นนทบุรี คืบหน้า นายกเทศมนตรีนครนนทบุรีเรียกกู้ภัยแจงเหตุเข้าดับเพลิงเงินหาย 10 ล้าน ยืนยันบริสุทธิ์ใจไม่พบแม้เศษเงิน จากกรณีคดีเงินปริศนา ที่ น.ส.นิตยา อายุ 27 ปี ถูกเพลิงไหม้บ้านพักพนักงานกรมชลประทาน จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่า มีเงินสดนับ 10 ล้านบาท ถูกเผาอยู่ในกองเพลิง ก่อนที่ต่อมาตำรวจจะพบเงินสด 6.5 ล้านบาท ซุกอยู่ในรถของ น.ส.นิตยา โดยตำรวจอยู่ระหว่างเร่งหาที่มาของเงินดังกล่าว หลังจากที่ น.ส.นิตยา อ้างว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นของนายเฟิร์ท นักธุรกิจรังนก ที่โอนเงินมาให้ น.ส.นิตยากับคนในครอบครัว รับจ้างไปเบิกเป็นเงินสดผ่านบัญชีออกมาวันละ 3 ล้าน โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 1 หมื่นบาท ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 25 ก.พ. 68 ที่เทศบาลนครนนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนนทบุรี เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบรรเทาสาธารณภัยที่เข้าไประงับเหตุเพลิงไหม้ในวันเกิดเหตุ นายสมนึก เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านพักกรมชลประทานปากเกร็ด จึงรีบไปตรวจสอบ ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ถึงที่เกิดเหตุ เห็นชาวบ้าน 3-4 คนเปิดบ้านช่วยกันดับไฟ ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงเร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงที่มีควันคลุ้งอยู่บนที่นอน เจ้าหน้าที่ช่วยกันรื้อที่นอนเพื่อจะฉีดน้ำ สกัดในบ้านมีสุนัข 4 ตัว ทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือออกมาได้ พอดับไฟเสร็จ เจ้าของบ้านเข้าขอเข้าไปดูทรัพย์สินภายในห้อง บอกว่าเงินหายไป ทางเจ้าหน้าที่แสดงความบริสุทธิ์ใจ เนื่องจากที่นอนมีไฟไหม้จึงต้องไปดับที่นอน หลังจากเจ้าของบ้านบอกว่าเงินหาย ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ให้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เนื่องจากเจ้าของบ้านบอกว่าเงินหาย หลังจากนั้นได้ค้นรถของเจ้าของบ้าน พบเงินสด 6.5 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวเจ้าของบ้านไปสอบสวนที่มาของเงิน ตนมั่นใจว่าทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงบริสุทธิ์ใจ ถ้าเงิน 1 ล้านถือมาต้องมีคนเห็น เพราะเป็นการปฏิบัติหน้าที่แบบเปิดเผย ไม่ได้ปกปิดแต่อย่างใด ตนกล้ายืนยันว่าพนักงานทุกคนได้มีการตรวจสอบประวัติก่อนจะมาทำงาน มั่นใจได้ ทั้งนี้ตอนนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยก็ยังไม่ย่อท้อ พร้อมทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป แม้จะมีเหตุการณ์อะไรก็ตาม ส่วนด้านนายนิธิรัตน์ เล้ารัตนอารีย์ หัวหน้าชุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครนนทบุรี ศูนย์วารี ที่เข้าไปจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุตนได้รับแจ้งเหตุประมาณ 14.00 น. และเข้าพื้นที่ในเวลาประมาณ 14.10 น. โดยมีเจ้าหน้าที่หลายคนเข้าหน้างาน 5-10 คน ซึ่งตนเป็นคนเก็บของและรื้อของออกมา แต่เราไม่เห็นเงิน เมื่อไปถึงมีชาวบ้านเปิดประตูเข้าไปในบ้านแล้ว และช่วยกันดับไฟ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงได้ และช่วยสุนัข 4 ตัว ตอนนั้นเจ้าของบ้านไม่ได้อยู่ เมื่อมาถึงก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องเงิน ซึ่งตนได้ห้ามไม่ให้คนนอกเข้าไปเกี่ยวข้อง และได้มีการให้ตรวจสอบทรัพย์สินในบ้านเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย โดยมาทราบภายหลังว่ามีเงินหายกว่า 10 ล้าน แต่พวกตนไม่เจอแม้กระทั่งเศษเงินภายในบ้าน เจอแค่แบงค์พันจำนวน 4 ใบที่ถูกไฟไหม้เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งต้นเพลิงอยู่ตรงหัวเตียงและไหม้ใต้ที่นอนในห้องนอนชั้นล่าง ภายในห้องมีปลั๊กพ่วงหลายอัน ซึ่งตนมั่นใจว่าหากเจ้าของบ้านมีเงินขนาดนั้นจริงและถูกเพลิงไหม้ จะต้องเหลือเศษเถ้าถ่าน ขนาดหนังสือไหม้ยังเหลือชิ้นส่วนให้เห็น ส่วนชุดดับเพลิงมาตรฐานจะเป็นแบบนี้ ถ้าพูดเรื่องเก็บเงินทำไม่ได้อยู่แล้ว มีหน้าที่แค่ดับไฟ ไม่มีเวลาไปยุ่งเรื่องอื่น ตามปกติแล้วหากเจอของที่มีมูลค่าจริงๆ ทางเจ้าหน้าที่จะเรียกเจ้าของบ้านแล้วส่งมอบให้ตอนนั้นเลย ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่บางส่วนก็เสียขวัญกำลังใจไปบ้าง แต่อย่างไรก็ตามตนและน้องๆ ก็จะยืนยันทำงานเพื่อประชาชนต่อไป ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้าคดีที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ สอบถาม พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า จากการตรวจสอบมีข้อสงสัยหลายอย่าง รวมทั้งเรื่องเงินว่ามีอยู่จริงหรือไม่ ส่วนต้นเพลิงในที่เกิดเหตุมีส่วนที่เป็นไฟฟ้า คือปลั๊กไฟและปลั๊กพ่วงวางอยู่ตรงนั้น แต่ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าหรือเกิดจากสิ่งของอย่างอื่น ตอนนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปเก็บร่องรอยเพื่อมาประกอบสำนวน ตอนนี้ยังมีหลายประเด็นที่น่าสงสัยว่าเรื่องไฟไหม้เป็นไปตามที่แจ้งจริงหรือไม่ เพราะทางผู้เสียหายก็ไม่ได้ระบุสาเหตุชัดเจน โดยได้แจ้งความไว้ว่ามีเงินหายจำนวน 10 ล้านบาท จากการตรวจสอบบริเวณรอบๆ บ้านไม่มีกล้องวงจรปิด ซึ่งต้องขยายความเชื่อมโยง ความเกี่ยวข้องในหลายด้าน และเส้นทางการเงินต่างๆ มีช่องทางที่จะพิสูจน์ได้อีกหลายทาง ตอนนี้ยังไม่มีการตั้งข้อหาในเรื่องของบัญชีม้า เพราะยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเงินมีจริงหรือไม่มีจริง ต้องทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อให้ความจริงกระจ่าง การให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนมีข้อมูลที่ไม่ตรงกัน เรามีความสงสัยในทุกประเด็น ทุกอย่างจะต้องถูกตรวจสอบและพิสูจน์ความจริง ซึ่งหากเราพบว่ามีผู้กระทำความผิดทางกฎหมายก็จะดำเนินคดีทั้งหมด



