นนทบุรี ชาวบ้านยันเจ้าหน้าที่ สห.ไม่ทำเกินกว่าเหตุ หลังวัยรุ่นเปิดศึกกลางงานวัด
จากกรณีเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา วันที่ 2 มี.ค. 68 ที่ สภ.บางบัวทอง นายจักรพันธ์ อายุ 26 ปี ชาวบุรีรัมย์ พร้อมนายบุญมา และนายสายฝน (ทั้งสองเป็นชาวลาว) เข้าแจ้งความว่าถูกเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร (สห.) ประมาณ 6-7 นาย รุมทำร้ายร่างกายด้วยกระบองและเตะ หลังจากมีเรื่องชกต่อยกับกลุ่มวัยรุ่นหน้าเวทีคอนเสิร์ตในงานวัดลาดปลาดุก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อคืนวันที่ 1 มี.ค. 68 เวลาประมาณ 23.30 น.
นายจักรพันธ์เล่าว่า หลังทะเลาะกับวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งและออกมาต่อยกันนอกงาน เจ้าหน้าที่ สห. ได้เข้ามาห้าม แต่กลับใช้ไม้กระบองและรองเท้าคอมแบททำร้ายพวกตนโดยไม่แตะต้องคู่กรณี ทำให้ได้รับบาดเจ็บหลายจุด ด้านนายบุญมาเผยว่าตนถูกตีและเตะจนจมูกแตก ต้องเย็บ 3 เข็ม ขณะที่นายสายฝนถูกฟาดที่ศีรษะจนต้องเย็บ 1 เข็ม
น.ส.เกศินี (44 ปี) นายจ้างของผู้บาดเจ็บ ระบุว่า เมื่อติดต่อขอดูกล้องวงจรปิดจากทางวัด ถูกแจ้งว่าต้องให้ตำรวจดำเนินการขออย่างเป็นทางการ และหากฝ่ายผู้เสียหายดำเนินคดี ทางวัดก็อาจแจ้งกลับในข้อหาทำให้งานวัดเสียหาย อย่างไรก็ตาม งานวัดยังคงดำเนินไปตามปกติ
เบื้องต้น ตำรวจสอบปากคำผู้เสียหายและส่งตรวจร่างกาย พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเตรียมเรียกเจ้าหน้าที่ สห. ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ล่าสุด เวลา 22.00 น. วันที่ 3 มี.ค. 68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดลาดปลาดุก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยทางวัดได้จัดงานประจำปีตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-4 มี.ค. โดยวันนี้ไม่พบเจ้าหน้าที่ สห. เข้ามาตรวจตราภายในงานบริเวณเวทีที่ทำการแสดงลิเก คณะเทพบุตร สุดที่รัก
สอบถาม น.ส.น้ำฝน อายุ 22 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า วันเกิดเหตุบริเวณหน้าทางเข้าเวทีคอนเสิร์ต ได้มีเยาวชนชาย 1 คน เดินออกมาเต้นกับเพื่อน หลังจากนั้นก็มีวัยรุ่นอีก 1 กลุ่ม ซึ่งมีคนใส่เสื้อสีดำเดินเข้ามาทำร้าย จากนั้นเพื่อนของทั้งสองกลุ่มที่เห็นเหตุการณ์โดยไม่ทราบสาเหตุ กลับเข้าทำร้ายกันเอง ตนไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกันมาก่อน ซึ่งเด็กคนที่เป็นต้นเหตุได้วิ่งหนีไปก่อน
เจ้าหน้าที่ สห. จึงเข้ามาระงับเหตุ โดยใช้กระบองตีขา ซึ่งก่อนหน้านั้นพยายามห้ามแล้ว แต่เด็กทั้งสองกลุ่มไม่ยอมหยุด ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังควบคุมสถานการณ์ กลุ่มวัยรุ่นกลับหันมาจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามที่เห็น ซึ่งมองว่าเป็นการป้องกันเหตุ หากมีอะไรเกิดขึ้นมากกว่านี้ ไม่รู้จะมีใครรับผิดชอบหรือไม่
วันเกิดเหตุคนเยอะ กลัวจะเดือดร้อนไปถึงคนอื่น ๆ ตนมองว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ เพราะพยายามห้ามแล้วแต่ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องป้องกันตัวและระงับเหตุ ส่วนตนไม่ได้รู้จักใครเป็นการส่วนตัว แค่ผ่านมาและเห็นเหตุการณ์เท่านั้น ทั้งหมดที่พูดเป็นเพียงสิ่งที่ตนเห็นในวันเกิดเหตุ


