นครปฐม-โรงพยาบาลนครปฐม จัดกิจกรรมวันไตโลก Kidney Day ปี 68
โรงพยาบาลนครปฐม จัดกิจกรรมวันไตโลก Kidney Day ประจำปี 68 โดยได้รับเมตตาจากหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม มอบสถานที่ในการเปิดบริการให้ความรู้และเจาะเลือดเพื่อตรวจสอบสุขภาพไตและโรคอื่นๆ ฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม ชี้สังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งโรคไตวายทั้ง 2 ชนิดกำลังเป็นปัญหาเพิ่มขึ้นในอนาคตการให้ความรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันการเกิดโรคจึงมีความสำคัญ ควบคู่ไปกับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ
วันที่ 12 มีนาคม 68 ที่วิหารพระพุทธเมตตาประทานพร วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม นายแพทย์สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม เป็นประธานในพิธีการเปิดงาน วันไตโลก Kidney Day ปี 68 โดยมีทีมบริหาร แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่บุคคลากรทางการแพทย์เข้าร่วมในพิธี ซึ่งมีพระครูปลัดสิทธิวัฒน์หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมด้วยประชาชน ผู้สูงวัยและผู้ที่สนใจ เข้าร่วมในการจัดงานซึ่งในกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการบริการเจาะเลือดตรวจลค่าไต การเสวนาเกี่ยวกับสุขภาพด้านโรคไต การจัดนิทรรศกาลที่ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคไต และการแสดงของผู้สูงอายุโรงเรียนผู้สูงวัยวัดไผ่ล้อม
โดย นายแพทย์สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม กล่าวเปิดงานว่า การจัดงานในวันนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก ซึ่งถือเป็นวันไตโลก ปัจจุบันสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เรามีผู้สูงอายุมากว่าร้อยละ 20 ซึ่งปริมาณการเกิดของเด็กมีจำนวนไม่เกิน 5 แสนคนต่อปี แต่มีอัตราการเสียชีวิตของผู้สุงอายุ มากกว่า 5 แสนคน ตอนนี้ประเทศไทยเรามีจำนวนประชากรประมาณ 70 กว่าล้านคน และจากนี้ไปอีก 20 ปี เราจะมีประชากรเหลือเพียง 40 กว่าล้านคนเท่านั้น และนั่นจะเป็นการเข้าสู่สังคมของผู้สูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งผู้สูงอายุร้อยละ 20 ก็จะเป็นกลุ่มของโรคไม่ติดต่อแบบเรื้อรัง ซึ่งโรคไต ก็ถูกจัดอยู่ในการกลุ่มนี้ด้วย การให้ความรู้ในการป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้และการดูแลสุขภาพก็ถือว่ามีความสำคัญมากเกี่ยวกับการป้องกันในเรื่องดังกล่าว
สถานการณ์โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease) ของจังหวัดนครปฐมมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วโดยในผู้ป่วย ไตเรื้อรัง stage 5 ต้องได้รับการบำบัดทดแทนไต ด้วยวิธีฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม การล้างไตทางหน้าท้อง และการปลูกถ่ายไต ซึ่งมีผลกระทบต่อตัวผู้ป่วย นอกจากจะมีภาวะสุขภาพแย่ลงเมื่อเทียบกับก่อนเจ็บป่วยจะไม่เหมือนเดิม กระทบต่อความสามารถในการทำงานหรือประกอบอาชีพ อาจทำให้มีรายได้ลดลง หรืออาจจะต้องลาออกจากงานที่ทำ มีคุณภาพชีวิตแย่ลง
ในปัจจุบันหน่วย บริการไตเทียมโรงพยาบาลนครปฐม ให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม เฉลี่ย 35 คน /วัน (700 คน/เดือน) แต่ยังไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวที่มารับบริการส่วนใหญ่มีสาเหตุการเกิดโรคไตจากโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ซึ่งสอดคล้องกับสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย สาเหตุส่วนหนึ่ง คือ ผู้ป่วยขาดความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเมื่อเป็นโรคไต และมีพฤติกรรมการบริโภคที่ส่งเสริมให้เป็นโรคไตวายเรื้อรังเร็วขึ้น ทำให้การทำงานของไตลดลง ผู้ป่วยต้องได้รับ การบำบัดทดแทนไตโดยการฟอกเลือดหรือล้างไตทางช่องท้องเร็วขึ้น
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม เผยต่อว่า งานบริการไตเทียม โรงพยาบาลนครปฐมได้เล็งเห็นความสำคัญการหมั่นดูแลไต และการใส่ใจป้องกัน โรคไตและชะลอความเสื่อมของไต ตามนโยบายของ Service Plan ไตของกระทรวงสาธารณสุข จึงได้จัดโครงการ กิจกรรม วันไตโลก Kidney Day 2568 เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการชะลอความเสื่อมของไต ตามคำขวัญ “ หมั่นดูแลไต ใส่ใจคัดกรอง ป้องกันโรคไต” ให้แก่ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มโรคไตเรื้อรังในเขตอำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย นิทรรศการ การคัดกรองโรคไต การสาธิตอาหารลดเค็ม และอาหารสุขภาพ การออกกำลังกาย การใช้ยาในผู้ป่วยที่มีภาวะ ไตเสื่อม เพื่อป้องกันโรคไตและมีจุดให้ความรู้ด้านสุขภาพ 5 จุดโดยมีกิจกรรมการแกของขวัญและของฝากให้กับผู้เข้ามาร่วมในงานด้วย
ขณะที่หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า การใช้สถานที่ในการจัดงานที่วัดไผ่ล้อมในวันนี้ถือว่าเป็นประโยชน์กับประชาชนซึ่งเป็นช่วงกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ซึ่งวัดก็มีหน้าที่ในการช่วยเหลือสนับสนุนการดำเนินการของโรงพยาบาลนครปฐมมาโดยตลอด โดยที่ผ่านมาก็ได้ดำเนินการมาแล้วหลายอย่างทั้งมอบสถานที่ให้เป็นโรงพยาบาลนครปฐม สาขาวัดไผ่ล้อม เพื่อเจาะเลือดและตรวจสุขภาพด้านความดัน เบาหวานและหัวใจ ซึ่งตอนนี้ก็ได้เริ่มดำเนินการในการจัดสร้างศูนย์ไตเทียมวัดไผ่ล้อมเพื่อรองรับการช่วยเหลือญาติโยมที่ต้องได้รับการดูแลสุขภาพเกี่ยวกับไตโดยเฉพาะ
“อาตมาดวงตาเห็นธรรมแล้ว และได้จัดมุมมองใหม่ของวัดคือ ปกติวัดก็จะมีแต่คนมากราบไหว้พระมาทำบุญ มีอีกอย่างก็คือมาจัดงานศพ แต่ตอนนี้ก็ได้ดำเนินการเกี่ยวกับการมาช่วยคนเจ็บอีกหนึ่งทางแล้ว ซึ่งเราก็ได้ทำมาก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤติการณ์โควิด19 แพร่ระบาด และช่วงโควิดก็ได้ช่วยรับมือต่อทางด้านการแพทย์สำหรับผู้ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด19 โดยเป็นโครงการสวดเผาฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย จนมาถึงทุกวันนี้ด้วย ซึ่งต้องขอขอบคุณทีมแพทย์ พยาบาล บุคคลากรทางการแพทย์ ที่ทำหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและขอให้ญาติโยมตระหนักถึงเรื่องสุขภาพด้วย” หลวงพี่น้ำฝนกล่าวปิดท้าย
ปนิทัศน์ มามีสุข นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม
