หมอปลา นำอดีตแม่ชีพร้อมคลิบเสีบงลับ ร้องหลวงพี่น้ำฝน กรณรีพระพลล่วงละเมิดแต่คดีไม่คืบ
หมอปลา พร้อมด้วยอดีตแม่ชีเข้าร้องหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมเร่งติดตามความคืบหน้ากรณีพระพล พระอาจารย์ใหญ่ชื่อดังในจังหวัด ล่วงละเมิดทางเพศและอยู่กินฉันผัวเมียกว่า 10 ปี หลังสำนึกผิดร้องคณะสงฆ์เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา แต่เรื่องกลับเงียบวันคนใกล้ตัวถูกทำร้าย โดยหลวงพี่น้ำฝน พฤติกรรมหลังฟังคลิปเสียงรับที่เพิ่งเปิดเผยบอกหากเป็นเรื่องจริงถือว่าไม่เหมาะสม แต่ขอให้ พิสูจน์ชัดจะสามารถดำเนินการทั้งคดีและทางคณะสงฆ์ได้ ขณะหมอปลาย้ำเชื่อมั่นหลวงพี่น้ำฝนจึงมาหา
วันที่ 23 มกราคม 68 ที่วัดไผ่ล้อม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม หมอปลา ภรรยา ได้ นำนางลิน อดีตแม่ชีเข้าพบกับพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝนเจ้าเอาวาสวัดไผ่ล้อมเพื่อร้องเรียนและขอความช่วยเหลือให้ช่วยติดตามกรณีพระอาจารย์พล เป็นพระชื่อดังในจังหวัดมุกดาหาร ได้มึง มีการแฉพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมภายในวัดเกี่ยวกับทางเพศหลายครั้งซึ่งก่อนหน้าได้มีการร้องไปยังคณะสงฆ์จังหวัดมุกดาหารเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหารไปแล้วแต่เรื่องกลับเงียบ โดยหวังว่าคดีจะเป็นมวยล้มต้มคนดู โดยในวันนี้ได้มีการนำคลิปลับที่ไม่เคยเปิดเผยที่อื่นมาก่อนนำส่งให้หนูพี่น้ำฝนไปประกอบการพิจารณาประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนราชการและคณะสงฆ์เพื่อพิจารณาผลให้ทำการสึกออกไปจากวงการผ้าเหลือง
โดยในการ เข้าร้องเรียน หมอปลาได้นำตัวนางลินอดีตแม่ชีเข้าให้ข้อมูลกับหลวงพี่น้ำฝนโดยบอกว่าการที่ต้องมาร้องเรียนกับหลวงพี่น้ำฝนในวันนี้เนื่องจากก่อนหน้าได้มีการนำเอกสารข้อมูลต่างๆที่ฝ่ายหญิงถูกกระทำนำส่งร้องเรียนไปแล้วที่หน่วยงานต่างๆแต่พบว่าคณะสงฆ์ในจังหวัดได้มีการออกมาเอื้อประโยชน์และยังไม่กำหนดให้พระพลทำการสึกออกไปวันนี้ด้วยความเชื่อมั่นในการทำงานของหลวงพี่น้ำฝนซึ่งมีประสบการณ์ เป็นตำรวจพระจึงน่าจะช่วยให้มีการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาและทางคณะสงฆ์ที่มีการดำเนินการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวเพราะที่ผ่านมามีหลักฐานหลายอย่างที่เด่นชัดแต่กลับยังไม่มีการพิจารณาโทษให้ชัดเจนแต่อย่างใด
“วันนี้ผมต้องการให้มีการดำเนินการอย่างชัดเจนเพราะหลายครั้งแล้วที่มีการติดตามเรื่องแต่ก็เงียบซึ่งในคลิปปรากฏชัดว่าอดีตแม่ชีได้บันทึกคลิปเอาไว้ในการสนทนาโดยมีการระบุชัดในวันที่มีการเปิดบริสุทธิ์และมีการร่วมเสพสมกันในพื้นที่ต่างๆซึ่งเป็นเสียงที่ชัดมากโดยพฤติกรรมของพระพลเป็นสิ่งที่ ไม่เหมาะสมและชัดเจนโดยจะมีการอ้างต่างๆนานาเพื่อขอมีเพศสัมพันธ์กับฝ่ายหญิงผมถามร่วงไปในลักษณะที่ไม่ได้บันทึกคลิปไว้ว่ามีการใช้ปากในการร่วมรักหรือไม่ฝ่ายหญิงก็บอกว่ามีและทางพระพลก็ไม่ยอมมีการหลั่งน้ำอสุจิภายในเนื่องจากกลัวฝ่ายหญิงท้องจากการสอบถามเพิ่มเติมผมยังรู้อีกว่าช่วงที่พระพลมีปัญหากันกับฝ่ายหญิงเป็นเพราะลุงพลได้เข้ามาที่วัด และมียูทูบเบอร์มาทำคอนเทนท์ทำให้ฝ่ายหญิงกลัวความวุ่นวายซึ่งทำให้ต้องมีการหลบออกไปจากวัดจนเป็นความห่างเหิน และมีการให้ข้อมูลออกมาในที่สุดวันนี้ผมอยากจะฝากบอกพระพลว่าลุงพลเป็นคนทำให้วัดวุ่นวายและเกิดปัญหาซึ่งก่อนหน้านี้ทราบว่าวัตถุมงคลของพระพลเป็นที่หายากแต่วันนี้อยากบอกได้ว่าหากใครจะหาก็พอจะหาได้แต่ไปหาคุยเอาที่ถังขยะและอยากให้เรื่องนี้มีการดำเนินที่ชัดเจนคือจะต้องทำการสึกพระรูปนี้ออกไปให้ได้” หมอปลากล่าว
ขณะที่นางลิน อดีตแม่ชีบอกว่าเรื่องต่างๆทั้งทางคดีความและทางเรื่องของการร้องเรียนไปยังคณะสงฆ์ได้มีการดำเนินการไปจนหมดแล้วซึ่งวันนี้ก็ถือว่ายังมีลักษณะการคุ้มครองพยานอยู่โดยที่ต้องมาร้องหลวงพี่น้ำฝนเพราะเชื่อว่าในคณะสงฆ์จะยังไม่มีการขับเคลื่อนใดใดจึงอยากให้ท่านช่วยเป็นสื่อในการติดต่อประสานงานสอบถามความคืบหน้าให้จบสิ้นโดยตนเองยอมรับว่าที่ผ่านมาก็รู้สึกผิดเพราะครั้งแรกที่ถูกพระพลร่วงละเมิดทางเพศก็เพราะบอกว่ามีการกระทำ ลักษณะไปบอกกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดก่อนที่จะขอมามีอะไรกับตนโดยบอกว่าตนเองเป็นภรรยาคนสุดท้ายซึ่งจะทำให้ภารกิจในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเสร็จสิ้นแต่ตรงนี้ตนเองยังไม่ได้มีหลักฐานปรากฏเพียงแต่เค้าบอกมาเท่านั้น
นางลิน อดีตแม่ชีบอกต่อว่าลักษณะของพระพลเป็นคนอารมณ์ร้ายจะเป็นคนที่พูดอะไรแล้วผู้คนเชื่อถือมีหลักการซึ่งตนเองก็เคยเห็นลักษณะดังกล่าวมานานหลายปี ส่วนใหญ่ที่เขาจากมามีอะไรด้วยก็จะเข้ามาทางด้านหลังของศาลาพักของแม่ชีและจะขอมาพูดตรงตรงว่าจะขอมีอะไรด้วยตลอดซึ่งตนเองยอมรับว่าเป็นฝ่ายผิดเช่นกันแต่เมื่อตนเองออกมาเปิดเผยแล้วก็อยากจะให้หน่วยงานต่างๆดำเนินการให้จบสิ้นชัดเจนและหวังว่าหลวงพี่น้ำฝนจะช่วยได้
ขณะที่หลวงพี่น้ำฝน เจ้าเอาวาดวัดไผ่ล้อมได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมดได้ให้ความเห็นว่าลักษณะดังกล่าวจากเสียงคลิปที่ได้ฟังเป็นการพูดคุยของคนทั้งสองคนในเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์หลายครั้งแต่ต้องขอให้ความเห็นว่าเรื่องนี้ต้องแบ่งออกเป็นสองกรณีคือหนึ่งในเรื่องทางกฎหมายซึ่งต้องมีการพิสูจน์ให้ชัดและมีหลักฐานมัดให้แน่นว่าคลิปเสียงนั้นเป็นของจริงไม่ได้ถูกตัดต่อรวมถึงต้องมีหลักฐานที่แน่ชัดหากเป็นคลิปที่ชัดเจนทางกฎหมายก็น่าจะดำเนินคดีไปกันได้ ส่วนทางคณะสงฆ์ก็แยกเป็นอีกทางหนึ่งซึ่งที่หมอปลาบอกว่าคณะพระสงฆ์ได้มีการช่วยเหลือกันเรื่องนี้ฟังแล้วเจ็บปวดแต่เรื่องเพิ่งมีการร้องเรียนเชื่อว่ายังมีการดำเนินการกันอยู่ซึ่งตอนนี้อาตมาจะรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมดจากฝ่ายหญิงเพื่อขอประสานงานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ที่ดำเนินการว่ามีความคืบหน้าเป็นเช่นไรแต่ขอให้หมอปลาเชื่อมั่นในการทำงานของคณะสงฆ์นั้นด้วยซึ่งการปกครอง คนในสังคมกลับแวดวงของคณะสงฆ์นั้นมีรูปแบบที่ต่างกันแต่หากเป็นอาตมารู้ว่ากระทำผิดแบบนี้ถ้าเป็นตัวเองก็จะขอสึกไปแล้วไม่อยู่อย่างนี้เพราะมันเป็นมลทินในวงการสงฆ์
“จะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวทำจะสูงจะต่ำอยู่ที่ทำตัวอาตมาขอฝากเรื่องนี้ไว้เพราะเป็นกรรมของแต่ละบุคคลโดยคนที่กระทำต้องมีสำนึกว่าได้กระทำผิดจริงหรือไม่อันนี้ขอพูดในฐานะพี่ไม่ได้รู้จักกับพระผจะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวทำจะสูงจะต่ำอยู่ที่ทำตัวอาตมาขอฝากเรื่องนี้ไว้เพราะเป็นกรรมของแต่ละบุคคลโดยคนที่กระทำต้องมีสำนึกว่าได้กระทำผิดจริงหรือไม่อันนี้ขอพูดในฐานะพี่ไม่ได้รู้จักกับพระผลมาก่อพลมาก่อน รู้จักพ่อจะสามารถบอกพฤติกรรมได้ซึ่งเราสามารถสืบได้อยู่แล้วตรงนี้ก็ต้องให้อดทนและรวบรวมพยานหลักฐานที่มีทั้งหมดออกมาอีกเพื่อที่จะทำให้ในส่วนของคณะสงฆ์สามารถดำเนินการตัดสินและพิจารณาได้อย่างเต็มที่รวมถึงเดี๋ยวจะมีการเดินหน้าประสานงานสอบถามความคืบหน้าของคดีให้ชัดเจนขอให้หมอปลาอย่าท้อแท้กับคณะสงฆ์ซึ่งอาตมาจะขอเป็นตัวกลางในการดำเนินการเรื่องนี้ให้” หลวงพี่น้ำฝนกล่าวปิดท้าย
