นนทบุรี ต่อข่าว ครูตีเด็ก ป.2 แขนช้ำ 2 ข้าง สาเหตุไม่ส่งการ์ดวันพ่อ ยอมรับผิดโทรขอโทษผู้ปกครอง จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพของเด็กชายปังปอนด์ อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดแห่งหนึ่งในเขตอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยในภาพปรากฏให้เห็นรอยช้ำแดงบริเวณแขนและหัวไหล่ทั้ง 2 ข้างของเด็กชาย พร้อมข้อความระบุว่า “สอบถามหน่อยค่ะ ลูกชายอยู่ ป.2 ไม่ได้ทำการ์ดวันพ่อส่งครู ครูตีที่น่องขาลายมาแล้ว 1 ครั้ง วันนี้มาตีอีก โดนแขนทั้งสองข้างแบบนี้ ควรให้แม่ทำยังไงดีคะ” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก “ข่าวสาร-คนปากเกร็ด” ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยแบ่งออกเป็น 2 มุมมอง บางส่วนเห็นว่าการกระทำของคุณครูเป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าการลงโทษเป็นไปเพื่อสั่งสอนเด็ก เนื่องจากเด็กไม่ส่งการบ้านตามที่ครูกำหนด ล่าสุด วันที่ 23 ม.ค. 68 ทีมข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว พบรองผู้อำนวยการโรงเรียน (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) *** เบลอหน้าด้วยครับ *** (ชุดสีม่วง) ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า เบื้องต้นทางผู้อำนวยการโรงเรียนได้ดำเนินการสอบคุณครูเปิ้ลตามขบวนการ ทางคุณครูเปิ้ลยอมรับผิดกับทางโรงเรียน จึงได้ดำเนินการว่ากล่าวตักเตือนและลงโทษทางวินัยเรียบร้อย และได้ประสานผู้ปกครองให้รับทราบแล้ว ส่วนเรื่องการลงโทษเด็กทางคุณครูเปิ้ลพร้อมจะเยียวยาตามความเหมาะสม ด้านนางบุศยมาศ เดชา อายุ 43 ปี อาชีพค้าขาย (เสื้อสีแดง) ซึ่งเป็นแม่ของเด็กชายปังปอนด์ และเป็นผู้โพสต์เฟซบุ๊ก โดยได้เปิดรูปภาพรอยฟกช้ำที่แขนของน้องให้ทีมข่าวดู และเปิดเผยว่า วันนี้รอยช้ำที่แขนของน้องปังปอนด์ช้ำหนักกว่าเดิมมาก ซึ่งเมื่อช่วงเช้าคุณครูเปิ้ล คุณครูสอนวิชาภาษาไทย ที่ได้ตีน้องโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาพูดคุย ขอโทษ และขอให้ลบโพสต์ดังกล่าว ซึ่งตนมองว่าเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยได้นัดพูดคุยกันวันอังคารหน้า และได้แจ้งว่าทางโรงเรียนตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพร้อมทำหนังสือเตือนมายังคุณครูเปิ้ลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่ได้คิดที่จะไปแจ้งความแต่แรก เพียงแต่ที่ออกมาโพสต์เพราะอยากได้รับความเป็นธรรมมากกว่านี้ เมื่อวานนี้พ่อของน้องเข้าไปที่โรงเรียน ทางผอ.โรงเรียนก็ได้เจอกัน แต่ไม่เคยเข้ามาดูน้อง หรือพูดคุยสอบถามอาการใดๆ ตนติดใจตรงนี้ พูดเพียงว่าจะรับเรื่องไว้เท่านั้น และทางคุณครูเปิ้ล ก็ไม่เคยลงมาพูดคุยอะไร มีแต่คุณครูท่านอื่นที่เข้ามาพูดคุยแทน ถ้าคุณครูเปิ้ลเข้ามาพูดคุยตั้งแต่เมื่อวานเรื่องคงจบไปแล้ว ตนคงไม่ติดใจอะไร ตนเข้าใจว่าคุณครูสามารถลงโทษน้องได้แต่ขอให้สมเหตุสมผลและเบาแรงลงหน่อย คุณครูเปิ้ลก็ยอมรับว่าตีหนักเกินไปจริง ตนก็น้อมรับคำขอโทษ และยินดีให้อภัยคุณครูเปิ้ล อยากให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนของคุณครูทุกคนว่าอย่าตีนักเรียนหนักจนเกินไปเพราะลูกใคร ใครก็รัก หมายเหตุ : รบกวนเบลอหน้ารองผู้อำนวยการโรงเรียน ป้ายชื่อโรงเรียนด้วยครับ