เหตุเกิดในพื้นที่ ต.อาซ่อง อ.รามัน จ.ยะลา “ปมร้อน” จาก เงินเยียวยาน้ำท่วม 9 พัน เป็นเหตุ ! – สัมผัส “อุ่นไอรัก” ศอ.บต.
น้ำท่วมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 คลี่คล้ายจบไปแล้ว แต่ปัญหาการจ่ายเงินเยียวยา 9,000 บาทจากรัฐบาลยังไม่จบ โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ได้ #เกิดเหตุทำร้ายร่างก่าย #คณะตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมี ปลัดอำเภอรามัน กำนันตำบลอาซ่อง ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ร่วมลงพื้นที่ ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ที่บ้านตะโละสดาร์ หมู่ 1 ตำบลอาซ่อง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา หลังจากมีประชาชนในพื้นที่ ยื่นอุทธรณ์ เพื่อขอรับเงินเยียวยา จำนวน 9,000 บาทจากรัฐบาล จนกระทั่งมีการไปแจ้งความดำเนินคดีเอาผิด และล่าสุดวันนี้ 23 มกราคม 2568 นายอาดือนัน เด็งละแม็ง กำนันตำบลอาซ่อง ได้นำคณะผู้ใหญ่บ้านโดยมี นายมะดะมิง สิมะยอ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ตำบลอาซ่อง ผู้ที่ถูกทำร้ายร่างก่าย รวมทั้ง น.ส.พาตีเม๊าะ เด็งระแม สารวัตรกำนันตำบลอาซ่อง เจ้าหน้าที่ อส.อำเภอรามัน ร่วมกันร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม จาก พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์และอำนวยความเป็นธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการ กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง (กสม.) และเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ฯร่วมรับฟังและรับเรื่อง
ทางด้านนายมะดะมิง สิมะยอ ผู้ใหญ้านหมู่ที่ 6 ตำบลอาซ่อง กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่คณะของผู้ใหญ่ได้ลงพื้นที่สำรวจ ที่ชาวบ้านได้ยื่นอุทธรณ์ เรื่องน้ำท่วม ขอเงินเยียวยา 9,000 บาท จากรัฐบาล และพื้นที่ทีเกิดเหตุนั้น เขายื่นอุทธรณ์ มาและทางอำเภอก็กำชับให้ทางคณะลงพื้นที่ไปตรวจสอบ หาความเป็นจริงว่าบ้านนี้ จริงเท็จอย่างไรแล้วก็ได้ร่วมกันลงพื้นที่คณะทำงานของอำเภอที่มีการแต่งตั้งจากนายอำเภอ โดยมี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และมีปลัดอำเภอด้วย ที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องขนาดนี้
“เราไปหมู่บ้านอื่นไม่มีอะไรพอลงไปที่บ้านตะโล๊ะซาดาก็มีปัญหา มีการขัดขว้างจากลูกชายนายกอบต. อาซ่อง จนเกิดปัญหากระทบกระทั่งทำร้ายร่างก่าย จึงได้ไปแจ้งความดำเนินคดีเรียบร้อยแล้วก่อนหน้านี้ และวันนี้ได้มาขอความเป็นธรรมจากศอ.บต. คิดว่าน่าจะได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด เพราะผู้ใหญ่และคณะไปปฏิบัติหน้าที่เพราะเราเองก็เป็นคณะทำงานของตำบลอีกอย่าง รู้สึกได้ว่า ศอ.บต.เป็นที่พึ่งของทุกคนเราจึงกล้าเดินเข้ามาหาเพื่อขอความเป็นธรรม”
เช่นเดียวกับ น.ส.พาตีเม๊าะ เด็งระแม สารวัตรกำนันตำบลอาซ่อง ได้เล่าว่าตนเองเป็นอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น ได้เข้าไปตรวจของพื้นที่ หมู่ 1 ซึ่งหมู่อื่นเราได้เข้าไปตรวจแล้ว เหลือพื้นที่หมู่1 ซึ่งที่นั้นเป็นบ้านบ้านตะโล๊ะซาดา เป็นพื้นที่ของนายกอบต.อาซ่อง พอเข้าไปในพื้นที่ตอนนั้น ตนเองอยู่ในรถของปลัดก่อน รู้สึกว่าบรรยากาศแปลกๆแล้วเพราะมีลูกชายนายกฯยืนอยู่กับพวกพร้อมอาวุธด้วย ปลัดลงไปคุย สถานการณ์ตึงเครียด สักพักก็ลงไปดู เขากำลังไล่ให้ออกจากพื้นที่ ไม่ให้ตรวจ จากนั้นได้เดินไปคุยกับคนที่ถือปืน M 16 ซึ่งเป็นคนของเขา และบอกว่าเรามาดีเรามาตรวจ เราไม่ได้มาอะไรเยอะก็เดินมาที่ปลัดต่อ ลูกชายนายกฯยังไล่ให้คณะออก และบอกว่าใครจะตรวจพื้นที่นี้ ต้องให้เขาเป็นคนตรวจสอบเอกสารเอง ผู้ใหญ่ก็เลยบอกไปว่าถ้าสมมุตว่ามีการร้องเรียนขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ
หลังจากนั้นลูกชายนายกฯก็ได้กระโดดเข้าถีบผู้ใหญ่ เกิดการชุลมุนกันกว่าจะแยกตัวได้ ปลัดก็บอกว่าใครที่ถีบผู้ใหญ่ขอให้มาขอโทษ แต่เขาก็ยังพูดต่ออีกว่า มึ่งยังไม่จบอีกหรอ จากนั้นทางคณะก็เลยคิดว่าไม่น่าจะคุยรู้เรื่องก็เลยพวกันออกจากพื้นที่ไป แล้วก็ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีที่สภ.รามัน และวันนี้ก็ได้มาร้องเรียนขอความเป็นที่ ศอ.บต. และสื่อมวลชน
นายธีรวิทย์ เฑียรฆโรจน์ ผู้อำนวยการ กองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง (กสม.) กล่าวว่าวันนี้เป็นการรับเรื่องร้องทุกข์จาก ผู้นำในพื้นที่รามัน ก็ต้องขอบคุณทางคณะที่เข้ามาหาศอ.บต.ที่รู้สึกว่าศอ.บต.เป็นที่พึ่งสามารถที่จะให้ความเป็นธรรม หลังจากนี้ก็จะดำเนินการตามกระบวนการและขันตอนอย่างเต็มที่เพื่อให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดนอกจากประชาชนในพื้นที่กล้าที่จะเดินเข้ามาหาศอ.บต.มาขึ้น ประชาชนมีความไว้วางใจศอ.บต.มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีประชาชนติดต่อเข้า สายด่วนอุ่นใจ 1880 ร้องเรียน ร้องทุกข์ มาที่ ศอ.บต. แต่ละเดือนมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกด้วย