพาน พระราม 4 มุ่งหน้าเข้าปากเกร็ด ตอนนี้อยากรู้สาเหตุที่เขาก่อเหตุทำร้ายลูกชายตนและเพื่อน อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี เพราะตนอยากทราบสาเหตุ อยากให้พวกเขามามอบตัวจากเรื่องหนักจะได้เป็นเบา แต่ตนก็จะไม่ยอมจะเดินเรื่องคดีให้ถึงที่สุด คนทำจะต้องรับผิด และตนเชื่อมั่นในลูกชายตนเองว่าไม่เคยไปหาเรื่องใครก่อน หมายเหตุ : เบลอหน้าผู้เสียหายด้วยครับ