วันที่ 14 ส.ค.65 กองบังคับการปราบปราบ กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร, พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.รณกร สุขมงคล, พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปานสีทา, พ.ต.ท. ศุภกร ตังคะประเสริฐ, พ.ต.ท.นโรตย์ ยุวบูรณ์ รอง ผกก.สสน.ฯ ปฏิบัติ ราชการ กก.4 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นําโดย พ.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก สว.กก.4 บก.ป. พร้อมพวก
ร่วมกันจับกุม นายจักรกฤษ หรือดุ๊ก (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัด
ปราจีนบุรี ที่ 61 /2565 ลงวันที่ 15 มีนาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิดฐาน “ร่วมกัน
สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายได้เห็นลิงก์โฆษณาแอปพลิเคชันเงินกู้ผ่านทางเฟซบุ๊ก จึงได้ติดต่อขอกู้เงินจํานวน 60,000 บาท จากนั้นคนร้ายได้ใช้วิธีหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเป็นค่าธรรมเนียม และยืนยันเครดิตให้กับคนร้ายจํานวน 30,000 บาท ต่อมาผู้เสียหายไม่ได้รับโอนที่ขอกู้ตามที่ที่ตกลงกัน จึงได้ ติดต่อขอยกเลิกการกู้และขอเงินคืน คนร้ายจึงหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีเดิมอีกจํานวน 30,000 บาท เพื่อเป็นการยืนยันรหัสการโอนและบริษัทจะโอนเงินคืนให้เต็มจํานวน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปให้ คนร้ายได้หลอกต่อไปว่าน่าจะมีการทํารายการผิดพลาดขอให้โอนเงินเพิ่มอีกอยู่เรื่อย ๆ เพื่อเป็นการยืนยัน การขอรับเงินคืน ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปรวมกว่า 1.2 ล้านบาท ต่อมาไม่ได้รับเงินคืนจึงเข้าแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สภ.ศรีมโหสถ จว.ปราจีนบุรี เพื่อดําเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมาย
จากการสอบสวนทราบว่าคนร้ายได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ายังบัญชีต่าง ๆ ซึ่งเป็นบัญชีม้า จากนั้นเงินทั้งหมดจะถูกโอนย้ายต่อยังบัญชีของนายจักรกฤษฯ พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมหลักฐาน ขอออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตํารวจกองปราบปรามได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนี มาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.บ้านแหวน อ.หางดง จว.เชียงใหม่ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบและร่วมกันจับกุมตัว ผู้ต้องหานําส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ศรีมโหสถ จว.ปราจีนบุรี เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบเบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้มีการว่าจ้างผู้อื่นให้เปิดบัญชีโดยให้ค่าตอบแทน และ นําบัญชีดังกล่าวไปใช้ในการรับโอนเงินของผู้เสียหายหลายบัญชี และมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกคนร้ายกลุ่ม นี้หลอกลวง ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลต่อไป
สอบถามคําให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่รับว่าเมื่อประมาณปลายปี พ.ศ.2564 ได้รับการว่าจ้างจากรุ่นน้อง ให้ช่วยเปิดบัญชีธนาคารและได้มอบสมุดบัญชีธนาคารพร้อม บัตรเอทีเอ็มให้ โดยได้รับค่าจ้างบัญชีละ 500 บาท