ตามรวบชายหื่นแอบถ่ายสาวข้างห้องขณะโป๊เปลือย
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รรท.รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ รรท.ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ, พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย, พ.ต.ท.หัตถพล ทองคำ, พ.ต.ท.ณัติรุจน์ วัฒนะฉัตรรัตน์ รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ธีระพงษ์ คงเขียว สว.กก.5 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.5 บก.ป.
ได้ร่วมกันจับกุม นายทองพิพัฒน์ฯ อายุ 27 ปี
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ จ.371/2567 ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ , บันทึกภาพและเสียงการกระทำอนาจารนั้นไว้เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบสำหรับตนเองและผู้อื่น และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งภาพหรือเสียงการกระทำอนาจารที่บันทึกไว้”
สถานที่จับกุม บ้านหลังหนึ่ง ต.คลองน้อย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี
สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหายพักอาศัยอยู่ที่คอนโด ต.วัดประดู อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี ขณะที่นายทองพิพัฒน์ฯ ผู้ต้องหา ยืนอยู่ที่ระเบียงด้านหลังห้องพักของตน ซึ่งอยู่ติดกับห้องพักของผู้เสียหาย แล้วใช้โทรศัพท์มือถือแอบถ่ายภาพวิดีโอ ขณะที่ผู้เสียหายโป๊เปลือย ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้านั่งอยู่ที่ห้องครัวภายในห้องพักของผู้เสียหาย แล้วบันทึกถ่ายภาพวิดีโอเก็บเอาไว้ในโทรศัพท์ของตน วันถัดมา
นายทองพิพัฒน์ฯ ไปยืนอยู่ที่ระเบียงหลังห้องพักของตนอีก ซึ่งขณะนั้นผู้เสียหายกำลังยืนล้างจานอยู่ที่ซิงค์ล้างจานภายในห้องครัวห้องพักของผู้เสียหาย นายทองพิพัฒน์ฯ ก็ได้บันทึกภาพวิดีโอผู้เสียหายในโทรศัพท์ของตนไว้อีกครั้ง จากนั้นได้ส่งต่อภาพวิดีโอดังกล่าวไปให้รุ่นน้องคนสนิทของตนซึ่งเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโด
จากนั้นผู้เสียหายทราบเรื่องที่เกิดขึ้น จึงแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายทองพิพัฒน์ฯ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี จนกระทั่งได้รวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายเรียกนายทองพิพัฒน์ฯ มาพบ แต่นายทองพิพัฒน์ฯ มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก จึงได้ขอศาลจังหวัด
สุราษฎร์ธานี อนุมัติออกหมายจับ นายทองพิพัฒน์ฯ ในความผิดฐาน “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, บันทึกภาพและเสียงการกระทำอนาจารนั้นไว้เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบสำหรับตนเองและผู้อื่น และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งภาพหรือเสียงการกระทำอนาจารที่บันทึกไว้” ได้ออกประกาศสืบจับไว้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่า นายทองพิพัฒน์ฯ พักอยู่บ้าน ต.คลองน้อย
อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี จึงวางแผนเข้าทำการจับกุมตัวไว้ได้ ตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง
สุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
และตรวจสอบพบว่านายทองพิพัฒน์ฯ ยังเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในข้อหา “พยายามข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจหรือของผู้อื่นจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นหรือยอมต่อสิ่งนั้น,บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนและลักทรัพย์ในเวลากลางคืน”
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยรับว่าเป็นคนถ่ายคลิปวิดีโอผู้เสียหายและได้ส่งไปให้รุ่นน้องจริง แต่ไม่ได้ใช้กำลังทำร้ายหรือข่มขู่ผู้เสียหายแต่อย่างใด