เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม และ พ.ต.ท.สุรยุทธ ไขแสงจันทร์ สวป.รรท.รอง ผกก.ป.สน.ท่าข้าม รับงานผลการจับกุมนายไกรสร อายุ 33 ปี ชาว จ.ฉะเชิงเทรา และ นายราเมศ อายุ 21 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางหลายรายการ อาทิ หัวเจาะไฟฟ้า 1 ตัว, บรรไดอะลูมิเนียม 1 ตัว, คัตเตอร์ ตัดเคเบิ้ล ขนาด 38 นิ้ว, เครื่องสูบน้ำ 1 เครื่อง, สายเคเบิ้ล ยาว 2 เมตร รวม 4 เส้น-ยาว 4 เมตร 2 เส้น, สลิงแบน และรถยนต์กระบะ โตโยต้า รีโว่ สีขาว ด้านหน้าไม่สวมทะเบียน ด้านท้ายเลข 2 ฒถ 9056 กรุงเทพมหานคร (ป้ายไม่ตรงรถ)
ร.ต.อ.ธีรวุฒิ วงษ์ศรีวอ รอง สวป.สน.ท่าข้าม กล่าวว่า ขณะปฎิบัติหน้าที่ได้รับแจ้งทางวิทยุ สน.ท่าข้าม ว่ามีบุคคลต้องสงสัย 3 คน เข้าไปลักทรัพย์ สายเคเบิ้ลทองแดง ภายในหมู่บ้านสินทวีแกรน วินเลจ ซอยอนามัยงามเจริญ 19 จึงสนธิกำลังทั้ง รถยนต์และรถจักรยานยนต์สายตรวจเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ มีรถยนต์ 1 คันขับชนไม้กั้นออกไป และมีรถยนต์คันที่ 2 ตามมา ซึ่งประชาชนและ รปภ. ที่อยู่ในหมู่บ้านละแวกนั้น ชี้ว่า รถยนต์คันดังกล่าว ร่วมก่อเหตุด้วย ด้วยปฏิพานไหวพริบของพลขับ ส.ต.ท.ณรงค์วิทย์ นามเนาว์ จึงขับรถเข้าไปสกัดขวางตามยุทธวิธี ตนจึงเข้าออกคำสั่งให้ลงมาจากรถ และเข้าควบคุมตัว พบผู้ก่อเหตุ 2 คน หลบหนีไปได้ 1 คน ไม่ยอมให้การใด ๆ ตรวจค้นรถพบของกลางทั้งหมด จึงควบคุมตัวไปสอบสวน ที่สน. นอกจากนี้จึงนำนายไกรสร ผู้ต้องหาไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด พบผลเป็นบวก โดยรับว่าเพิ่งเสพยาบ้ามาก่อนมาก่อเหตุ
.
ด้าน พ.ต.ท.สุระยุทธ รรท.รอง ผกก.ป.สน.ท่าข้าม กล่าวว่า เบื้องต้นรถกระบะคันก่อเหตุ จากการตรวจสอบมีการสวมป้ายทะเบียน ตรวจค้นภายในรถมีเอกสาร เกี่ยวกับการลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ของกลางก็พร้อมอุปกรณ์ พร้อมฝากถึงพี่น้องประชาชนหากพบเห็นเคสลักษณะนี้ สามารถสอบถามไปยังหน่วยงาน TOT หรือ NT เหมือนกับเคสนี้ ถ้านิติกร หรือ หมู่บ้านถ้า เฉลียวใจให้โทรไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอบถามถ้าไม่พบว่ามีการขุดลอกฝาท่อหรือปฏิบัติงานให้โทรแจ้ง 191 ทันที บางเขตมีการโทรแจ้งมาก็มีสายตรวจออกไปตรวจสอบให้โดยเร็ว
.
เบื้องต้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย แจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ” ส่วนนายไกรสร ถูกแจ้งข้อเพิ่มเติม “เป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะโดยเสพสารเสพติดในโทษประเภท 1” ส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ดำเนินคดีต่อไป.
