สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร ยื่นหนังสื่อ รมต.สุริยะ ขอให้ยกเลิกคำสั่ง บขส.
วันที่ 30 มกราคม 2568 เวลา 10.30 น. ที่กระทรวงคมนาคม เขตป้อมปราบฯ กทม.นายอัสนี เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร มอบหมายให้นายวัชระพล โกมลตเมที เลขาสมาคมฯ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมและขอยกเลิกคำสั่งบริษัทขนส่ง จำกัด ที่ ค.1/2568 เรื่อง แก้ไขบทกำหนดโทษและการลงโทษเจ้าของรถร่วมและพนักงานรถร่วม ฉบับลงวันที่ 10 ม.ค. 68 กับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ทั้งนี้สืบเนื่องจากบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) โดยนายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการ บขส. รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้เป็นผู้ลงนามออกคำสั่ง บขส.ที่ ค.1/2568 เรื่องแก้ไขบทกำหนดโทษ และการลงโทษเจ้าของรถร่วมและพนักงานรถร่วม ฉบับลงวันที่ 10 ม.ค. 68 โดยอ้างว่า คณะกรรมการ บขส. ได้ประชุม ครั้งที่ 8/2567 เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2567 ได้มีมติให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงบทกำหนดโทษตามระเบียบและคู่มือรถร่วม บขส. พศ.2547 และคำสั่ง บขส.ที่ ค 24/2565 เรื่อง ห้ามมิให้เจ้าของ รถร่วม พนักงานรถร่วมหรือบุคคล ภายนอกออกมาเรียกผู้โดยสารหรือจำหน่ายตั๋วนอกห้อง จำหน่ายตั๋ว ฉบับลงวันที่ 10 มิ.ย. 65 ซึ่งได้กำหนดโทษ โดยการปรับเป็นจำนวนเงินที่สูงขึ้นอย่างมากเช่น เดินรถเกินเส้นทางไม่เป็นไปตามเงื่อนไข จากเดิมปรับ5,000 บาทถึง10,000 บาท เปลี่ยนเป็นปรับพนักงาน10,000บาม ผู้ประกอบการ50,000 บาท เพิกถอนสัญญา หรือเรียกผู้โดยสารนอกช่องจำหน่ายตั๋ว เดิมปรับ1,000 บาทถึง5,000 บาท พักรถ 7-15 วัน เปลี่ยนเป็น พนักงานปรับ 10,000 บาท ผู้ประกอบการ 50,000 บาท ปิดช่อง 30 วันและงดการใช้รถ เป็นต้นซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับค่าปรับการแก้ไข เปลี่ยนแปลงบทลงโทษโดยกำหนดการปรับให้สูงขึ้นมากมายและไม่เป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการและทาง บขส. ไม่เคยเรียกประชุมหารือกับผู้ประกอบการก่อนจะออกคำสั่ง ทำให้สมาคมฯต้องยื่นหนังสือฯดังกล่าว
นายวัชระพล ได้กล่าวว่า”ผู้ประกอบการรถร่วม ที่ได้นำรถมาเขาวิ่งร่วมกับ บขส. เป็นเวลานานกว่า 60 ปี ซึ่งบทลงโดยปรับ ตามจำนวนเดิมตามระเบียบและคู่มือรถร่วม บขส. ก็เป็นเงินจำนวนที่สูง และเหมาะสมแล้ว ผู้ประกอบการรถร่วมที่นำรถเข้ามาวิ่งรับส่งผู้โดยสารร่วมกับคู่แข่งเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ เครื่องบิน หรือรถส่วนตัว ผู้ประกอบการรถร่วม ก็ต้อง แข่งขันกับคู่แข่งเหล่านี้ แล้วจะให้ ผู้ประกอบการรถร่วมมาถูกบังคับให้ชำระค่าปรับเป็นเงินถึง 50,000.บาท ได้อย่างไร ในส่วนของพนักงานรถร่วม มีการปรับที่สูงขึ้นเป็นอย่างมากเช่นกัน โดยมีบทลงโทษปรับ เป็นเงินถึง 10,000.บาท ถ้าพนักงานรถร่วมไม่สามารถหาเงินมาชำระได้ ก็ต้องหลบหนี หรือออกจากงาน จนทำให้ผู้ประกอบการรถร่วม ไม่มีพนักงานรถร่วมมาทำงานด้วย เมื่อพนักงานรถร่วมไม่มาทำงาน หรือหลบหนีออกจากงาน ก็เป็นเหตุให้ ผู้ประกอบการรถร่วมไม่สามารถนำรถเข้ามาวิ่งในเส้นทางที่ บขส.กำหนดได้ก็ต้องถูกค่าปรับอีกแล้วผู้ประกอบการรถร่วมจะอยู่ได้อย่างไร สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสาร ร่วมกับ ผู้ประกอบการรถร่วม จึงขอความกรุณาท่านได้โปรดพิจารณายกเลิกคำสั่ง บขส.ที่ ค. 1/2568 ฉบับลงวันที่ 10 ม.ค.68 เพื่อให้ผู้ประกอบการรถร่วม ได้วิ่งรถโดยสารรับส่งผู้โดยสาร บริการประชาชน ร่วมกับ บขส.ตลอดไป โดยหลังจากนี้ถ้าทางรัฐมนตรีสุริยะ ยังไม่มีการพิจารณา ทางสมาคมฯก็คงต้องยื่นศาลปกครอง เพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป”