นครปฐม-ผกก.นครชัยศรี สั่งตั้งกรรมการสอบ สายตรวจขี่จยย.หลวง เรียกรถชาวบ้านกลางดึก

นครปฐม-ผกก.นครชัยศรี สั่งตั้งกรรมการสอบ สายตรวจขี่จยย.หลวง เรียกรถชาวบ้านกลางดึก ผู้กำกับการตำรวจนครชัยศรี เผยชายแต่งกายนอกเครื่องแบบขับขี่รถจักรยายนต์ กวดรถชาวบ้านเรียกให้จอด เป็นตำรวจระดับรองสารวัตรจริงๆ โดยมีการตรวจหาแอลกกอฮอล์ในเลือดไม่พบ ส่วนการเรียกให้จอดเป็นเพราะจำรถผิดคันนึกว่าเป็นรถคนรู้จัก ตอนนี้ออกมาขอโทษทำตำรวจเสียชื่อแล้ว ตอนนี้มีการตั้งกรรมสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย ภายใน 15 วันรู้ผล วันที่ 7 มีนาคม 68 จากรณีผู้ใช้สื่อโซเชียล เฟสบุ๊ก Facebook ชื่อ Keatisak Deepoom (รับขนส่งมอเตอร์ไซค์ทุกชนิด) ได้โพสต์คลิบ ชายคนกลางคน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจและสวมหมวกกันน๊อคสีทอง แต่แต่งเป็นชุดเสื้อเชิ๊ตสีขาว กางเกงขายาวสีขาว ขับตีคู่มากับรถยนต์ของผู้ถ่ายคลิบและทำท่าทางชี้นิ้วและสั่งการให้จอดรถ ซึ่งมีท่าทีขึงขัง ก่อนที่รถคันที่บันทึกคลิบไว้จะได้เร่งเครื่องหนีออกมา จนเป็นที่วิจารณ์ในวงกว้างในโลกโซเชียล ล่าสุด พ.ต.อ.พายัพ โสธรางกูล ผกก.สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยยอมรับว่าชายคนดังกล่าว คือ ร.ต.ต.สมชัย เฉลิมเกียรติ รอง สว.(ป.) สภ.นครชัยศรี เป็นเจ้าหน้าที่ประจำตู้สายตรวจโคกพระเจดีย์ ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้าเจ้าตัวได้เข้ามาพบและรายงานเรื่องให้ทราบแล้ว โดยก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา ร.ต.ต.สมชัยฯ ได้ขับรถจักรยานยนต์หลวงไปจอดที่บริเวณหน้าร้านเครื่องจักรกล สาขาวัดเสถียร เพื่อรอภรรยาขับรถยนต์มารับไปทำธุระส่วนตัว จากนั้นเวลาประมาณ 23.00 น. ภรรยาได้ส่งที่หน้าร้านเครื่องจักรกล สาขาวัดเสถียร เช่นเดิมและเจ้าตัวได้ขับรถจักรยานยนต์คันที่ปรากฎในคลิบ ไปเติมน้ำมันที่ปั๊ม PT สาขาศรีษะทอง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่สายตรวจตำบลโคกพระเจดีย์ ในวันรุ่งขึ้น ขณะที่ ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับ ได้พบรถยนต์คล้ายกับคนที่รู้จัก จึงได้ขับตามไปและเรียกให้หยุด แต่เมื่อขับขี่เข้าไปใกล้พบว่า ไม่ใช่คนที่ตนเองรู้จัก จึงขับรถหลีกออกมา ปรากฎดังคลิปดังกล่าว ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี กล่าวว่าเบื้องต้นได้มีการสั่งการให้มีการเป่าเครื่องวัดเพื่อตรวจระดับแอลกอฮอล์พบว่าไม่มีค่าของเครื่องดื่มมึนเมาปรากฏ และได้สอบถามเหตุการณ์อย่างละเอียดโดยตอนนี้ว่าไปตามกระบวนการในการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดเพื่อมีการพิจารณาโทษภายใน 15 วัน เพื่อพิจารณาโทษทางวินัย ตามขั้นตอนต่อไป “เมื่อเช้าเขามาขอโทษแล้วที่ปรากฏเป็นคลิบเพราะทำให้ชื่อเสียงตำรวจเสื่อมเสียและไม่คิดว่าคลิบจะปรากฏไปไวขนาดนั้น ซึ่งปกติเค้านิสัยดีมาก แต่จะเป็นคนพูดเสียงดัง ถึงแม้กับเพื่อนร่วมงานก็จะพูดคุยเสียงดังเป็นที่รู้กัน แต่ลักษณะบอกว่าไม่เหมือนกับที่ชี้เรียกเหมือนคนไม่รู้จักกันมาก่อน ตอนนี้ก็รอผลสอบกันอย่างละเอียดว่าผลจะออกมามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ส่วนการขับขี่รถจักรยานยนต์ตำรวจก็มีโทษทางวินัยส่วนหนึ่ง” ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี กล่าวปิดท้าย ปนิทัศน์ มามีสุข นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม