ปทุมธานี หนุ่มคลั่งไล่ยิงเพื่อนบ้านก่อนหนียิงตัวตายคานอน เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 15 ธันวาคม 2568 พ.ต.ท.ยศวัจน์ ศรีลาพัฒน์ สารวัตรสอบสวน สภ.ธัญบุรี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดภายในบ้านหมู่บ้าน การ์เด้นรังสิตวิว หมู่ 4 ถนนรังสิตนครนายก ต.บึงยีโถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรวัฒน์ เปี่ยมปิ่นเศรษฐ ผกก.สภ.ธัญบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน1 แพทย์รพ.ธัญบุรี และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์สองชั้น เลขที่ 89/158 ห้องนอนชั้นสอง เจ้าหน้าที่พบศพ นายสุรชัย ชังเภา อายุ 45 ปี อยู่หมู่ 8 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา เสื้อยืดคอกรมสีเขียวลายดอก สภาพนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างที่นอนจมกองเลือดมีหมอนปิดศีรษะไว้ พบอาวุธปืนชนิดกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม ตกอยู่ข้างข้าง มีบาดแผลถูกขมับขวาทะลุ 1 นัด จากการตรวจสอบบริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน ขนาด 9 มม.ตกอยู่จำนวน 5 ปลอก และหน้าบ้านติดกันประตูหน้าถูกยิงและงัดพังประตู ในบ้านชั้นล่างพบหัวกระสุนปืน 1 หัว และปลอก 1 ปลอก และที่ประตูห้องนอนชั้นสองพบรูกระสุนยิงทะลุประตูไปถูกตู้เสื้อผ้า 2 รู หน้าห้องพบปลอก 2 ปลอก หัวกระสุน 2 จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน สอบถามนางสาวกรรณิกา อายุ 35 ปี เพื่อนบ้านที่ถูกคนตายคลั่งไล่ยิง ให้การว่า ผู้ตายมาเช่าบ้านอยู่ข้างบ้านตนเอง โดยวันนี้ก่อนเกิดเหตุคนตายได้เข้ามาพังบ้านของตนเองและพังประตูด้านล่างเข้าไปภายในบ้านซึ่งตอนนั้นตนเองยังไม่หลับได้ยินเสียงพังประตูเข้ามา โดยที่บ้านพักอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน มีตนเอง แฟน และลูกชาย ตอนนั้นลูกอยู่ห้องติดกันได้เปิดประตูวิ่งเข้ามาหาตนเองแล้วบอกว่า แม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งระหว่างนั้นตนเองก็รู้แล้วว่าคนตายได้เข้ามาภายในบ้าน จึงได้เรียกลูกเข้ามาภายในห้องนอนแล้วให้แฟนดันตู้เย็นกับตู้เสื้อผ้ามาปิดกั้นประตูห้องนอนไว้ จากนั้นคนตายได้เดินขึ้นมาบริเวณชั้นสองแล้วยิงปืนใส่ประตูจนทะลุประตูเข้ามาจำนวน 4 นัด ตนเองจึงได้โทรหาป้าเจ้าของบ้านเช่าว่าให้ช่วยเหลือเพราะว่าคนตายพังประตูเข้าบ้านแล้วก็ยิงใส่ ซึ่งคนที่บุกเข้ามายิงเขาพึ่งมาเช่าบ้านอยู่ข้างข้างได้ไม่กี่วันซึ่งหลังจากที่ยิงใส่ห้องจำนวน 4 นัด ตนเองได้โทรหาป้าเจ้าของบ้านอีกรอบโดยป้าบอกว่า ชายคนดังกล่าวได้ลงมาจากบ้านและเดินขึ้นไปที่บ้านของเขาแล้ว ซึ่งลุงกับป้าเจ้าของบ้านก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดจากห้องเขาแล้วทุกอย่างก็เงียบไปเลย ซึ่งตนเองไม่เคยรู้จักคนตายมาก่อน แต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คนตายได้เดินมาหาที่บ้านพร้อมกับยกมือไหว้แล้วบอกกับตนเองว่า ผมขอโทษนะครับที่บ้านเสียงดังเดี๋ยวผมจะซื้อกระเช้ามาไหว้ ซึ่งเราก็ตกใจ จึงได้บอกไปว่าไม่มีไม่เป็นไร เพราะว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีเสียงอะไรผิดปกติ ทางด้านนางทองตัน อายุ 54 ปี เจ้าของบ้านเช่า เล่าว่า คนตายเข้ามาเช่าบ้านตนเองเมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งตนเองก็ไม่เคยรู้จักเขามาก่อนโดยบ้านหลังนี้ติดป้ายให้เช่าอยู่แล้วคนตายก็ติดต่อเข้ามาซึ่งตอนที่เข้ามาก็มาคนเดียวโดยพฤติกรรมทั่วไปตอนที่เข้ามาก็ดูเป็นคนนิสัยดี แต่คนตายบอกกับตนเองว่า เค้าเครียดมากเลยป้าเค้าเลิกกับแฟนและยกทรัพย์สินให้ ผมต้องมาอยู่คนเดียวผมต้องทำใจให้ได้ผมต้องอยู่ให้ได้ซึ่งหลังจากที่เขามาอยู่ตนเองก็จะคุยผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ มีอยู่ครั้งหนึ่งคนตายไลน์มาบอกว่าป้าผมขึ้นไปนอนข้างบนผมเปิดทีวีผมเกรงใจข้างบ้านก็เลยบอกว่า ผมจะปรับตัวใหม่เพราะเดี๋ยวข้างบ้านเขารำคาญ ป้าก็เลยบอกไปว่าไม่เป็นไร ถ้ารำคาญเขาก็ต้องมาบอกป้าเองไม่เป็นไรเราก็บอกไปแบบนี้ พอมาวันนี้คนตายเดินไปเดินมาอยู่หน้าบ้านแล้วก็คุยเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าเช่าบ้านว่า จะมีการจ่ายก่อนเพราะว่าได้รับเงินมา ซึ่งตั้งแต่ที่คนตายมาอยู่ก็มีเพื่อนมาหา แค่คนเดียว อุ้มเด็กน้อยมาด้วยมาพูดคุย จนมาถึงวันนี้ตอนที่เอาปืนออกมายิงป้าก็นอนหลับไปแล้วจนข้างบ้านโทรมาเรียกจึงได้ปลุกแฟนลงมาดูก็พบว่าเขายืนอยู่บริเวณหน้าบ้านเราก็พยายามเรียกออกมาเค้าก็บอกว่าไม่เป็นไรครับป้า ก็เดินวนเวียนอยู่บริเวณบ้านข้างข้างก่อนที่จะยิงที่ประตูแล้วก็ขึ้นไปชั้นสองซึ่งตนเองก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ซึ่งป้าก็ได้ตะโกนเตือนไปว่า อย่าไปยุ่งบ้านเขาซึ่งคนตายนก็ตอบมาว่า ไม่เป็นไรครับป้าเดี๋ยวผมจัดการเองเดี๋ยวผมยิงตัวตายแล้ว เดี๋ยวผมฆ่าตัวตายแล้ว พอคนตายเดินออกมาแฟนป้าก็ได้เดินไปจับแขนบอกว่า ลุงไม่ต้องยุ่งกับผม เดี๋ยวผมก็ฆ่าตัวตายแล้ว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนบ้านสักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดแล้วก็เงียบไปเลย ตนเองจึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ทำการบันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานพร้อมทั้งเก็บรวบรวมปลอกกระสุนปืนและหัวกระสุนปืนและอาวุธปืนที่ผู้ตายใช้ก่อเหตุนำตรวจสอบเพื่อดำเนินการต่อไป ก่อนมอบศพให้อาสาสมัครมูลนิธิฯนำศพผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรยังนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อหาสาเหตุการตายพร้อมทำการติดต่อญาติผู้ตายเพื่อมาทำการสอบสวนถึงสาเหตุที่ก่อเหตุระทึกและให้ญาติรับศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป














