นนทบุรี ทำไปได้ ตร.รวบหนุ่มใหญ่วัย47ปี ขณะกำลังขายยาบ้าใส่ถุงแขวนขายเหมือนขนมร้านของชำ เมื่อเวลา 18.00น. วันที่ 30 ม.ค.68 ที่ สภ. ชัยพฤกษ์ พ.ต.อ.สมชาย ชูแก้ว ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ พ.ต.ท.ชัยรัตน์ หิรัญบูรณะ รองผกก.สส.สภ.ชัยพฤกษ์ พ.ต.ท.ฉัฐวัฒน์ สิริเบญจศักดิ์ สว.สส.สภ.ชัยพฤกษ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ. ชัยพฤกษ์ ร่วมกันจับกุมตัว นายรังสรรค์ หรือดวง สังข์วัฒน์ อายุ47ปี(สวมเสื้อขยี้ใบ/คนขาย)บ้านเลขที่ 8 หมู่ 4 ต.บางประมุง อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ และ Mr. PHY CHANNIN อายุ30ปี(คนซื้อสวมเสื้อสีขาว)ชาวกัมพูชา ขณะกำลังซื้อขายยาเสพติดที่หน้าเพิงพักแคมป์คนงาน ซ. วัดปากคลองพระอุดม หมู่ 5 ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้น พบของกลางที่ตัว นายรังสรรค์ฯ(คนขาย)คือ 1.ยาบ้า สีส้ม จำนวน 192 เม็ด 2.ยาไอซ์ จำนวน 9 ถุง หนัก 4.82 กรัม 3.สร้อยคอทองคำลายโซ่ 2 สลึง ส่วนทางด้าน Mr. PHY พบ 1.ยาบ้าจำนวน 6 เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปตรวจสารเสพติดที่โรงพยาบาลพบว่าฉี่ม่วงทั้ง2ราย และนำตัวกลับมาดำเนินคดีในข้อหาคือ 1. จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่งเมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า,ไอซ์) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายกระทำเพื่อการค้า 2. เสพยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่งเมทแอมเฟตามีน โดยได้รับอนุญาต จากการสอบถามนายรังสรรค์ เล่าว่า ปกติแล้วตนทำงานก่อสร้างอาศัยอยู่ภายในแคมป์คนงานดังกล่าว ตนทำการขายยาให้กับคนงานใกล้เคียง ไม่ได้ไปขายคนอื่นมั่ว ส่วนที่ทำยาใส่ซองไว้และติดเรียงกันลงมาแปะเลขตามจำนวน เพราะว่ากลัวยาหาย จึงแปะติดกระดาษกาวไว้และแขวนไว้หรือใส่กระเป๋า เวลาคนมาซื้อจะดึงออกได้ง่ายเหมือนตามร้านค้าทั่วไปที่แปะถุงขนม ซึ่งตนแพ็คของตนเองแบ่งยาบ้าถุงละ 10 เม็ด ส่วนยาไอซ์จะช่างเป็นกรัมเพื่อขาย ส่วนเพื่อนที่โดนจับมาด้วยกันเพิ่งรู้จักกันไม่นานเข้ามาซื้อยาที่ตนเพราะทำงานอยู่กันคนละที ซึ่งยาที่ตนนำมาขายตนรับซื้อมาอีกทีถุงละ 2,800บาท และนำมาแบ่งใส่ถุงขายเม็ดละ 30 บาทแบ่งถุงละ 10 เม็ดขายถุงละ 300 บาท ตนได้ทำใจเอาไว้แล้วว่าสักวันต้องโดนตำรวจจับอยากจะขายตรงที่แปะไว้ให้หมดก่อนแล้วเลิกทำแต่มาโดนจับก่อน แต่บางวันคนเข้ามาซื้อหลายคนทำให้ไม่พอขายทำให้หยุดไม่ได้ ส่วนเรื่องทองที่อยู่ในกระเป๋าไม่ได้ใช้เงินที่ได้มาจากการขายยาตนเก็บเงินจากการทำงานก่อสร้างและซื้อมานานแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบว่าบัญชีของนายรังสรรค์ฯ มีเงินหมุนเวียนเดือน 4-5แสนบาท และตรวจสอบบัญชีพบว่ามีเงินค้างอยู่จำนวน 80,000 บาท นายรังสรรค์ฯ ได้สารภาพว่าได้เงินทั้งหมดมาจากการขายยาและเก็บสะสมเป็นเงินเก็บมาเรื่อยๆ ส่วนสร้อยทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องยึดเอาไว้เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าใช้เงินที่ได้จากการขายยาซื้อมาหรือไม่ และเคสนี้เป็นเคสแรกที่ทำการขายยาบ้าแบบแปะใส่ถุงดึงออกเหมือนร้านค้าของชำทั่วไป