กมธ.สิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เร่งขยายผล จีนเทารุกป่าทำทุเรียนกว่า 600 ไร่ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา สั่งกรมป่าไม้ ทำข้อมูล เจาะเบื้องหลังกลุ่มชาวบ้านขายที่ดินป่าสงวนให้ต่างชาติ
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานกมธ.ทรัพยากรธรรมชาติเเละสิ่งเเวดล้อม วุฒิสภา เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาศึกษากรณีนายทุนจีนบุกรุกป่าเพื่อทำสวนทุเรียนในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา
โดยเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้เเทนจากกรมป่าไม้เเละผู้แทนจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ฉะเชิงเทรา เข้าชี้เเจงเเละให้ข้อมูล หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านพื้นที่ อ.เขาตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ว่า มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบม และป่าสียัด โดยเข้าไปปลูกทุเรียนในพื้นที่ ประมาณ 600 ไร่
นายชีวะภาพ กล่าวว่า หน่วยป้องกันและรักษาป่าหนองคอก กรมป่าไม้ ได้เข้าไปตรวจยึดและ ปิดป้ายประกาศแล้ว โดยเบื้องต้นพบว่า มีความผิดตามมาตรา 14 ยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบมและป่าสียัด โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 54 พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งพื้นที่ปลูกทุเรียนส่วนใหญ่พบว่าอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่ง และบางส่วนพบในที่ดินที่กรมป่าไม้ อนุญาตให้จังหวัดมาจัดนโยบายที่ดิน (คทช.)
นายชีวะภาพ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นจากเว็บไซต์ ของบริษัทที่เข้าดำเนินการเรื่องนี้ เป็นกลุ่มทุนจีน บริษัทหนึ่ง ซึ่งมีการระบุด้วยว่า ได้ลงมือทำสวนทุเรียนในประเทศไทย 5,335 ไร่ ในประเทศมาเลเซีย 339 ไร่ โดยในพื้นที่ มีการเตรียมดิน เตรียมระบบน้ำ และระบบไฟฟ้าเพื่อปลูกทุเรียนเอาไว้เกือบสมบูรณ์แบบแล้ว
“ข้อสำคัญที่ขอให้ตรวจสอบ เพราะอยากให้เกิดการตรวจสอบและฝ่ายเกี่ยวข้องดำเนินการแจ้งความเอาผิด บริษัท และบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยขอย้ำว่า กรมป่าไม้อย่าเอานอมินีมาเป็นคนผิด ขอให้ไปตรวจสอบและแสวงหาข้อเท็จจริงว่า ตัวการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ เป็นใครกันบ้าง ทั้งกลุ่มทุน เจ้าหน้าที่ หรือ แม้กระทั่งชาวบ้าน ที่ได้รับการจัดสรรที่ดินจากทาง จ.ฉะเชิงเทรา แล้วเอาไปปล่อยต่อ หรือขายต่อให้บริษัททุนข้ามชาติ ไม่ควรปล่อยไว้เหมือนกัน ต้องโดนดำเนินคดีให้เป็นแบบอย่างด้วย” นายชีวะภาพ กล่าว
ทั้งนี้ทางคณะกรรมาธิการฯ ยังมีมติให้เชิญตำรวจ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในการประชุมครั้งถัดไปและรายละเอียดที่ได้แจ้งตัวแทนจากกรมป่าไม้ไปแล้ว เพื่อขยายผลถึงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงมาตรการและข้อเสนอแนะต่อฝ่ายเกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ไม่ให้เกิดขึ้นอีก รวมถึงมาตรการถอนรากถอนโคนต้นทุเรียนที่ได้ปลูกไปแล้ว
