ตำรวจภาค1 แถลงจับคดีฆ่า สภ.ธัญบุรี
,คดียา ภูธร จ.สระบุรี,ปืนเถื่อน สภ.สำโรงใต้และออกหมายจับคดีฆ่าอดีตครู พื้นที่ สภ.บางปะอิน
วันที่ 22 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1 เขตจตุจักร กทม.พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1และ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1 ร่วมแถลงการจับกุม 4 คดีสำคัญในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค1
คดีที่ 1 จับกุมทีมลำเลียงยาเสพติด ทีมโกดังยาเสพติด”เจ้าโย วายร้าย 15″
เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 ชุด ชปส.ภ.1 ชุดที่ 2 และ จนท.ทหาร ขกท.ศปก.นสศ. ร่วมกันสืบสวนติดตามหาข่าวของกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง ทราบว่ามีการนำยาเสพติดมาแพร่กระจาย ในพื้นที่ อ.วิหารแดง จว.สระบุรี พื้นที่ติดต่อ อ.องครักษ์ จ.นครนายก
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ม.ค.2568 ได้จับกุม นายสมภพหรือเล็ก (สงวนนามสกุล) พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวน 40 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 1,000 กก. บริเวณริมถนนซอยโยธาธิการข้าง รร.นายร้อย จปร. หมู่ที่ 1
ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก จากนั้นได้สืบสวนขยายผล จนทราบว่าเป็นกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก นำมาแพร่กระจายในพื้นที่ภาคกลาง
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ม.ค.2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ได้เฝ้าสังเกตุการณ์ บริเวณบ้าน ต.คลองใหญ่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ซึ่งใช้เป็นที่พักเก็บยาเสพติด พบนายวันชัยหรือโย (สงวนนามสกุล) และพวกได้ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีดำ ออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว คาดว่าจะนำยาเสพติดมาส่งให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เข้าแสดงตน และเข้าตรวจค้นภายในรถยนต์และภายในบ้านหลังดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ
1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 35 กิโลกรัม
2. วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) จำนวน 34 กิโลกรัม
มีผู้ต้องหาที่ร่วมกันกระทำผิด มีจำนวน 4 ราย
1) นายวันชัย หรือโย ทำหน้าที่รับยาเสพติดจากกลุ่มผู้ลำเลียงมาพักไว้เพื่อรอจำหน่าย
2) นายพิชิตพล หรือกาย ทำหน้าที่รับยาเสพติดจากกลุ่มผู้ลำเลียงมาพักไว้เพื่อรอจำหน่าย
3) นายภานุวัฒน์ หรือเฟรม ทำหน้าที่รับยาเสพติดจากกลุ่มผู้ลำเลียงมาพักไว้เพื่อรอจำหน่าย
4) นายจิรพนธ์ หรือเจิด ทำหน้าที่คอยแพ็คยาเสพติดตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่ง
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน)เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน”
คดีที่ 2 สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ออกหมายจับคดีฆ่าอดีตครู
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ม.ค.2568 เวลาประมาณ 13.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.บางปะอิน ได้รับแจ้งเหตุมีบุคคลใช้อาวุธปืนยิงกัน และมีผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย อยู่ที่ริมถนนสนามไชย- เกาะเกิด(3011) ต.เกาะเกิด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ยี่ห้อเก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีเทา จอดอยู่ในลักษณะตกลงไปข้างทางริมถนน ภายในรถตรงเบาะนั่งคนขับ พบผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย เป็นชาย ถูกยิงด้วยอาวุธปืน จำนวน 6 นัด (บริเวณศีรษะ 3 นัด และลำตัว 3 นัด) ทราบชื่อต่อมาว่าชื่อ นายนาค (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี
ตรวจสอบภายในรถรถยนต์คันดังกล่าวพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. (ตกอยู่บริเวณริมถนนตรงจุดที่เกิดเหตุ 2 นัด ภายในรถ 5 นัด) รวม 7 นัด,โทรศัพท์มือถือของผู้ตาย จำนวน 3 เครื่อง และมีอยู่ 1 เครื่อง ที่กำลังคุยสายสนทนาอยู่กับ “ลค ตี๋ใหญ่” ซึ่งยังไม่ได้วางสาย,กระดาษโน้ตข้อความว่า “28 มกราคม ตี๋ใหญ่ตัดสิน อยุธยา” และ “ตี๋ใหญ่ พิพากษา 28 มกราคม ศาลอยุธยา/นัด 18-19 มกราคม จ่าย 3-4” อยู่บริเวณหน้ารถยนต์ฯ คันที่พบผู้เสียชีวิต พบเอกสารส่วนตัว และสมุดบัญชีธนาคาร 5 เล่ม อยู่ภายในรถ
จากการสอบถามพยานที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ (ประมาณ 40 เมตร) ให้การว่าขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงปืนติดต่อกัน จำนวน 7-8 นัด จากนั้นเห็นผู้ก่อเหตุ จำนวน 1 คน สวมหมวกกันน็อคสีดำ สวมเสื้อแขนยาวสีดำ ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบออโตเมติก สีเทา หลบหนีไป โดยมุ่งหน้าไปทาง ต.สนามไชย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ในขณะนั้นรถยนต์คันที่ผู้ตายขับขี่มาค่อยๆ ไหลตกลงไปข้างทางริมถนนตรงจุดเกิดเหตุ
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทาง
ที่ผู้ก่อเหตุใช้มาก่อเหตุและหลบหนี พบเสื้อแขนยาวสีดำถอดทิ้งไว้ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม. และพบโทรศัพท์ของนายตี๋ (ปลายสาย ที่นายนาค (ผู้ตาย) ได้สนทนากันขณะเกิดเหตุ) พบทิ้งอยู่บริเวณข้างทางห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 4 กม. ทำให้สันนิษฐานว่า นายธนาสันต์หรือตี๋ (สงวนนามสกุล) เป็นผู้ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายนาค (สงวนนามสกุล) ผู้ตาย
โดยแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ สันนิษฐานว่าเกิดจากสาเหตุที่ นายนาค (ผู้ตาย) เป็นที่ปรึกษาทางคดีให้กับนายธนาสันต์ หรือตี๋ ในคดีพยายามฆ่าและร่วมกันมีและใช้อาวุธปืนฯ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ม.ค.2567 ท้องที่ สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนายนาค ติดต่อให้นายทิวา เป็นทนายความให้ และมีการตกลงค่าจ้างในการทำคดีกันเป็นเงินจำนวนหนึ่ง และในคดีนี้ นายธนาสันต์ หรือตี๋ อยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดีในชั้นศาล โดยมีกำหนดนัดขึ้นฟังคำตัดสินของศาลในวันที่ 28 ม.ค.2568
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะอิน ร่วมกับ กก.สส.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา และ บก.สส.ภ.1 จึงได้ทำการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย จนศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้อนุมัติหมายจับ ให้ทำการจับกุม นายธนาสันต์ หรือตี๋ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือโดยไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ” ซึ่งตำรวจภูธรภาค 1 จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป และขอประชาสัมพันธ์ หากพบเห็นบุคคลดังกล่าวซึ่งเป็นบุคคลอันตราย กรุณาแจ้งเบาะแสมาที่ สภ.บางปะอิน หมายเลขโทรศัพท์ 0 3524 6946 โดยมีเงินรางวัลนำจับ จำนวน 20,000 บาท
คดีที่ 3 สภ.ธัญบุรีจับกลุ่มวัยรุ่นคดีฆ่าใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 5 คน
เมื่อวันที่ 19 ม.ค.68 เวลาประมาณ 02.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธัญบุรี ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธปืน เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านขายของเก่า ข้าง 7-11 หน้าหมู่บ้านเอื้ออาทร คลอง 10/1 ต.บึงสนั่น อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ทราบว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุครั้งนี้ จำนวน 1 ราย และบาดเจ็บอีก 5 ราย ทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาล จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนนายซัน (สงวนนามสกุล) ผู้บาดเจ็บจากเหตุครั้งนี้ ได้ให้การว่ากลุ่มของพวกตนได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับกลุ่มของนายโบ (สงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวนายโบ มาสอบถามข้อมูล ได้ให้ข้อมูลว่า กลุ่มของพวกตนมีชื่อว่ากลุ่ม “101” โดยจะมีสถานที่รวมตัวกันที่บริเวณร้านขายของเก่า ข้าง 7-11 หน้าหมู่บ้าน เอื้ออาทรคลอง 10/1 (สถานที่เกิดเหตุคดีนี้) ที่ผ่านมาได้ถูกกลุ่มผู้เสียชีวิตมาก่อกวนท้าทาย และปาระเบิดใส่อยู่บ่อยครั้ง ก่อนเกิดเหตุกลุ่มของนายโบ ได้มีการพูดคุยกันในแชทกลุ่มเฟซบุ๊ค และทราบจากสตอรี่ของกลุ่มผู้เสียชีวิตว่า จะมาปาระเบิดใส่กลุ่มของนายโบ ในเวลาประมาณ 03.00 น. กลุ่มของนายโบ จึงได้มีการนัดรวมตัวที่บริเวณร้านขายของเก่า (สถานที่เกิดเหตุคดีนี้) แต่เนื่องจากนายโบ มีประวัติคดีติดตัวอยู่ จึงไม่ได้ไปรวมตัวด้วย นายโบแจ้งว่า ทราบว่ากลุ่มของตนที่ก่อเหตุยิงกลุ่มผู้เสียชีวิตนั้น มีทั้งหมด 4 คน โดยมีผู้ร่วมก่อเหตุ 3คน เจ้าหน้าที่จึงทำการขอหมายจับต่อศาลฯ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธัญบุรี ได้ติดตามจับผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 3 ราย ดังนี้
1.นายภุมเรศ หรือบอล (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 53/2568ลงวันที่ 19 ม.ค.68
2.นายเอื้อ หรือเล็ก (สงวนนามสกุล) อายุ33 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 52/2527 ลงวันที่ 19 ม.ค.68 ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
3. ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเยาวชน อายุ 16 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ จ.1/2568 ลงวันที่ 20 ม.ค.68ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ตรวจยึดของกลางได้จำนวน 3 รายการ
1) อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (แบบกระทุ้ง) จำนวน 1 กระบอก ใช้กระสุนปืนลูกซอง ขนาด เบอร์ 13
2) ปลอกกระสุนปืน เบอร์ 12 จำนวน 1 ปลอก
3) อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนปากกา) จำนวน 1 กระบอก
คดีที่ 4 สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ
จับวัยรุ่นเป็นภัยต่อสังคม พร้อมอาวุธปืนเถื่อน 7 กระบอก
เมื่อวันที่ 20 ม.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ นำโดย พ.ต.อ.รักศักดิ์ เมฆจินดา ผกก.สภ.สำโรงใต้ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมในบ้าน หมู่ที่ 13 ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง
จ.สมุทรปราการ จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อเดินทางไปถึงพบกลุ่มวัยรุ่นนั่งอยู่บริเวณบ้านดังกล่าว และพยายามวิ่งหลบหนี ตำรวจสามารถควบคุมตัวกลุ่มวัยรุ่นได้ จำนวน 5 คน จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเพื่อขอตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบของกลาง อยู่บริเวณบนโต๊ะในบ้านที่เกิดเหตุ จำนวน 11 รายการ
1. อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาดเบอร์ 20 จำนวน 1 กระบอก
2. อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนปากกา) ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก
3. อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก
4. อาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลง ขนาด .380 ยี่ห้อ CZ 75 compact พร้อมซองกระสุน จำนวน 1 กระบอก
5. อาวุธปืนแบลงค์กัน ยี่ห้อ BLOW TR 14 AUTO พร้อมซองกระสุน จำนวน 1 กระบอ
6. อาวุธปืนแบลงค์กัน ยี่ห้อ RETAY BARONrihv พร้อมซองกระสุน จำนวน 1 กระบอก
7. อาวุธปืนแบลงค์กัน ยี่ห้อ SUR พร้อมซองกระสุน จำนวน 1 กระบอก
8. เครื่องกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 1 นัด
9. เครื่องกระสุนปืนขนาดเบอร์ 12 จำนวน1นุด
10. เครื่องกระสุนแบลงค์กัน จำนวน 45 นัด
11. ซองพกอาวุธปืน จำนวน 3 ซอง
พร้อมผู้ต้องหาซึ่งเป็นเยาวชนได้ จำนวน 5 คน จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่า อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ตรวจยึดได้เป็นของกลุ่มพวกตนจริง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา“ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลาง มาทำการสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีต่อไป และส่งผู้ต้องหาพร้อมของกลางต่อพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงใต้ เพื่อดำเนินการต่อไป