นนทบุรี หลั่งน้ำตาหน้าโรงรับจำนำ ! แม่ หมอดูชื่อดังเจอเล่ห์ไม่ให้ไถ่ของรักแถมแสดงท่าเยาะเย้ยต่อหน้าสื่อ
เมื่อเวลา 14.00 น .วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 68 ที่โรงรับจำนำ “สามัคคี หมายเลข 8” ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี นางธิบดิ์ ชื่นเจริญเดชา อายุ 63 ปี พร้อมด้วยนายชวิศ ชื่นเจริญ หรืออาจารย์มุ่ย หูทิพย์ อายุ 40 ปี ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดัง จนได้รับฉายาว่า “สื่อผ่านร่างเดินทางผ่านจิต ลิขิตมหัศจรรย์ ” ร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมจากผู้สื่อข่าว หลังคุณแม่นำข้าวของมีค่ามาจำนำไว้ที่โรงรับจำนำแห่งนี้ แล้วจะมาไถ่คืน แต่ได้รับการปฏิเสธจากทางโรงรับจำนำ เนื่องจากเกินเวลามาแค่ 6 วัน แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือ สร้อยคอทองคำ 6 บาท ทางโรงรับจำนำกับให้ต่อดอกเบี้ย ส่วนครุฑทองคำของเจ้าคุณวราและแหวนเพชรมูลค่า 300,000 บาท ทางโรงรับจำนำเห็นใบจำนำรีบเอาปากกาแดงขีดฆ่าทันทีแล้วบอกว่าไม่ให้ต่อหลุดแล้ว ต่อให้เฉพาะสร้อยคอทองคำ
นางธิบดิ์ แม่ของอาจารย์มุ่ย หูทิพย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนมีความจำเป็นต้องใช้เงินเนื่องจากเป็นคนที่ชอบช่วยการกุศล จึงได้นำสร้อยคอทองคำ หนัก 6 บาท แหวนเพชรของพี่สาว และครุฑทองคำของลูกชายซึ่งได้มาจากเจ้าคุณวรา มาจำนำไว้ ที่โรงรับจำนำแห่งนี้โดยจะเสียดอกเบี้ยทุก 5 เดือน ทุกๆวันตนต้องติดตามลูกชายขึ้นเหนือล่องใต้เพื่อไปดู
ดวง ต่อมาเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนนึกขึ้นได้ว่าจะต้องไปไถ่สิ่งของที่จำนำไว้ แต่เมื่อดูตั๋วรับจำนำแล้วพบว่าเกินเวลามา 6 วัน ตนจึงรีบไปที่โรงรับจำนำดังกล่าวเพื่อไถ่ของออกมา
นางธิบดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้เอาครุตทองคำของเจ้าคุณวรา 6 องค์ และ แหวนทองฝังเพชร มาจำนำ จำนวน 150,000 บาท ซึ่งตนผิดกฏส่งเงินช้าไป 6 วัน พอตนจะมาส่งปรากฏว่าโรงจำนำกาใบจำนำตนเป็นกากบาทสีแดงทันที แต่ใบอื่นๆเขากับให้ต่อ ซึ่งตนมาจำนำของที่นี่ประจำ เขาดีมากมีน้ำชามีอะไรมาต้อนรับ วันนั้นตนรีบมาไม่ได้แต่งตัว เขาคงเห็นสารรูปไม่ดีเขาถึงทำแบบนี้กับตน ซึ่งยังไม่ทันได้คุยเลยเขาก็กากบาทใส่ใบรับจำนำ ตนก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาขายต่อไปที่ไหน ถ้าตนรู้ตนก็จะตามไปซื้อคืน ตนเสียดายแหวนทองฝังเพชรเพราะมีคุณค่าทางจิตใจ
ขณะที่ อ.มุ่ย หูทิพย์ (ลูกชาย) กล่าวว่า ตนคิดแค่เหตุผลว่า มันเลยเวลาแต่เลยเวลาเพียง 6 วัน ในความรู้สึกเราได้นำของมาฝากไว้และได้เงินกลับไป คุณแม่มาใช้บริการโรงจำนำนี้ประจำ ซึ่งไม่ได้มาแค่ครั้งแรก เพราะทุกครั้งที่มาคุณแม่ก็ได้รับการรับรองอย่างดี และจำนำกันอยู่ตลอด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตนไม่ทราบว่ามูลค่าสิ่งของที่แม่ตนนำมาจำนำเท่าไหร่ รู้เพียงว่าของของตนมีค่า ที่คุณแม่นำมาจำนำก็มีเหตุผล คุณแม่ไม่ได้ละเลย ซึ่งตอนนั้นพวกเราไปต่างประเทศกลับมาไม่ทัน ทางตนได้ติดต่อโรงจำนำทั้งทางไลน์ โทรคุย พอมาถึงกับเป็นว่าไม่ให้ต่อ แต่อย่างอื่นให้มันจึงเป็นเหตุผลว่าเขาต้องการอะไรก็บอกด้วยเหตุผลมาสิ แต่นี่ปฏิเสธเสียงดังพูดจาเหมือนไล่ลูกค้าและบอกไม่ให้ๆ ขึ้นเสียงใส่ วันนี้ตนจึงมองว่าไม่ใช่ว่าไม่มีเงิน ตนพร้อมที่จะมาไถ่ของของตนคืน ตนก็อยากทราบเหตุผลที่แท้จริงว่าที่ไม่ให้เพราะอะไร ไม่ใช่มาพูดไม่ให้ไล่เราไปแบบนี้ ทำพฤติกรรมหลายๆอย่างใส่ตนกับแม่ แม่ตนผิดจริงที่ไม่ได้มาส่งดอกตามสัญญาที่ให้ไว้ แต่เราก็ขอเมตตาความเห็นใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม่เราผิดจริงที่ส่งดอกเบี้ยช้า 6 วัน ท่านเป็นผู้สูงอายุมากแล้ว ก็ต้องเห็นใจว่าท่านอาจจะหลงลืม เมื่อถึงกำหนด แต่ตนไม่ได้เพิกเฉยตนก็ติดต่อให้คุณแม่มาตลอด ในวันนั้นเราก็เอาเงินมาไถ่ของคืนแต่กับได้รับการปฏิเสธและเจอพฤติกรรมเยาะเย้ย เขาจะคุยกับเราเท่าไหร่เราก็ยินดีจ่าย ตนจึงงงว่าตนเป็นผู้เสียหายหรือทำผิดอย่างเดียวเลยเหรอ ตนก็ไม่รู้ว่าตนเป็นคนแรกหรือไม่ที่โดนแบบนี้ แต่ตนก็ขอบคุณที่ตลอดมาที่ช่วยเหลือกันผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเงินกันมาตลอด พอมาวันนี้ทำไมไม่เห็นใจเราบ้าง คุณอยากจะคืนของชิ้นไหนบอกเรามา เราพร้อมไถ่แต่คุณไม่ฟังเราเลยจะเอาอย่างเดียว
ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าไปสอบถามกับทางหลงจู้โรงรับจำนำ แต่ได้รับการปฏิเสธและพูดจาเสียงแข็งทำนอง ท้าทายผู้สื่อข่าวหลายสำนักว่าจะทำข่าวจะทำอะไรก็เชิญของดังกล่าวขายไปแล้วให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองก็ทำอะไรร้านตนเองไม่ได้ของหลุดวันเดียวก็มีสิทธิ์ขาย ทางผู้สื่อข่าวและผู้เสียหายจึงแย้งไปว่าแล้วทำไมทีทองคำ 6 บาทถึงให้ต่อดอกเบี้ยล่ะ อยากให้เห็นใจขอความเมตตา เนื่องจากสิ่งของดังกล่าวมีคุณค่าทางจิตใจกับทางคุณแม่ และอาจารย์ มุ่ย หูทิพย์ ทางหลงจู้ ตอบแบบไม่มีเยื่อใยว่าอันนี้เป็นสิทธิ์ของโรงรับจำนำจะทำอะไรก็ได้ ทางผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางกลับออกมาพร้อมกับผู้เสียหาย
โดยระหว่างที่ทางแม่ของอาจารย์มุ่ย หูทิพย์และตัวอาจารย์เองกำลังให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวอยู่ถนนฝั่งตรงข้ามโรงรับจำนำนั้น ทางโรงรับจำนำเองได้ให้เด็กวัยรุ่นซึ่ง ไม่รู้ว่าเป็นลูกชายของเจ้าของโรงรับจำนำหรือหลงจู้คนนี้ออกมาแสดงกิริยาไม่เหมาะสม ด้วยการเยาะเย้ยทำหน้าทำตาเป็นลิงหลอกเจ้ากวักมือเรียกผู้เสียหายและผู้สื่อข่าวให้เข้ามาหา(จับภาพไว้ได้) ทำให้นาง
ธิบดิ์ แม่ของอาจารย์มุ่ยถึงกับกลั้นน้ำตาไม่ไหวร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจที่ของรัก และจำนำไว้ถูกปฏิเสธการไถ่คืนแล้วยังมาถูกเยาะเย้ยในสภาพแบบนี้อีก จึงอยากวิงวอนให้ทางโรงรับจำนำเห็นใจด้วย ตนเองก็ไม่รู้เรื่องกฎหมายอยากให้ผู้ที่มีความรู้ในด้านนี้ช่วยแนะนำขั้นตอนให้กับตนและลูกชายบ้างว่าจะสามารถติดตามสิ่งของที่มีคุณค่าทางจิตใจชุดนี้กลับมาได้อย่างไร



