จ่าคิงส์พา ผสห.ถูกทำร้ายวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คูกรณีบอก”เบาเสียงลงหน่อย“แจ้งความคดีไม่คืบ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 ม.ค.68 ที่บริเวณหน้าแดนเนรมิตเก่า จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พานายกำพล ทะยะราษฎร์ อายุ 44 ปี ผู้เสียหายถูกคนข้างบ้านทำร้ายในช่วงวันปีใหม่ ร้องขอความเป็นธรรมตำรวจกองปราบ หลังคดีไม่คืบหน้า จ่าคิงส์แตงทิม กล่าวว่า หลังจากที่ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาผู้เสียได้มีปัญหากับเพื่อนบ้านเนื่องจากคืนวันเกิดเหตุผู้เสียหายได้ถูกเพื่อนบ้านบอกว่าให้ลดเสียงเพลงลง ก่อนจะเกิดการทะเลาะวิวาทกัน นายกำพล ผู้เสียหาย เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังกินเลี้ยงฉลองปีใหม่กับเพื่อนและน้องชายอยู่นั้น เพื่อนบ้านที่ก่อเหตุได้บอกให้ลดเสียงเพลงลง โดยหลังจากนั้นเพื่อนของตนได้เดินไปถามเพื่อนบ้านที่ก่อเหตุว่าเสียงดังแค่ไหน ก่อนที่อีกสักครู่ตนจะได้ยินเสียงดังขึ้น ตนและน้องชายจึงได้เข้าไปดูจนพบว่าตอนนี้เพื่อนและเพื่อนบ้านกำลังทะเลาะกันอยู่แล้ว โดยตนก็เห็นว่าจะมีการทำร้ายร่างกายกันจึงเข้าไปแทรกกลางเพื่อห้ามทั้งสองฝั่งก่อนที่ตนจะถูกจับกดลงกับพื้นแล้วถูกตีด้วยไม้ที่เป็นด้ามจอบหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บ บริเวณไหปลาร้าหักและบนศีรษะมีรอยแตกต้องเย็บจำนวน 6 เข็ม หลังเกิดเหตุตนได้ไปที่โรงพักเพื่อที่จะแจ้งความแต่ทางตำรวจบอกว่าให้ไปที่โรงพยาบาลก่อนแล้วค่อยกลับมาแจ้ง โดยหลังจากที่ตนได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วไปแจ้งความอีกครั้งก็พบว่าทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า มีคนมาแจ้งความก่อนหน้าเราแล้วก็คือ เพื่อนบ้านซึ่งเขาบอกว่าพวกตนนั้นไปรุมทำร้ายเขาทั้งที่จริงแล้วตนไม่ได้จะเข้าไปทำร้ายเพียงแค่จะเข้าไปห้าม ซึ่งเราก็มีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดโดยบอกว่าจะให้ตำรวจดูแต่ตำรวจก็ไม่ยอมดูบอกว่าให้ไปเตรียมหลักฐานพยานมาให้ครบก่อนแล้วกลับมาใหม่อีกครั้ง ในส่วนของเพื่อนบ้านที่ก่อเหตุที่ชื่อนายเกษมนั้นตนไม่เคยรู้จักมาก่อนเพิ่งเคยเห็นในวันนั้นเป็นวันแรก ไม่เคยมีปัญหาใดใดก่อนหน้ามาก่อนในคืนวันเกิดเหตุเป็นคืนวันปีใหม่ตนกำลังเลี้ยงฉลองอยู่ตนก็สงสัยว่าเหตุใดทำไมถึงไม่ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านหรือแจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ ทำไมถึงต้องมีการลงไม้ลงมือกันดูเหมือนเป็นข้ออ้างในการหาเรื่องทะเลาะเฉยเฉยจนตอนนี้เวลาผ่านมากว่าครึ่งเดือนแล้วยังคงไม่มีการติดต่อใดใดจากทางจะเริ่ม รวมถึงก็ไม่ได้มีการติดต่อพูดคุยกับทางฝ่ายผู้ก่อเหตุเลย อีกทั้งทราบมาว่าตัวของผู้ก่อเหตุน่าจะรู้จักกับสายตรวจในพื้นที่อีกด้วย เบื้องต้นตนต้องการเพียงแค่ให้ผู้เสียหายจ่ายค่าเยียวยาหรือเพียงแค่ค่ารักษาพยาบาลก็พอ อีกทั้งตนก็ห่วงในเรื่องความปลอดภัยและไม่กล้าที่จะกลับบ้านเนื่องจากว่าตัวของผู้ก่อเหตุ ดูเหมือนจะไม่เกรงกลัวกฎหมายเลยพร้อมทั้งเคยตะโกนมาว่า ”กูไม่กลัวหรอกกูเคยติดคุกมาแล้ว“ จึงได้มามาแจ้งความกับทางกองปราบเอาไว้ในวันนี้
