นนทบุรี วงจรปิด สุดเศร้า! เปิดใจแม่สาวขี่จยย.ชนรถขยะเสียชีวิต เผยเคยเตือนเรื่องขับรถเร็ว คนสนิทช็อก ประตูบ้านผู้ตายเปิดเองกลางดึก
วันที่ 24 ม.ค.68 ที่วัดบางพูดใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งจัดพิธีรดน้ำศพ และสวดอภิธรรมน.ส.นิภาธร งามประสิทธิ์ อายุ 39 ปี อาชีพ ค้าขาย ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุขับขี่รถจยย.พุ่งชนรถขยะเทศบาลนครปากเกร็ด จนร่างกระเด็นเข้าหลังรถ ขาขวาช่วงหัาขาด โดยบรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ทางเหล่าบรรดาญาติพี่น้อง และครอบครัวผู้เสียชีวิต ต่างทยอยเดินทางมาร่วมพีธี โดยกำหนัดการสวดอภิธรรมทั้งหมด 2 คืน ก่อนจะฌาปนกิจในวันที่ 26 ม.ค.68
นางรสสุคนธ์ งามประสิทธ์ อายุ 69 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวยังนั่งรับประทานข้าวด้วยกันตามปกติก่อนออกไปขายของ ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันของเขา ทุกเย็นลูกมักจะไปพบปะเพื่อนฝูงตามปกติ จนกระทั่งช่วงดึกเวลาประมาณ 01.00 น.เขาได้โทรศัพท์มาหาตนบอกว่ากำลังเดินทางกลับบ้านเพื่อเตรียมตัวขายของในเช้าวันรุ่งขึ้น ต่อมาในช่วงค่ำมีคนมาแจ้งข่าวร้ายว่าลูกของตนประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สร้างความเสียใจกับครอบครัวตนอย่างมากเพราะลูกเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีเพื่อนฝูงรักใคร่เป็นจำนวนมาก แม้บางครั้งจะมีความดื้อรั้นกับแม่บ้าง แต่ก็มักให้เงินซื้อขนมให้แม่เป็นประจำทุกวัน ตอนนี้ลูกพ้นทุกข์แล้ว แม่อยากให้ชาติหน้าเกิดมาเป็นลูกของแม่อีก จะคอยสอนให้เป็นคนดี ไม่ใจร้อน และไม่ทะเลาะกับใคร
นางรสสุคนธ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนเคยเตือนลูกสาวอยู่เสมอให้ขับรถช้า ๆ และอย่าประมาท พร้อมทั้งเล่าด้วยความเสียใจว่าก่อนหน้านี้ลูกสาวเคยให้สัญญาว่าจะเลิกดื่มสุรา แต่สุดท้ายก็ไม่ทันได้ทำตามคำสัญญา จึงฝากถึงลูกเป็นครั้งสุดท้ายว่า “ขอให้ไปสู่สุคติ ขอให้บุญคุณแม่คุ้มครองลูกไปสู่สวรรค์” แม้ตนจะมีสมาธิและพยายามทำใจ แต่ก็ยังอดร้องไห้เสียใจไม่ได้ เพราะปกติแล้วแม่ลูกมักพูดคุยกันทุกวัน แม้ลูกจะชอบออกไปเที่ยวกับเพื่อนในช่วงเย็นก็ตาม แต่ตอนเกิดเหตุตนไม่ทราบว่าไปไหนรู้เพียงว่าไปกับเพื่อนๆ
ส่วนทางด้านน.ส.วรรณา นาคแท้ อายุ 47 ปี นายจ้างน.ส.บี กล่าวทั้งน้ำตาว่า วันนี้ตนจะมาเปิดร้านขายอาหารตามสั่งหน้าโรงเรียนสวนกุหลาบกับน.ส.บีทุกวันตามปกติ ปรากฏว่าไม่พบน้องบี จึงรู้สึกเอะใจโทรไปหาคุณแม่น้องบี ปรากฏว่าคุณแม่ได้แจ้งข่าวร้ายกับตนว่าน้องบีเสียชีวิตแล้ว จึงตกใจและเสียใจมากๆ ก่อนหน้านี้ก็คือเมื่อวานที่ผ่านมาน้องบีได้พูดคุยกับตนว่าจะไปซื้อของด้วยกันที่แม็คโคร แต่ตนเหนื่อยจึงเลื่อนนัดว่าเป็นวันนี้จะเดินทางไปซื้อของด้วยกัน แต่เกิดเรื่องไม่คาดคิดเสียก่อน โดยปกติแล้วน้องบีจะอยู่กับตนเป็นประจำ ขายของหน้ารร.สวนกุหลาบเด็กๆต่างรู้จักแล้วรักเขา ซึ่งบีจะเป็นคนชอบมานั่งดื่มเบียร์กับตนที่ห้อง หากเมามากก็จะนอนห้องตน ปกติเห็นจะไม่ค่อยไปเที่ยวกินที่ไหนกินแต่แถวๆบ้าน แต่เมื่อคืนตนไม่ทราบว่าน้องไปไหนมาได้ข่าวมาว่าไปหาเพื่อน แต่ช่วงนี้น้องเขาเหมือนจะเลิกดื่มมากสักพักเห็นว่าจะปรับปรุงตัว ความรู้สึกตอนนี้ตนเสียใจมาก เพราะเสียน้องดีๆคนนึงไป ตอนตนไม่สบายน้องก็จะมาดูแลตลอด ตนมีปัญหาอะไรน้องจะออกตัวให้เสมอปกป้องตน เหมือนเป็นทุกอย่างให้กับตน
ด้านนางอนงค์รตี กรดเหมา อายุ 48 ปี แม่ค้าร้านบ้านสวนอาหารป่า ซอย2 ปากเกร็ดวินเลจ เป็นคนสนิทอยู่หมู่บ้านเดียวกับผู้เสียชีวิต และเป็นพลเมืองดีประสานญาติผู้ดสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 03.30 น.ตนทราบข่าวร้ายเนื่องจากลูกชายซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวจังหวัดนนทบุรีได้ไปทำข่าวอุบัติเหตุรถจยย.ชนกับรถกระบะ บริเวณซอยติวานนท์-ปากเกร็ด 30 ซึ่งลูกชายก็ทำข่าวปกติ แต่ได้เอะใจเนื่องจากมองรถจยย. การแต่งตัว และทรงผมของผู้เสียชีวิต ซึ่งคิดว่าเป็นคนรู้จักแต่จำชื่อไม่ได้ หลังจากเจ้าหน้าที่นำร่างผู้เสียชีวิตลงจากรถขยะแล้วเปิดหน้าออกมา ลูกชายจึงตนใจว่าเป็นพี่ที่เป็นทอมแต่ลืมชื่อเสียชีวิตแล้ว จึงรีบโทรหาตนเปิดวิดิโอคอลให้ดูจึงตกใจ แล้วรีบปลุกแฟนให้ไปช่วยน้องเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถยืนยันผู้เสียชีวิตได้ เพราะไม่มีเอกสารยืนยันตัวตนที่ตัว ตนกับแฟนจึงขับรถจยย.ไปที่บ้านของน้องเพื่อบอกคุณแม่น้องว่าลูกถูกรถชน ซึ่งตอนนั้นตนไม่อยากบอกว่าเสียชีวิต แต่สุดท้ายก็ต้องบอกเพราะเจ้าหน้าที่ต้องการบัตรประชาชน หลังจากบอกคุณแม่ ทางคุณแม่ก็ช็อกร้องไห้ตนจึงอยู่คุยกับแม่ แล้วแฟนตนจึงขับขี่จยย.พาน้องชายของผู้ตายไปยืนยันจุดเกิดเหตุ หลังจากนั้นที่ตนอยู่บ้านกับแม่ปรากฏว่ามีเหตุการณ์ขนหัวลุกเกิดขึ้นเนื่องจากประตูในบ้านได้เปิดเอง 1 บาน เรื่องนี้ความเชื่อส่วนตัวคิดว่าคงเป็นน้องที่ชอบมาเปิดประตูดูคนในครอบครัวในมุกๆครั้งที่กลับมาบ้านโดยคุณแม่น้องได้เล่าไว้ ตอนนั้นตนก็รู้สึกกลัวคิดว่าน้องยังไม่รู้ว่าตัวเองเสียชีวิต
นางอนงค์รตี กล่าวต่ออีกว่า ทางด้างน้องบีผู้เสียชีวิตสนิทกับตนมากชอบมานั่งกินข้าวที่ร้าน บางวันก็มานั่งดื่มเบียร์ เวลามีเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องดี เรื่องเครียด ก็จะมาปรับทุกข์เล่าสู่กันฟังที่ร้าน โดยจะมีเก้าอี้ส่วนตัวของเขาเองเป็นเก้าอี้ไม้ตัวเล็กที่เขานั่งประจำ และมีแก้วพลาสติกใบใหญ่ของเขา 3 แก้ว ที่ใช้ดื่มกินวางอยู่บนโต๊ะตลอด ล่าสุดประมาณ 3 วันที่แล้วตนได้มีโอกาสพูดคุยกับน้องหลังจากเจอกันในซอยบ้านขณะที่ตนกำลังไปส่งอาการ นอ้งบีก็ตะโดนเรียกตนว่า “ว่างเดี๋ยวเข้าไปหานะ ช่วงนี้คิวเต็มมีงานกินเลี้ยงเยอั” จากนั้นน้องบีก็พูดคำสุดท้ายกับตนทิ้งท้ายว่า “กูรักเอ็งนะพี่“ จากนั้นก็ได้แยกกันไป โดยน้องบีจะชอบกินสั่งอาหารร้านตนเมนูผัดปลาไหลใส่ข้าวโพดอ่อน บางวันก็จิบเบียร์ไปด้วย ถ้าหากนางหายไปที่บ้านก็จะรู้ว่าบีชอบมานั่งที่นี่ ตนคิดกับน้องว่าเหมือนเป็นญาติกับเรา ตอนนี้ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอให้น้องไปสู่ภพภูมิที่ดีไม่ต้องกังวน และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตที่เสียเสาหลักของบ้าน 1 คน ที่ขยันตั้งหน้าทำมาหากินช่วยคุณแม่อยู่ตลอด