เมื่อวันที่ 25 มกราคม พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 และ นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมชุดสืบนครบาล สืบบก.น.2,3 และสืบสวนสน.มีนบุรี คันนายาว และสุวินทวงศ์ ร่วมกันจับกุม นายชนะภัย (สงวนนามสกุล) หรือนิว อายุ 27 ปี ผู้ก่อเหตุได้ที่บริเวณสุวินทวงศ์ซอย 5
.
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 มกราคม มีคนร้ายก่อเหตุอุกอาจขี่จักรยานยนต์สีน้ำเงิน “ปาระเบิดไปป์บอมบ์“ ที่บ้านของบิดามารดาของนายพลภูมิ (ผช.รมว.กระทรวงวัฒนธรรม) โดยหลังเกิดเหตุชุดสืบสวน บก.น.2 ชุดสืบนครบาล และ สืบสวนสน.ในพื้นที่รับผิดชอบไล่กล้องวงจรปิดกระทั่งสามารถทราบตัวผู้ก่อเหตุคือ “นายนิว” เป็นอดีตคนงานส่งเอกสารของบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับบ้านหลังที่เกิดเหตุ
.
กระทั่งช่วงเย็นที่ผ่านมาชุดสืบสวน สน.สุวินทวงศ์ ได้ออกตรวจพื้นที่ปราบปรามยาเสพติด ในซอยสุวินทวงศ์ 50 พบนายนิวมีท่าทีพิรุธ จึงเข้าไปขอตรวจค้นปรากฏว่ามีลักษณะตรงตามตำหนิรูปพรรณที่ตำรวจกำลังต้องการตัว จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำและแจ้งให้สน.มีนบุรีและสน.คันนายาวรับทราบ
.
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวต่อว่า จากการสอบปากคำนายนิวให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริงและยังเคยไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกันที่บริษัทแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ตรงข้ามซอยรามอินทรา 109 ซึ่งเคยทำงานที่บริษัทดังกล่าวแต่ถูกไล่ออกจึงเกิดความแค้นและตัดสินใจซื้อประทัดยักษ์ไล่นกมาประกอบเป็นระเบิดไปป์บอมป์ ไล่ก่อเหตุไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งนี้เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมืองหรือมีผู้ใดสั่งการทั้งสิ้น
.
ด้านนายพลภูมิ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ขอขอบคุณ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ขอชื่นชมการทำงานของตำรวจที่เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายได้ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง สำหรับการก่อเหตุดังกล่าวถือเป็นคดีที่อุกอาจมาก ส่งผลให้พี่น้องประชาชนที่อยู่บริเวณข้างเคียงขวัญผวาและหวาดระแวง
.
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ทำให้เกิดระเบิดจนทรัพย์สินเสียหาย, ข้อหาทำให้เสียทรัพย์, และบุกรุกในเวลากลางคืน โดยจะแยกดำเนินคดีต่างกรรมต่างวาระกันทั้ง 2 สถานที่
.
จากการตรวจสอบประวัติของนายนิวพบว่าเคยทำงานที่บริษัทดังกล่าว ตั้งแต่ปี 2557 และต่อมาปี 2559 ถูกจับกุมข้อหาลักทรัพย์ฯ จึงถูกให้ออกไป ต่อมาในปี 2561 ได้กลับมาสมัครงานที่บริษัทเดิมอีกครั้งและทำงานจนถึงปี 2563 แต่พบว่ามีปัญหายาเสพติดจึงถูกให้ออกจากบริษัท เป็นสาเหตุทำให้ผู้ต้องหาเกิดความคับแค้นใจและมาก่อเหตุดังกล่าว
.
ทั้งนี้จากการตรวจสอบสารเสพติดในร่างกายของผู้ต้องหาพบว่ามีการเสพยาบ้า ในระหว่างการควบคุมตัวพบว่าผู้ต้องหามีอาการเมายาให้การวกไปวนมาอยู่
.