“ราชทัณฑ์ สร้างความเข้าใจ กรณีอ่านหนังสือลดวันต้องโทษ”
ตามที่นายอานนท์ นำภา ได้แชร์เพจ ประชาชน ประชาชาติ โดยมีข้อความ กล่าวว่า เรือนจำ ไม่อนุญาตให้ส่งหนังสือเข้าเรือนจำ และมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ กรณีอ่านหนังสือจบ 1 เล่ม ได้พักโทษเพิ่ม 1 วันนั้น
กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า โครงการอ่านหนังสือลดวันต้องโทษ (Read for Release) ได้เริ่มดำเนินการ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยศึกษาระบบงานราชทัณฑ์ของต่างประเทศที่ใช้กิจกรรมการอ่านหนังสือ เพื่อเชื่อมโยงกับการลดวันต้องโทษ ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ต้องขังได้ความรู้จากการอ่าน และส่งเสริมให้ผู้ต้องขังที่ขาดโอกาสทางการศึกษาได้ใช้หนังสือเป็นเครื่องมือในการพัฒนาตนเอง ซึ่งในเดือนเมษายน ๒๕๖๘ นี้ จะขับเคลื่อนโครงการผ่านการอ่านหนังสือเพื่อประกอบการเลื่อนชั้นก่อนในเรือนจำและ ทัณฑสถานนำร่อง ๒๑ แห่ง (เป็นเรือนจำที่ดำเนินการห้องสมุดพร้อมปัญญา และได้รับรางวัลชนะเลิศจาก การประกวดห้องสมุดเรือนจำ) ดังนั้น เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนโครงการลงสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม กรมราชทัณฑ์ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์ดำเนินโครงการอ่านหนังสือลดวันต้องโทษ ๒๔ คน โดยมีอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธาน และมีบุคลลภายนอกที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะกรรมการ อนึ่ง การอ่านหนังสือลดวันต้องโทษได้ดำเนินโครงการคู่ขนานกับการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยการราชทัณฑ์ด้วย
ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ มีห้องสมุดครอบคลุมทุกเรือนจำและทัณฑสถาน โดยดำเนินงานภายใต้มาตรฐานห้องสมุดเรือนจำตามแนวทางที่กรมราชทัณฑ์กำหนด แบ่งเป็นห้องสมุดเรือนจำขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีห้องสมุดสาขา ห้องสมุดเคลื่อนที่ มุมหนังสือประจำแดน เพื่อบริการส่งหนังสือถึงมือผู้ต้องขังทุกคนให้ได้อ่านมากที่สุด เสมือนเป็นห้องสมุดในโรงเรียน พร้อมทั้งยกระดับห้องสมุดเรือนจำให้เป็นไป ตามมาตรฐานสากลแบบทศนิยมดิวอี้ นอกจากนี้ ยังมีเครือข่ายกับห้องสมุดภายนอกทั้งห้องสมุดประชาชน และห้องสมุดมหาวิทยาลัย เพื่อหยิบยืมหมุนเวียนหนังสือในเรือนจำให้มีความหลากหลายครอบคลุมผู้ต้องขังทุกกลุ่ม อีกทั้งยังฝึกอบรมให้ผู้ต้องขังสามารถซ่อมแซมหนังสือของหน่วยงานภายนอกได้ กรณีทัณฑสถานหญิงกลาง มีห้องสมุด ขนาดใหญ่ มีหนังสือทั้งสิ้น 13,000 เล่ม ไว้ให้ผู้ต้องขังได้ยืม-คืน สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันอ่านอย่างเพียงพอ รวมทั้งผู้ต้องขังยังสามารถยืมขึ้นไปอ่านภายในเรือนนอนได้อีกด้วย และมีห้องสมุดสาขา 14 สาขา ในเรือนนอน สำหรับเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการห้องสมุดเรือนจำภายใต้มาตรฐานที่กำหนด มีห้องสมุดสาขา ในแดน กรณีการฝากหนังสือเข้าไปให้ผู้ต้องขังในเรือนจำนั้น เป็นแนวทางเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถเข้าถึง การอ่านได้มากที่สุด จึงกำหนดให้ญาติสามารถนำหนังสือมาฝากไว้ที่ฝ่ายสงเคราะห์ผู้ต้องขัง โดยฝากให้ผู้ต้องขังได้ ๑ ราย ต่อ ๑ เล่ม ต่อ ๑ เดือน และฝากได้เฉพาะวันที่ ๑ – ๑๐ ของทุกเดือน เนื่องด้วย มีญาตินำหนังสือมาฝาก ให้ผู้ต้องขังแต่ละรายจำนวนมาก จึงต้องมีมาตรการควบคุมจำนวน และการตรวจสอบเนื้อหาของหนังสือเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของเรือนจำ โดยเรือนจำได้แจ้งแนวทางดังกล่าวให้ญาติรับทราบอย่างชัดเจน
กรมราชทัณฑ์ ได้ขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงยุติธรรม และนโยบายรวมพลังขับเคลื่อน 8 มิติยกระดับสร้างการเปลี่ยนแปลง ในเรื่องการจัดการศึกษา และการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขังผ่านการเรียนรู้ด้วยการอ่านหนังสือ และการใช้ห้องสมุดเรือนจำและทัณฑสถาน เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้แก่ผู้ต้องขังในทุกมิติ เพื่อคืนคนดี สู่สังคมอย่างยั่งยืน