ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ร่วมกับ ฝ่ายปกครองจังหวัดนครสวรรค์ ฝ่ายปกครองอำเภอลาดยาว กรมสอบสวนคดีพิเศษ สภ.ลาดยาว และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์สนธิกำลังบุกจู่โจม!! สถานประกอบการเถื่อนเมืองปากน้ำโพ ฝ่าฝืนกฎหมายเปิดถึงเช้า

ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ร่วมกับ ฝ่ายปกครองจังหวัดนครสวรรค์ ฝ่ายปกครองอำเภอลาดยาว กรมสอบสวนคดีพิเศษ สภ.ลาดยาว และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์สนธิกำลังบุกจู่โจม!! สถานประกอบการเถื่อนเมืองปากน้ำโพ ฝ่าฝืนกฎหมายเปิดถึงเช้า ภายในร้านพบนำเด็กมานั่งให้บริการลูกค้า ซึ่งร้านดังกล่าวเดิมเปิดในชื่อ “ร้านเพื่อนแจง” เคยเกิดเหตุเจ้าของร้านทำปืนลั่นใส่พนักงานในร้านอายุเพียง 15 ปี เสียชีวิต และถูกดำเนินคดีฐานฆ่าคนตาย จึงได้เปลี่ยนชื่อร้านเป็น “ที่เดิม” โดยให้ภรรยาเป็นผู้ดูแล
หลังได้รับแจ้งเบาะแสจากมูลนิธิรณสิทธิ์ ว่ามีสถานประกอบการชื่อ “ร้านที่เดิม” ได้เปิดให้บริการในลักษณะเป็นร้านคาราโอเกะ มีการนำเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่งตัวในลักษณะนุ่งน้อยห่มน้อย มาคอยปรนเปรอลูกค้า จากการสืบสวนพบว่าร้านดังกล่าว เดิมชื่อ “ร้านเพื่อนแจง” ตั้งอยู่ที่อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ เคยเกิดเหตุเจ้าของร้าน คือ นายนิธิวัชร์ หรือแจง ทำปืนลั่นใส่พนักงานในร้านเป็นเด็กสาวอายุ 15 ปี เสียชีวิต ปัจจุบันถูกศาลพิพากษาจำคุก ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อร้านเป็น “ที่เดิม” โดยมีภรรยาของนายนิธิวัชร์ เป็นผู้ดูแล ซึ่งตั้งอยู่บนสถานที่ตั้งเดิม
กรมการปกครอง จึงได้มอบหมายให้สำนักการสอบสวนและนิติการ โดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว พบว่าสถานประกอบการแห่งนี้ มีการเปิดให้บริการในลักษณะสถานบริการ โดยเปิดให้บริการจนเช้าไม่แจ้งเวลาปิด และมีการนำเด็กหญิงมาให้บริการจริง ซึ่งหลังจากเวลา 24.00 น. ได้มีการปิดไฟหน้าร้าน และปิดประตูรั้วแสร้งทำเป็นว่าร้านปิด เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ จึงได้วางแผนจับกุมร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดนครสวรรค์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์
ในวันที่ 10 สิงหาคม 2565 เวลา 00.30 น. โดยการนำของนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ และนางวัชราภรณ์ แตงหมี นายอำเภอลาดยาว พร้อมกำลัง ได้เข้าทำการบุกตรวจค้นจับกุม สถานประกอบการชื่อ “ร้านที่เดิม” จากการตรวจสอบพบว่าสถานประกอบการดังกล่าว ไม่มีใบอนุญาตประกอบสถานบริการ ตาม พ.ร.บ. สถานบริการ พ.ศ. 2509 และภายในร้านพบมีการนำเด็กสาว จำนวน 14 คน หนึ่งในนั้นมีเด็กอายุ 15 ปี มานั่งให้บริการลูกค้าในลักษณะเป็นการปรนเปรอลูกค้า ในลักษณะแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่น จากเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งอาจเข้าข่ายการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียหาย จำนวน 14 คน พบเป็นเด็กอายุ 15 ปี จำนวน 2 คน อายุ 17 ปี จำนวน 1 คน พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหา ว่าสถานประกอบการดังกล่าว ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต,จำหน่ายสุราเกินกว่าเวลาที่กฎหมายบัญญัติ, ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร และยังเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 เรื่องมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถและรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ทั้งนี้อยู่ระหว่างสัมภาษณ์คัดแยกเหยื่อผู้เสียหาย หากพบการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ จะดำเนินการตั้งข้อหาค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 46/2559 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ข้อ 1 (6) ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ในสถานที่ของตน ต่อไป