ปราจีนบุรี(คืบหน้า)–ชาวบ้านร้องทุกข์!แม่ร้องสื่อลูกชายถูกยิงคดีไม่คืบอาการปางตายอยู่ห้อง ICU ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด วันนี้ เพิ่งได้เห็นหน้าพ่อของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นอส.โดยไม่ไม่บอกชื่อและมีคนกลางมาติดต่อขอพูดคุย ไม่ให้แจ้งความ
วันนี้ 23 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรีความคืบหน้าจากกรณีแม่ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชน ลูกชายตนเองถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่คดีไม่คืบหน้า
โดยก่อนหน้านั้นนายกิตติ หัดเจริญ อายุ32ปี ได้ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าไปตามตัวเพื่อที่จะนำไปบำบัดยาเสพติดแต่นายกิตติเห็นชุดเจ้าหน้าที่วิ่งมาหาขณะที่กำลังนอนอยู่ในเปลที่ใต้ถุนบ้าน ชุดจับกุมได้วิ่งไล่ตามและร้องเรียกให้หยุด แต่นายกิตติได้วิ่งหลบหนีไปทางหลังบ้านในสวนยางพารา
ขณะนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ใช้ปืนยิงใส่นายกิตติทำให้ถูกยิงที่บริเวณกระดูกสันหลังด้านขวา แล้วล้มฟุบลงกลางสวนยางเจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายกิตติได้และนำตัวส่งโรงพยาบาลนาดี และ ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี อาการล่าสุดผู้บาดเจ็บ ถูกนำตัวเข้ารักษาต่อที่ห้อง ICU ซึ่งเจ้าตัวไม่สามารถพูดจาได้แพทย์ต้องดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด
หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.อลงกรณ์ ภูขะมา สว.(สอบสวน) ได้รับแจ้งว่าเมื่อเวลา13.30 น.วันที่ 21มี.ค.68 มีคนถูกอาวุธปืนยิงได้รับบัตรเจ็บเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทราบชื่อนายกิตติ หัดเจริญ อายุ31ปีถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดจำนวน 1 นัดได้รับบาดเจ็บ
นางสาวสมน หัดเจริญ อายุ 21 ปี (น้องสาวคนเล็ก)กล่าวว่า มาที่โรงพยาบาลแรกเริ่มหมอบอกว่าคนไข้อาการวิกฤติ 50-50 วันที่ 22 ช่วงเวลา 16:00 น.คุณไข้หายใจไม่ออก เวลา20:00 น.อาเจียนออกเป็นเลือด หมอได้ถ่ายเลือด หมอดูกระดูกและเอกซเรย์ ช่วงประมาณ 4-5 ทุ่มของวันที่ 22 หมอบอกต้องเข้าห้อง ICU ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด วันนี้วันที่ 23 เพิ่งได้เห็นหน้าพ่อของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นอส.โดยไม่ไม่บอกชื่อและมีคนกลางมาติดต่อขอพูดคุย
โดยทั้งสามคนมาพูดคุยเราไม่รู้เรื่อง คนกลางพูดแต่เรื่องเงิน โดยนคนกลางพูดว่า “เนี่ยเผลอเจ็บได้เงินให้พ่อกับแม่ได้ใช้ด้วย อันนี้ไม่สมควรจะพูด เขาพูดต่อหน้าคนเจ็บ ไม่สมควรที่จะพูด” เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเขาแค่คนกลาง เขามาพูดคำนี้
อีกคนคือพูดว่าได้เงินเยอะอย่างนี้อย่างนั้น อย่างนี้มันไม่ใช่แล้วพ่อแม่อยากเห็นหน้าคนก่อเหตุ เขาบอกว่าญาติเป็นคนอารมณ์ร้อน ซึ่งคนที่อ้างว่าเป็นพ่อของผู้ก่อเหตุไม่ให้ดูรูปไม่ให้เห็นหน้า เขามาคุยๆเรื่องดูแลค่าใช้จ่ายอย่างเดียว ไม่ให้แจ้งความ เดี๋ยวมีเงินให้อย่างเดียว แต่ทางเราขอรักษาคนไว้ดีกว่าซึ่งเงินที่ว่านั้นจะให้ยังไงมากน้อยยังไง ทางครอบครัวอยากได้ชีวิตของคนเจ็บคืนมาดีกว่า
