นนทบุรี ทนายรณณรงค์ชี้! เก๋งแดงอาจเข้าข่ายหลายความผิด ขึ้นอยู่กับเจตนา – เตือนแชร์ข้อมูลส่วนตัว เสี่ยงผิด PDPA
จากกรณีคลิปเหตุการณ์รถยนต์สีแดงเฉี่ยวชนบิ๊กไบค์จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่าพฤติกรรมของผู้ขับขี่รถยนต์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายกระทำผิดหลายข้อหา
ทนายรณณรงค์กล่าวว่า หากมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ผู้ขับขี่รถยนต์อาจถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา นอกจากนี้ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จราจรทางบก ยังมีข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยข้อหานี้ไม่สามารถยอมความหรือเปรียบเทียบปรับได้ นอกจากนี้ ยังมีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ระบุว่ารถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุอาจถูกยึดเป็นของหลวง ส่วนเรื่องการเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่นั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ผู้ขับขี่บิ๊กไบค์ไม่ได้เสียชีวิต และทางเพจ “สายไหมต้องรอด” ได้นำผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่า ทนายรณณรงค์อธิบายว่า ข้อหาพยายามฆ่าจะต้องพิจารณาจากเจตนาของผู้ขับขี่ หากเป็นการขับรถโดยประมาท คึกคะนอง หรือขาดการยั้งคิด อาจไม่เข้าข่ายพยายามฆ่า เว้นแต่จะสามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ขับขี่มีเจตนาเล็งเห็นผล เช่น ตั้งใจขับชนซ้ำหรือขับโดยรู้ว่าการกระทำของตนจะทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต
นอกจากนี้ ทนายรณณรงค์ยังกล่าวถึงประเด็นที่แผ่นป้ายทะเบียนของรถยนต์สีแดงที่ปรากฏในคลิปมีลักษณะซีดจาง ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย โดยมีโทษปรับ 2,000 บาท
อีกประเด็นที่ถูกพูดถึงในโซเชียลคือการเผยแพร่ข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของผู้ขับขี่รถยนต์สีแดง ซึ่งมีการระบุพิกัดบ้านและสถานที่ทำงาน ทนายรณณรงค์เตือนว่า หากข้อมูลที่เผยแพร่เป็นข้อมูลจริง อาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติทะเบียนราษฎร์ และการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีเหตุอันควรอาจเป็นการกระทำผิดตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) หากการเผยแพร่ข้อมูลก่อให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าของข้อมูล อาจถูกดำเนินคดีละเมิดสิทธิ์ทางแพ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได
ทนายรณณรงค์ยังฝากเตือนไปถึงประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนว่า ควรมีสติและขับขี่อย่างระมัดระวัง พร้อมกล่าวเตือนสติคนขับรถยนต์สีแดงว่า หากผู้ขับขี่บิ๊กไบค์เป็นญาติของตนเอง จะยังกล้าขับรถเฉี่ยวชนแบบนี้หรือไม่ พร้อมย้ำว่าชีวิตมนุษย์ไม่สามารถประเมินค่าเป็นตัวเงินได้ แม้ผู้กระทำผิดจะมีฐานะดี ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดได้ เพราะสุดท้ายทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและรับโทษตามที่กฎหมายกำหนดเท่าเทียมกัน













