ดีเอสไอ ยันออกหมายจับ “หม่อง ชิต ตู่” ต้องรอบคอบ เชื่อขยายผลเอาผิดแก๊งค้ามนุษย์ มากกว่า 10 ราย วันนี้ (21 ก.พ.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีขอศาลอาญาออกหมายจับ “หม่อง ชิตตู่” กับพวก ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ว่า ดีเอสไอมีการสอบสวนร่วมกับพนักงานอัยการ เนื่องจากเป็นคดีความผิดนอกราชอาณาจักร และยังอยู่ระหว่างการร่วมกันหารือเรื่องพยานหลักฐาน เพราะมีรายละเอียดภายในสำนวนค่อนข้างเยอะ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการสอบสวนปากคำพยานมีค่อนข้างครบถ้วนแล้ว เพียงแค่ต้องเอาเอกสารทั้งหมดมาดูในประเด็นปัญหา ข้อกฎหมายที่ต้องพิจารณาร่วมกันว่ามันตรงหรือไม่ และเป็นไปตามที่ได้มีการหารือร่วมกันหรือไม่ ส่วนประเด็นว่าจะเป็นการไปยืดระยะเวลาการขอศาลออกหมายจับ “หม่อง ชิตตู่” กับพวก ออกไปนานกว่าเดิมหรือไม่นั้น ร.ต.อ.สุรวุฒิ แจงว่า คงไม่เป็นเช่นนั้น แต่เป็นลักษณะว่าพยานหลักฐานที่เราได้มารวมกันในสำนวนมันครบถ้วนหรือไม่ ถ้าครบถ้วนก็จะพิจารณา เพราะไม่ได้เอาผิดเพียงรายเดียว แต่ยังมีคนอื่นรวมอยู่ด้วยกว่า 10 ราย ซึ่งจะต้องมีการไล่เรียงทีละราย เพราะพิจารณาการออกหมายจับควรที่จะออกในคราวเดียวกัน น่าจะเป็นการดีกว่าและจะเห็นทั้งกระบวนการ ส่วน 10 รายผู้ต้องหาที่ว่าจะเป็นใครบ้าง ตนขอละเว้นไว้ภายในสำนวนการสอบสวนก่อน เนื่องจากคดีค้ามนุษย์ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อน ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวถึงประเด็นเรื่องการที่ผู้ต้องหามีพฤติการณ์เดินทางข้ามไป-มาระหว่างประเทศเมียนมากับประเทศไทย รวมถึงยังมีการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ หรือสังหาริมทรัพย์ ทางดีเอสไอจะขยายผลดูในส่วนนี้ เพราะถ้ามีความผิดมูลฐานเกิดขึ้นแล้ว ก็จะได้ทำภาพรวมทั้งหมด จึงขอให้มีความชัดเจนเรื่องเอกสารและพยานหลักฐานก่อน โดยถ้ามีความผิดการค้ามนุษย์ ก็จะขยายผลไปเรื่องการฟอกเงินทางอาญาได้ ร.ต.อ.สุรวุฒิ เผยอีกว่า ส่วนประเด็นที่มีข่าวนำเสนอไปก่อนหน้านี้ว่า ในการประชุมครั้งที่แล้ว พนักงานอัยการได้เดินทางกลับเลยนั้น ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง แต่พนักงานอัยการติดภารกิจฝากขังเรื่องคดีอื่นเร่งด่วน จึงต้องรีบกลับไปดูก่อน แต่ในส่วนเอกสารของคดีดังกล่าว พนักงานอัยการได้รับไปหมดแล้ว อึกทั้ง กรณี หม่อง ชิตตู่ ได้มีความพยายามนำเสนอภาพการช่วยเหลือเหยื่อในพื้นที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประเทศเมียนมา ไม่มีผลต่อพิจารณาออกหมายจับเพราะพบพฤติการณ์ร่วมกับขบวนการค้ามนุษย์ย้อนหลังหลายปี แต่ยังไม่ขอลงรายละเอียด อีกทั้งยังมีเรื่องของพื้นที่ทับซ้อนหลายจุด จึงขอเก็บไว้เป็นความลับภายในสำนวนก่อน