สายไหมต้องรอดพา ด.ญ.วัย 12 ปี ถูก 5 ทรชนรุมโทรมจนต้องตัดมดลูกทิ้งกลับถูก5ทรชนได้รับการประกันตัว ย้อนกลับมาข่มขู่ มายืนถอนประกันตัว
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 มีนาคม 2568 ที่ สภ.บางปะหัน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พานางสาว น้อย ( นามสมมุติ ) แม่ อายุ 29 ปี และ ด.ญ.บี ( นามสมมุติ ) ลูกสาว อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ไปติดตามความคืบของคดี ถูก 5 เยาวชน “ ลูกหลานกำนัน – หลานนายก อบต. คนดัง ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ” รุมโทรม จนมดลูกติดเชื้ออย่างหนัก ต้องตัดมดลูกทิ้ง ล่าสุดแก๊ง 5 ทรชน ได้รับการประกันตัว ย้อนกลับมาข่มขู่ครอบครัวผู้เสียหายให้ถอนแจ้งความ จนครอบครัวผู้เสียหายหวาดกลัวต้องหลบหนีไปอยู่ที่อื่น
นาย เอกภพ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเลวร้ายมาก เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา น้องถูกล่อลวง ออกจากบ้าน ถูกกลุ่มเยาวชน 5 คน เป็นลูกหลานนักการเมืองท้องถิ่น และกำนัน ไปรุมล่วงละเมิดทางเพศ และมีการข่มขู่จะฆ่าห้ามนำเรื่องไปเล่าไปบอกให้ใครรู้ ผู้ปกครองมาทราบภายหลังเนื่องจากเด็กมีอาการซึมและมีอาการปวดท้อง จึงพาไปหาหมอจึงรู้ว่าน้องถูกล่วงละเมิดทางเพศ เค้นสอบถามจนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร เข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ และติดตามไปจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้ง 5 คน เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14 – 17 ปี ควบคุมตัวส่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินคดีในข้อหา “ ร่วมกันกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และร่วมกันกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม อันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิงเป็นเหตุได้รับอันตรายสาหัส ” และนำตัวไป ฝากขังได้มีการประกันตัวผู้ต้องหา
ภายหลังการกลุ่มเยาวชนได้ประกันตัว ออกมามีการมาข่มขู่ทางผู้เสียหาย ขับรถจยย.วนเวียนเบิ้ลรถเสียงดังข่มขู่ผ่านคนใกล้ชิดภายในครอบครัวจนเกิดความหวาดกลัว จนต้องย้ายไปอยู่บ้านญาติ วันนี้จึงพาผู้เสียหายมาพบ รอง ผกก.สอบสวน เพื่อสอบปากคำ เพิ่มเติมขอถอนการประกันตัว และหัวหน้าบ้านพักเด็ก พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือน้องผู้เสียหายไปอยู่ในที่ปลอดภัย พร้อมกับประสาน นายสุรศักดิ์ พันเจริญวรกุล รมช.กระทรวงศึกษาธิการ ในการช่วยหาโรงเรียนให้น้องผู้เสียหายเรียนที่ใหม่ ด้าน นางสาวน้อย แม่ของเด็ก กล่าวว่า ตนเองทำงานไม่ค่อยได้กลับบ้านลูกสาวจะอยู่กับยาย วันเกิดเหตุช่วงประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน เพื่อนผู้หญิงโรงเรียนเดียวกันมารับออกไปช่วงกลางคืนแล้วไป กลับมาถึงบ้านมีอาการสลึมสะลือ ต่อมามีกลุ่มเยาวชนมารับออกไปจากบ้านอีก หลังกลับมาลูกมีอาการซึมเศร้าและปวดท้อง จึงมีการเค้นสอบถาม จนยอมบอกเล่าเหตุการณ์ให้ฟังพาไปตรวจร่างกาย จนต้องมีการผ่าตัดมดลูก ไป 1 ข้าง และเข้าแจ้งความ
ลูกบอกว่า โดนหลอกพาไปรุมโทรมมา 1 ครั้ง และยังมีการข่มขู่ชักชวนไปอีก 1 ครั้งที่แรกไม่ยอมออกไปมีการข่มชูจะทำร้ายร่างกาย ลูกจึงต้องยอมออกไปอีก จนทางครอบครัวมาทราบ หลังจากถูกจับกุมตัวดำเนินคดี ทางกลุ่มเยาวชนที่ก่อเหตุ มีการมาข่มขู่ คุกคามทางครอบครัว ให้เปลี่ยนคำให้การ จนเกิดความหวาดกลัว ด้าน พ.ต.ท.วุฒิไกร อุปพงษ์ รองผู้กำกับสอบสวน สภ.บางปะหัน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ไปทำรายงานการสืบสวนประกอบว่ามีใครบ้างที่ทำพฤติกรรมแบบนี้ ให้ชัดเจน หลังจากนี้ก็จะสอบปากคำผู้เสียหายประกอบเพิ่มเติมประกอบและทำคำร้องไปที่ศาลเพื่อคัดค้านการประกันตัว ว่าผู้ต้องหาได้ไปข่มขู่คุกคาม ทำให้ผู้เสียกายเกรงกลัวอาจจะไปยุ่งเกี่ยวกับพยาน ส่วนที่ว่าครอบครัวผู้ก่อเหตุมีหน้าตาอิทธิพลในสังคม น่าจะเป็นอดีตกำนัน
ซึ่งจะมาใช้เงินทางคดีอะไรไม่ได้ เพราะเป็นคดีอาญาแผ่นดิน แจ้งความแล้ว มีการสอบปากคำส่งผู้ต้องหาไปควบคุมตัวที่ศาลแล้วถอนไม่ได้ ตอนนี้ก็แจ้งข้อกล่าวหาครบทุกคนแล้ว 5 คน ส่งศาลควบคุมตัวเรียบร้อยแล้วทั้งหมดเป็นยาวชน อายุระหว่าง 14 – 16 ปี เป็นเด็กในระแวกเดียวกัน ทางตำรวจเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย อยากให้เชื่อมั่นว่าหลังจากนี้ไปจะเร่งรัด ดำเนินคดี สรุปสำนวนส่งฟ้องต่อศาลให้เร็วที่สุด ส่วน นาง อรพญา พลอยทับทิม หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ตอนนี้มาดูในส่วนคุ้มครองปกป้องเด็ก ต้องดูความรู้สึกของน้อง ยังมีภาวะกังวน เล่าว่าผู้กระทำมาวนเวียนข่มขู่ ก็จะต้องไปประเมิณ ว่าจะปกป้องคุ้มครอง ซึ่งน้องยังไม่ตัดสินใจว่าจะไปอยู่ด้วยหรือไม่ ในบ้านพักเด็ก ก็พยายามคุย ถ้ารู้สึกไม่ปลอดภัยก็สามารถเข้ามา รับการคุ้มครองของบ้านพักเด็กได้