“ทนายอั๋น” ร้อง DSI จี้ กกต.เปิดวงจรปิด-หีบเลือก สว. ยันพบหลักฐาน “โพย ฮั้ว”
ทนายอั๋น บุรีรัมย์ ยื่นหนังสือดีเอสไอ ส่งเรื่องขอ กกต. เปิดกล้องวงจรปิดและหีบเลือกตั้ง สว. ระดับประเทศ หลังพบมีหลักฐานโพยฮั้ว สว. 20 กลุ่ม และคะแนนเกาะกลุ่มผิดปกติ
วันนี้ (26 มี.ค.) ณ อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอพิจารณาส่งเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำการ “เปิดหีบเลือกตั้ง สว. และกล้องวงจรปิด” ในการเลือกตั้งระดับประเทศครั้งที่ผ่านมา เพื่อหาหลักฐานว่ามีการฮั้วเลือกตั้งจริงหรือไม่ หลังจากที่ดีเอสไอ ตรวจพบว่ามีโพยฮั้วเลือก สว. 20 กลุ่ม โดยมี นายสมเกียรติ เพชรประดับ ผอ.ส่วนพิจารณาสำนวนร้องทุกข์ กองบริหารคดีพิเศษ เป็นผู้แทนรับเรื่อง
นายภัทรพงศ์ หรือ ทนายอั๋น เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 มี.ค.68 กกต. มีมติแต่งตั้งข้าราชการจากดีเอสไอ เป็นเจ้าพนักงานตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนตามระเบียบว่าด้วยการสืบสวนไต่สวน 7 ราย มีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ จึงยื่นเอกสารผ่านดีเอสไอขอให้เปิดหีบลงคะแนนเลือก สว. ระดับประเทศรอบสุดท้าย และกล้องวงจรปิดสถานที่ในวันเลือก สว. รอบสุดท้ายด้วย ซึ่งที่ผ่านมามีการร้องเรียนมาเป็น 10 คําร้องแต่ กกต. ไม่สนใจ จึงมาร้องให้ดีเอสไอช่วยเนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ 3 คน อยู่ในคณะทำงานของ กกต. ซึ่งไม่จําเป็นต้องมีคําสั่งศาลก็สามารถเปิดหีบเลือกตั้งได้เพราะอยู่ระหว่างการไต่สวนของ กกต.
ทนายอั๋น กล่าวอีกว่า ส่วนเหตุผลที่ต้องให้มีการเปิดหีบ เพราะสงสัยว่ามีคะแนนเกาะกลุ่มกันแบบผิดปกติ และคนที่เข้ารอบประเทศไปจนถึงรอบสุดท้ายไม่ลงคะแนนเสียงกันเยอะมาก ส่วนคนที่ได้คะแนนตั้งแต่ลำดับที่ 6 ไปจนถึงลำดับที่ 1 ไม่แสดงอาการท่าทางดีใจใดๆทั้งสิ้น รวมถึงการเก็บโพยได้ที่ห้องนํ้า ซึ่งเหตุผลเหล่านี้ทําให้จําเป็นต้องเปิดหีบเพื่อพิสูจน์ความจริง ทำให้รู้ว่าผู้สมัครรายใดเชื่อมโยงกับผู้อื่นอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ ตนอยากให้มีการนำหีบลงคะแนนทั้ง 20 หีบมาวางเรียงต่อกันแล้วเปิดหีบต่อหน้าสักขีพยาน แล้วการที่นำใบคะแนนออกมาดูมันก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าใบลงคะแนนนั้นเป็นใครกา มันเป็นความลับ มันไม่ขัดต่อกฎหมายใด ทั้งนี้ตนจะนําหนังสือไปยื่นให้ กกต. อีก 1 ฉบับ
