ปราจีนบุรี(คืบหน้า) ผู้ว่าฯนำลงพื้นที่ตรวจลักลอบทิ้งขยะพิษตรวจวงจรปิดหาที่มาขยะพิษและเจ้าของที่ดินนำตัวมาดำเนินคดี! พร้อมเร่งประสาน ผอ.ศูนย์วิจัยฯของกรมโรงงานภาคตะวันออก จ.ชลบุรี ติดตามที่เอาตัวอย่างไปวิเคราะห์ วันนี้ 18 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี ความคืบหน้ากรณีได้รับการร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชนจากนายวีรยุทธ ทองกล่ำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.โคกปีบ อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี ให้ช่วยหาคำตอบและแก้ไข จากกรณีที่มีการลักลอบนำขยะโรงงานอุตสาหกรรมมาทิ้งในพื้นที่ บ่อลูกรังเก่าที่ลึกมีขนาดใหญ่ในพื้นที่หมู่ที่ 9 ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกันกับหมู่ 7 ต.โคกปีบ อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรีโดยมีรถบรรทุกบรรทุกวัสดุดังกล่าวมาทิ้ง ใน 2 จุดทั้งขยะพิษและเถ้าฝุ่นซึ่งก่อนหน้า ได้ประสานผู้ใหญ่บ้านท้องที่และส่วนที่เกี่ยวข้องกรมโรงงานลงมาดูพื้นที่แล้วครั้งหนึ่ง ยังไม่ได้รับคำตอบ และยังคงมีการลักลอบนำวัสดุใส่รถบรรทุกพ่วงมาทิ้งอีก โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างสถานศึกษาโรงเรียนศรีมโหสถ ราว 1 กม.และอยู่ห่างจากแหล่งโบราณคดีเมืองศรีมโหสถ ,แหล่งโบราณสถานวัดสระมรกตราว 2 กม.เศษ ต่อมานายชนาธิป โคกมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าว ผลการตรวจสอบ บ่อลูกรังที่มีการนำสิ่งปฏิกูลมาทิ้งมีอยู่ด้วยกันจำนวน 2 บ่อ บ่อที่ 1 เป็นบ่อขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ความลึกประมาณ 5 เมตร พบสิ่งปฏิกูล ได้แก่ ขี้เถ้าหม้อไอน้ำ ตะกอนจากการบำบัดน้ำเสียและตะกอนฝุ่นสีแดง มีปริมาณ 15,000 ลบ.ม. บ่อที่ 2 เป็นบ่อขนาดใหญ่พบสิ่งปฏิกูลปริมาณ 450 ลบ.ม. ได้แก่น้ำมันหล่อลื่นที่ใช้แล้ว และสารชะล้างหรือsovent ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดและผู้ร่วมตรวจสอบได้จับพิกัดที่ดินบริเวณดังกล่าวแล้วเพื่อแจ้งให้สำนักงานที่ดินจังหวัดปราจีนบุรีตรวจสอบว่ามีบุคคลใดเป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ซึ่งอาจจะมีโทษตามกฎหมาย พนักงานเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรีได้ให้คำแนะนำแก่ผู้แทนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเรื่องระเบียบ กฎหมาย และการขออนุญาตต่าง ๆ ให้ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด และได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และดำเนินการสืบสวน หาพยานหลักฐาน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งส่งตัวอย่างจากสิ่งปฏิกูลที่เก็บไปตรวจสอบว่าเป็นวัตถุอันตรายเป็นสารพิษสารเคมีหรือไม่เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยได้นำเสนอรายละเอียดไปแล้วก่อนหน้านี้ นั้น คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น.นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผวจ.ปราจีนบุรี พร้อมด้วย นายวิเชียร ทองด้วง อุตสาหกรรม จ.ปราจีนบุรี , นายสมาร์ท สาพาที นอภ.ศรีมโหสถ , พ.ต.อ.สมเกียรติ เพ็ญศิริสมบูรณ์ ผกก.สภ.ศรีมโหสถ ,ผู้ใหญ่บ้านตำบลโคกปีบ,นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกปีบได้ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบจุดลักลอบทิ้งขยะทั้ง 2 บ่อ ในการดำเนินคดีและแก้ไข ให้ตรวจวงจรปิดหาที่มาขยะพิษและเจ้าของที่ดินนำตัวมาดำเนินคดี!พร้อมเร่งประสาน ผอ.ศูนย์วิจัยฯของกรมโรงงานภาคตะวันออก จ.ชลบุรี ติดตามที่เอาตัวอย่างไปวิเคราะห์ต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงาน ทางผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านที่ทราบข่าว รู้สึกหวาดกลัวสารเคมีตกค้าง ซึ่งอยู่ติดกับเกษตรกรที่มีพื้นที่ใกล้เคียง สูบน้ำจากบ่อลูกรังขนาดใหญ่และลึกไปรดน้ำแตงโมและฟักทอง หากนำผลผลิตไปขายให้กับผู้บริโภคในท้องตลาด อาจจะได้รับผลกระทบจากสารเคมีตกค้างในพืชผัก โดยทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดได้ลงพื้นที่ตรวจสอบก่อนหน้านี้แล้ว และ สืบทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของใครและได้ไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ลักลอบนำขยะมาทิ้ง รวมถึงแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของที่ดินที่ให้มีการนำขยะมาทิ้งไปด้วย ขณะที่ทางอบต.โคกปีบได้นำป้ายมาติดบริเวณที่ทิ้งขยะโดยมีข้อความว่า “ห้ามทิ้งขยะทุกชนิดหากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมาย” นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี และผู้ปกครองท้องที่ว่ามีการลักลอบนำวัตถุมีพิษ เป็นขยะอุตสาหกรรมซึ่งเป็นบ่อลูกรังเก่า ขณะนี้ทางอุตสาหกรรมจังหวัดได้นำวัสดุไปพิสูจน์แล้ว ถ้าพบว่าเป็นวัตถุมีพิษจะต้องดำเนินการกับผู้ครอบครองที่ดิน และตำรวจจะต้องสืบสวนติดตามหาตัวผู้ที่นำขยะมาทิ้ง และขยายผลหาที่มาจากโรงงานไหน ใครปล่อยเอาขยะมาทิ้งในสถานที่แห่งนี้ แทนที่จะนำไปกำจัดให้ถูกต้องตามสุขลักษณะ มิฉะนั้นแล้วจะเกิดเป็นพิษเป็นภัยต่อพี่น้องประชาชน ### มานิตย์ สนับบุญ 081 -5583238 –ข่าว /ทองสุข สิงห์พิมพ์ – ภาพ / ปราจีนบุรี ###
